“โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ “มาร์ติน” ฟอร์มโหดเหมาชัย “ก้อง-สมเกียรติ” สร้างประวัติศาสตร์บิดคว้าโพเดียม โฮมเรซ

สุดยอดมอเตอร์สปอร์ต 2 ล้อโลก “โมโตจีพี” ดวลความเร็วสนาม 17 รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” สุดเดือดบนแผ่นดินไทย ยอดผู้ชมทะลุ 1.79 แสน ฮอร์เก มาร์ติน นักบิดสแปนิชจาก พรีม่า พรามัค เรซซิ่ง ระเบิดฟอร์มเหมาชัยชนะในรุ่น โมโตจีพีไปครอง ไล่จี้ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า แชมป์โลกชาวอิตาเลียนจาก ดูคาติ เหลือเพียง 13 คะแนน ด้าน“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย สร้างประวติศาสตร์คว้าโพเดียมในบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก พร้อมสร้างสถิติเป็นนักบิดไทยคนไทยในประวัติศาสตร์ที่ขึ้นโพเดียม “โฮมกรังด์ปรีซ์” ได้สำเร็จ

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2023 สนาม 17 รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วอย่างยิ่งใหญ่ต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566  โดยไฮไลต์ของอยู่ที่การรวมเอานักบิดระดับพระกาฬกว่า 80 คน จากการแข่งขันทั้งสิ้น 3 รุ่นได้แก่ โมโตจีพี, โมโตทู และ โมโตทรี มาดวลคันเร่งให้แฟนชาวไทยได้ชมกันอย่างสุดมันส์

สถานการณ์ในรุ่น โมโตจีพี อยู่ในช่วงสำคัญของการลุ้นแชมป์โลกระหว่าง ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า จ่าฝูงชาวอิตาเลียนจาก ดูคาติ เลโนโว ทีม ซึ่งมีคะแนนนำคู่แข่งคนสำคัญอย่าง ฮอร์เก มาร์ติน นักบิดสแปนิชจาก พรีม่า พรามัค เรซซิ่ง หลังผ่านรอบ “สปรินต์” ในวันเสาร์เพียง 18 คะแนนเท่านั้น

ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ มาร์ติน ขนาบข้างด้วย ลูก้า มารินี นักบิดอิตาเลียนจาก มูนนีย์ วีอาร์46 เรซซิ่ง ทีม และ อเลช เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชจาก อพริเลีย เรซซิ่ง ในกริดที่ 3 ส่วน บันยาญ่า ได้เริ่มเกมในกริดที่ 6

เกมเรซนี้มีความพลิกผันตลอด 26 รอบสนาม โดย มาร์ติน สามารถบิดคว้าชัยชนะไปครองอย่างสุดมันส์ด้วยเวลา 39 นาที 40.045 วินาที เฉือน บันยาญ่า ที่ไล่บี้เข้าเข้าชัยในอันดับ 3 แต่ได้รับการเลื่อนขึ้นมาคว้าอันดับ 2 ตามหลัง 0.253 วินาที แทนที่ของ แบรด บินเดอร์ นักบิดแอฟริกาใต้จาก เรดบูล เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี เรซซิ่ง ทีม ที่พลาดเหยียบแทร็กลิมิตในรอบสุดท้าย ขณะที่ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี และ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า ตามเข้าป้ายในอันดับ 6 และ 7 แต่ได้ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 และ 6 หลังจากที่ อเลช เอสปาร์กาโร ซึ่งเข้าเส้นชัยอันดับ 5 โดนปรับ ล่วงอยู่ลงไปอยู่อันดับ 8 จากแรงดันลมยางไม่ถึงเกณฑ์

ผ่านการแข่งขันสนามนี้ บันยาญ่า ยังรั้งจ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสมมีทั้งสิ้น 389 คะแนน โดน มาร์ติน ไล่บี้เข้ามาเหลือเพียง 13 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกทั้งสิ้น 3 สนามนี้ปีนี้ ส่วน มาร์โก เบซเซ็คคี นักบิดอิตาเลียนจาก มูนนีย์ วีอาร์46 เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 79 คะแนน

ด้านเกมการแข่งขันในรุ่น โมโตทู ซึ่งแฟนชาวไทยติดตามเชียร์ทั่วประเทศ ปรากฏว่า “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ออกสตาร์ตจากกริดที่ 5 ทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 3 ในช่วงต้นเรซ ก่อนบิดเข้าเส้นชัยในอันดับดังกล่าว ตามหลังผู้ชนะอย่าง เฟร์มิน อัลเดเกร์ นักบิดสแปนิชจาก เบต้า ทูล สปีดอัพ 9.794 วินาที ขณะที่อันดับ 2 เป็นของ เปโดร อคอสต้า นักบิดสแปนิชจาก เรดบูล เคทีเอ็ม อาโย ตามหลัง 3.481 วินาที

จากผลงานยอดเยี่ยมในโฮมเรซ ส่งผลให้ “ก้อง” สมเกียรติ ปลดล็อกขึ้นโพเดียมในบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก พร้อมสร้างสถิติเป็นนักบิดไทยคนไทยในประวัติศาสตร์ที่ขึ้นโพเดียมใน “โฮมกรังด์ปรีซ์” ได้สำเร็จ โดยเจ้าของหมายเลข 35 รั้งอันดับ 5 นตารางคะแนนสะสมในรุ่น โมโตทู มีทั้งสิ้น 143.5 คะแนน

ผลการแข่งขันในรุ่น โมโตทรี ต้องมาวัดกันถึงโค้งสุดท้าย ปรากฏว่าชัยชนะตกเป็นของ ดาวิด อลอนโซ นักบิดดาวรุ่งชาวโคลัมเบีย จาก แกสแกส อัสพาร์ ทีม ด้วยเวลา 32 นาที 45.307 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง ไทโยะ ฟูรุซาโตะ นักบิดญี่ปุ่นจาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย เพียง 0.266 วินาทีเท่านั้น อันดับ 3 เป็นของ คอลลิน วายเยอร์ ดาวรุ่งดัตช์จาก ลิควิด โมลี ฮัสควาน่า อินแท็คจีพี ตามหลัง 0.359 วินาที

ส่วนนักบิดดาวรุ่งชาวไทยที่ลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ปรากฏว่า “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง – โบเอ บิดเข้าป้ายอันดับ 27 ตามด้วย “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในอันดับ 28

ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดย ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์จัดการแข่งขันประกาศจำนวนผู้เข้าชมอย่างเป็นทางการตลอดสุดสัปดาห์ทั้งสิ้น 179,811 คน

สนามถัดไปของศึก โมโตจีพี 2023 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2566  ที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ในรายการ มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์

Facebook Comments