เจนีวา มอเตอร์ โชว์ 2015 (2)
งานนี้คงจะต้องยาวสักหน่อย เพราะงานโชว์ระดับโลกอย่างนี้ มีรถมาเปิดตัวกันมากมาย แต่จะพยายามเลือกเอาที่พอจะรู้จักกันในบ้านเรามานำเสนอให้มากที่สุด มาต่อกันด้วยท่านนายสิบ ซีตรอง ที่เอา ดีเอส5 มาปรับโฉมใหม่ หนนี้เอาโลโก้นายสิบ สองขีดออก แต่เปลี่ยนเป็นโลโก้ใหม่บนกระจังหน้า ที่จะเป็นโลโก้ใหม่ ดีเอส ใช้ต่อไปในอนาคต
กรอบกระจังหน้า ใช้โครเมียมล้อมรอบ ซี่ตะแกรง มีโลโก้ใหม่ตรงกลาง สอดรับกับไฟหน้าซีนอน และไฟแอลอีดี เดินทางกลางวัน โดยภาพรวมแล้ว รูปทรงโดยรวมไม่ค่อยจะเปลี่ยนไปมากนัก นอกจากเส้นสายที่ปรับให้ทันสมัยขึ้นมาหน่อย ที่ปรับมากก็เป็นภายใน หนนี้ให้จอทัชสกรีน 7 นิ้ว ควบคุมระบบให้ความบันเทิงทั้งหมด จาก เดนอน พร้อมระบบนำทางผ่านดาวเทียม แถมด้วยระบบ มิเรอร์ลิงค์ MirrorLink เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนของคุณเข้ากับตัวรถ ที่พัฒนาร่วมกับแอปเปิ้ล และจะมีลูกเล่นของแอปเปิ้ล เพิ่มเติมในอนาคต พรั่งพร้อมด้วยการตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ รวมทั้งชุดแผนที่ต่างหาก ระบบขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน เทคโนโลยีใหม่ๆ มี ระบบตรวจสอบจุดบอด ระบบจดจำการปรับเบาะนั่ง
เครื่องยนต์มีให้เลือก 6 แบบ เบนซิน TPH165 1.6 ลิตร 162 แรงม้า พร้อมเกียร์ออโต้ 6 สปีด อนาคตจะตามมาด้วย TPH210 กับเกียร์ธรรมดา ส่วนผู้ที่ชื่นชอบเครื่องยนต์ดีเซล มีเครื่องใหม่ใช้ชื่อ บลูเฮชดีไอ BlueHDi ที่เตรียมรับข้อกำหนดค่าไอเสีย ระดับ ยูโร 6 ความจุ 1.6 ลิตร 118 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และออโต้, 2.0 ลิตร 148 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ 2.0 ลิตร 178 แรงม้า พร้อมเกียร์ออโต้ 6 สปีด และในอนาคตจะตามมาด้วย เครื่องยนต์ ไฮบริด ใช้ดีเซล ร่วมกับไฟฟ้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ ออกมาให้ได้ชื่นชม รถตัวจริงจะออกขายในอังกฤษ ภายในปีนี้ แต่ยังไม่ประกาศราคา
ต่อมาด้วย เฟอร์รารี่ เปิดตัวซูเปอร์คาร์ 488 จีทีบี ที่จะมาแทน 458 ด้วยเครื่องยนต์ วี8 เทอร์โบ วางกลาง ที่ได้ม้าเพิ่มขึ้นอีก 99 ตัว กลายเป็น 661 แรงม้า แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 76 นิวตันเมตร ทำ 0-100 ได้ภายใน 3 วินาที เพียงแค่นับ หนึ่ง สอง สาม ก็ขึ้นไปถึง 100 กม./ชม. แล้ว เครื่องยนต์หนนี้ทำใหม่ วี8 3.9 ลิตร เทอร์โบคู่ พร้อมเกียร์ออโต้ 7 สปีด คลัทช์คู่ ที่เฟอร์รารี่คุยว่า เร็วกว่ารุ่นเก่าแน่นอน
รูปร่างหน้าตา ก็ยังคล้ายกับรุ่นเดิมๆ แต่ปรับไฟส่องสว่างหน้า ให้ทันสมัยขึ้น ช่องรับลมด้านหน้า ค่อนข้างกว้าง มีเสาค้ำกลาง ส่วนด้านหลังยังเกือบเหมือนเดิม แต่ปรับเพื่อให้ลมไหลผ่านได้สะดวก ที่ช่วยให้ลดแรงต้านอากาศ รวมทั้งช่วยเพิ่มแรงกดไม่ให้ตัวรถเหินขึ้น พร้อมท่อไอเสียคู่
ภายใน ปุ่มควบคุมย้ายไปอยู่ตรงกลางผู้ขับขี่ ให้ควบคุมได้ง่ายที่สุด ระบบการควบคุมตัวรถไม่ให้ลื่นไถล ก็ปรับแต่งใหม่ เอาเทคโนโลยีที่ได้จากการแข่งขัน ฟอร์มูลา 1 มาใช้ เพื่อให้ควบคุมรถได้ง่ายแม้ขณะใช้ความเร็วสูง รวมทั้งวิศวกรลงความเห็นกันว่า เสียงท่อไอเสีย ยังไม่เพราะ เลยต้องปรับเสียงให้เพราะกว่าเดิม แต่ปรับลดค่าไอเสียได้เพียง 260 กรัม/กม. เท่านั้น ลดลงจากรุ่น 458 เพียง 15 กรัม/กม.
อีกเจ้าหนึ่งคือ ฟอร์ด นำเสนอตัวแรง โฟกัส อาร์เอส Focus RS เครื่องยนต์อีโค่บู๊สท์ 2.3 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ คลัทช์คู่ ให้กำลัง 316 แรงม้า เพราะได้แรงยุจากการโชว์ซูเปอร์คาร์ ฟอร์ด จีที ในงาน ดีทรอยต์ มอเตอร์ โชว์ เลยจับเอา โฟกัส มาทำให้แรงอีกรุ่นหนึ่ง นอกเหนือจาก มัสแตง พร้อมออกสู่ตลาดต้นปีหน้า ตั้งราคาเอาไว้ไม่เกิน 1,200,000 บาท ขณะที่ให้กำลังเทียบชั้นได้กับรถแรงทั้งหลายในตลาดเวลานี้ ด้วยวิธีการใช้อีเล็คทรอนิคควบคุมปรับการส่งกำลังไปยังล้อต่างๆ ได้ตามต้องการ ที่ทำให้กลายเป็นรถแข่งไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ฟอร์ด คุยว่า เครื่องอีโค่บู๊สท์ ตัวนี้ สามารถเร่งรอบได้ถึง 6,800 รอบต่อนาที ขณะที่ค่าไอเสียลดลงจากเครื่อง 2.5 ตัวเดิม 20% มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยรถรุ่นมาตรฐานมาพร้อม กะทะล้ออัลลอย 19 นิ้ว เบรกเบรมโบ เบาะนั่งเรคาโร่ ส่วนตัวโชว์จะใช้สีน้ำเงิน จากเดิมใช้สีเขียวมาตลอด
อีกค่ายจากญี่ปุ่น ซีวิค ไทพ์ อาร์ ที่คุยไว้ว่าเป็น รถแข่งบนถนน race car for the road พัฒนามาเพื่อต่อกรกับคันข้างบน ฟอร์ด โฟกัส อาร์เอส โดยจะตั้งราคาให้ต่ำกว่า 1,200,000 บาท นิดหน่อย แถมเอาไปวิ่งในสนามเนอร์เบิร์กริง มาแล้ว คุยว่าทำเวลาเพียง 7 นาที 50.63 วินาที แถมบอกด้วยว่ากำลังพัฒนารุ่นนำ้หนักเบากว่านี้ เพื่อเอาไว้ลงสนามแข่งจริง จะตามมาในไม่ช้า
เครื่องยนต์เบนซิน วีเทค 2.0 ลิตร เทอร์โบ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลัง 306 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เร่งรอบได้ถึง 7,000 รอบขณะที่แรงบิดเริ่มมาตั้งแต่ 2,500 รอบ เกทับกันเห็นๆ ทำความเร็ว 0-100 ในเวลา 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 265 กม./ชม. ด้วยการออกแบบระบบช่วงล่างหน้าใหม่ ที่ช่วยลดการสูญเสียแรงบิดได้ถึง 50% จากรุ่นปกติ และใช้พวงมาลัยไฟฟ้า มีโหมดการขับขี่ให้เลือก ว่าจะเอาแบบธรรมดา หรือจะแบบซิ่ง
ฮอนด้า บอกว่า การออกแบบรถคันนี้ เพื่อช่วยในการลดแรงต้านอากาศ รวมทั้งสปอยเลอร์หลัง ที่ช่วยเพิ่มแรงกด ไม่ให้เหิน ที่คำนวณโดยวิศวกรมาเรียบร้อย และพร้อมจะขึ้นสายพานการผลิตได้ทันที กำหนดวางตลาดภายในปีนี้