สถานที่เปิดสอน
Brand: MAZDA Model: 626
Year: 1889 Miles: 0-5000
From: ชัยรัฐ พาสพัฒนพาณิชย์
เรียนคุณอาธเนศร์
ผมรบกวนปรึกษาด้วยครับ ผมมีความสนใจที่จะเปิดอู่สีและอู่ซ่อมรถที่ดี แต่ไม่มีความรู้เรื่องรถหรือสีเลยครับ เรียนปรึกษาคุณอาแนะนำสถานที่เรียนด้วยครับว่ามีที่ไหนเปิดสอนบ้าง ตามกำหนดการที่ตั้งใจไว้ คิดว่าจะเปิดอู่สีก่อนและเมื่อสามารถทำได้ดีแล้วจึงจะเปิดอู่ซ่อมรถ
ผมได้พยายามหาหนังสือเพื่อศึกษาเรื่องการทำสีรถตามร้านหนังสือแล้ว ยังไม่พบ หากคุณอาธเนศร์มีรายชื่อหนังสือแนะนำ รบกวนขอรายชื่อด้วยครับ และสำหรับอู่ซ่อมรถ ผมสนใจเรื่องเครื่องยนต์เป็นหลัก ผมจบมัธยมปลายสาขาศิลป์-คำนวณ ปริญญาตรีทางด้านการตลาด และกำลังศีกษาต่อปริญญาโท (MBA) ซึ่งไม่มีความรู้เครื่องยนต์แต่เป็นงานที่อยากทำครับ ถึงแม้จะดูเหมือนเริ่มต้นเมื่อสายเมื่อเทียบกับผู้ที่เรียนจบสายอาชีพ (ปวช.หรือ ปวส.) แต่ผมมีความพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่พื้นฐานทั้ง 2 งาน เพื่อที่จะได้ทำงานตามที่ชอบจริงๆ หากผมต้องหาความรู้เพิ่มเติมในพื้นฐานก่อน รบกวนปรึกษาคุณอาอีกครั้งด้วยครับ ระยะเวลาที่ผมกำหนดไว้ คือ เวลาในการศึกษาเรื่องสีและเปิดอู่สีภายใน 3 ปี ไม่ทราบว่าเพียงพอหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ
ชัยรัฐ
(ต้องขอรบกวนคุณอาผมไม่สามารถหาที่ส่ง e-mail ถามได้โดยตรง จึงต้องพิมพ์ผ่านทางรายละเอียดปัญหา หากเป็นไปได้ขอให้ตอบกลับที่ petch_jang@yahoo.com หรือ bcc_141@hotmail.com ครับ ขอบคุณครับ)
คุณชัยรัตน์ อยากทำอู่สีก่อน ผมว่า อู่สีนี่ ทำไม่ยากหรอกครับ แต่มายากเอาตอนเลี้ยงช่างสีไว้กับคุณเองนี่น่ะซี ยากเอาการอยู่เหมือนกัน
คุณต้องหาคนมีฝีมือไว้ทำงาน และคนที่มีฝีมือ ก็มักจะไม่ค่อยมีความมั่นคงในการอยู่รับจ้างเท่าไรนัก โดยเฉพาะพวกซ่อมสีรถยนต์นี่น่ะครับ
เลี้ยงยาก เอาใจยาก เก็บไว้กับเราเองก็ยาก นอกจากเราจะเป็นงานเอง และวางระบบดีดี
วิธีเดียวที่พอจะทำได้ ก็คือเข้าไปฝึกงานกับผู้ชำนาญงานอยู่ก่อนแล้ว ให้เขาสอน และดูการคุมคนของเขา ต้องใช้เวลาหลายปีเหมือนกัน กว่าเราจะออกมาทำเองได้ และหาคนมารองรับงานของเราได้
ทำอู่รถยนต์ อู่ซ่อมน่ะนะครับ น่าจะยากกว่าอู่สีเข้าไปอีก คุณต้องมีพวกเป็นร้านอะไหล่ มีกลุ่มอะไหล่เก่า มีช่างที่พอจะมีความรู้ดีมาก ทางด้านอีเล็กทรอนิกซ์รถยนต์ ที่จะหายากมากสำหรับไทยไทยเรา
คุณเองก็ต้องเก่งภาษาอังกฤษอย่างภาษาเทคนิคด้วย เพราะความรู้ต่างต่างนั้นจะหาได้จากภาษาอังกฤษเป็นส่วนมากครับ
เครื่องมือช่างทุกชิ้น ก็มีคู่มือเป็นภาษาอังกฤษ และเป็นศัพท์เทคนิคทั้งนั้นด้วย
คุณต้องใช้เครื่องมือพิเศษ สำหรับรถยนต์สมัยใหม่นี่มาก หลายชิ้น อย่างน้อย ก็ต้องมีคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจเช็กรหัสคามเสียหาย ซึ่งปัจจุบัน ไม่ได้บอกเป็นรหัสแล้วก็มี แต่บอกเป็นจุดที่เสียเลย แล้วยังต้องใช้อุปกรณ์ตัวอื่น เช่นมัลติมิเตอร เช็กดูอีกด้วยว่า เสียจริงหรือเพียงขั้วไฟหลวมเท่านั้น
มันซับซ้อนมากหน่อยครับ
ต้องคุยกันนาน และเตรียมงานกันนานมากทีเดียว หนังสือเกี่ยวกับเรื่องสีรถยนต์ ก็มีแต่หนังสือภาษาอังกฤษเท่านั้นที่ผมเห็นน่ะ ต้องดูตามร้านหนังสือใหญ่ใหญ่ครับ ร้านหนังสือต่างประเทศนะ ไม่ใช่ร้านหนังสือไทย-ธเนศร์