รถสตาร์ทติดยาก เครื่องกระตุก และ……

Brand: VOLKSWAGEN Model: Golf
Year: 1970 Miles: 20001-40000
From: นฤชิต วิมิตตะนันทกุล

:

สวัสดีครับ
ขอความกรุณาถามปัญหาเรื่องรถนะครับ ปรึกษามาหลายอู่แล้ว ให้คำตอบไม่ตรงกัน เลยไม่ได้ซ่อมสักที
1. อันแรกเลย รถสตาร์ทติดยากมาก ต้องใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที เวลาสตาร์ทต้องเหยียบคันเร่งค้างไว้ตลอด จะช่วยให้ติดง่ายขึ้น และบางครั้งเวลาสตาร์ทจะมีเสียงดังครืดๆ เสียงดังมาก จนผมต้องปิดสวิทย์ก่อนจะลองใหม่ เป็นอย่างนี้บ่อยมาก แล้วพอติดแล้ว ไม่ได้ติดเลยนะครับ มันจะกระตุกอยู่เป็นระยะ ต้องเหยียบคันเร่งให้เครื่องเร่งแรงๆ สักพักใหญ่ โดยจะมีเสียงคล้ายท่อไอเสียอุดตัน หรือเสียงเหมือนท่อไอเสียสำลักตลอด พอเร่งเครื่องได้สักพักแล้ว ถึงจะออกรถไปได้ เสียเวลามากๆๆๆ
2. เวลาขับไปที่ความเร็วช้าๆ รถจะลำสัก หรือน็อคบ่อยๆ ต้องใช้วิธีปลดเกียร์ว่าง (เกียร์กระปุก) แล้วเหยียบคันเร่งจนสุดสักสองสามครั้ง แล้วค่อยเข้าเกียร์ 2 หรือ 3 ไปต่อ
3. เวลาจอดรถและดับเครื่องแล้ว รถไม่ดับสนิท แต่จะสั่นและมีอาการค้างอยู่สักพัก หรือบางทีเหมือนเครื่องยังทำงานต่อ เหมือนปลดเกียร์ว่างไว้ แต่ไม่ได้วิ่ง เป็นอยู่บ่อยๆ (มันเป็นอะไรของมันก็ไม่รู้ สตาร์ทติดยาก แต่ดับเครื่องเนี่ยจะไม่ยอมดับเฉยเลย)
4. จากอาการทั้งสามข้อ ผมไปให้ที่อู่แห่งหนึ่งที่ซ่อมรถโฟล์ครุ่นเก่าโดยเฉพาะดู เค้าบอกว่าเป็นเพราะไฟไม่พอ การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ คือมีน้ำมันค้างแต่ไฟไม่พอที่จะไปเผาไหม้ รถเลยกระตุก ผมเลยให้เค้าจัดการ ทำอะไรก็ได้ ให้มันดีขึ้นก็แล้วกัน เค้าเลยเปลี่ยนใหม่หมด ตั้งแต่หัวเทียน จานจ่าย หน้าทองขาว คอนเด็นเซอร์ บูซไดสตาร์ท ปลั๊กหัวเทียน ประเก็นฝาวาว ประเก็นคาบิว (สองอันหลังนี่ไม่รู้มาไงเหมือนกันครับ) ตั้งระยะบ่าวาวน์ใหม่ ตั้งระยะจุดระเบิดใหม่ ก็หมดไปหลายตังค์อยู่ รวมทั้งผมเอาแบตฯ ไปชาจน์ไฟเพิ่มอีก ก็แก้ปัญหาได้สักสองอาทิตย์มังครับ แล้วก็เข้าอีหรอบเดิม ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย
5. ผมเลยไปอีกอู่ เล่าอาการให้ฟัง เค้าบอกว่าสงสัยจะถูกหลอก น่าจะเป็นเพราะผมเปลี่ยนน้ำมันจาก 95 เป็น 91 มากกว่า เลยทำให้หัวเทียนสกปรกเร็ว และนมหนูอุดตัน คาร์บูรฯ ไม่สะอาด ต้องล้างและตั้งเครื่องใหม่หมด ผมยังไม่ได้ทำแต่ก็ฟังๆ ไว้ เลยลองไปเช็คอีกอู่ดู ก็ได้ผลเหมือนกัน คือได้คำตอบไปอีกทางเลยครับ เค้าบอกไม่น่าจะเป็นสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง แต่น่าจะเป็นทั้งสองสาเหตุตามที่ทั้งสองอู่บอก ให้ผม set เครื่องใหม่เลย โดยทิ้งรถไว้ แล้วจะตรวจดูให้อย่างละเอียดว่ามันเสียตรงไหนกันแน่ แต่ผมไม่ว่าง และยังสับสนอยู่ เลยไม่ได้ทำ
6. สรุปแล้วรถผมเป็นอะไรครับ ควรทำอย่างไรดี
7. ผมจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ต้องเป็นแบบไหนครับ รถรุ่นนี้ ต้องเติมน้ำมันเกียร์แบบไหนครับ
8. พอจะแนะนำอู่ดีๆ แถวๆ นนท์ บางเขน หรือ บางพลัด เตาปูน ให้หน่อยได้ไหมครับ
คงจะขอรบกวนแค่นี้ก่อนนะครับ ขอความกรุณาช่วยแนะแนวทางการแก้ไขด้วยครับ
นฤชิต


มากหมอ ก็มากความครับ คุณหาหมอหลายคน แต่ละหมอก็ให้ความเห็นแตกต่างกันได้เสมอ หาช่าง แล้วมาหาผม ผมไม่ได้อยู่กับรถอย่างช่าง จะไปรู้เรื่องอะไรดีกว่าช่างที่อยู่กับรถล่ะครับ ลองพิจารณาข้อนี้ดูนะครับ ถ้าเข้าใจ คุณก็โชคดีไป ถ้าไม่เข้าใจ ก็ลำบากหน่อยละครับ
ผมว่า หาช่างดีกว่า อย่ามัวพะวงพึ่งผมอยู่เลย สำหรับอาการหลายอาการของคุณนี่ ยิ่งเป็นการเขียนเล่าอาการจากคุณเอง ที่ไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกเท่าไรแล้ว ก็แย่ละครับ ผมอาจจะจับไม่ได้อะไรสักอย่างก็ได้
เอ้า มาลองดูกัน
1-โช้คน้ำมันไม่ทำงาน และจังหวะจุดระเบิดผิดจากกำหนด เฟืองของสตาร์ทเตอร์มอเตอร์สึกมากไปแล้วครับ สามอย่างนี่ เช็กให้ดีเถิด เจอแน่นอนทั้งสามอย่างครับ
2-เครื่องยนต์ไม่เข้าที่ ต้องเช็กจังหวะจุดระเบิด สายหัวเทียน หัวเทียน และปรับตั้งคาร์บิวเรเตอร์ใหม่ครับ แบบเช็กตามระยะเวลาที่ศูนย์เขาทำน่ะครับ
3-จังหวะจุดระเบิดผิดพลาดครับ
4-เห็นไหมครับ ช่างก็มีความเห็นเหมือนผม แต่เปลี่ยนจานจ่ายเชียวหรือครับ เปลี่ยนทำไม ใช้ของเก่าหรือของใหม่ล่ะ ถึงต้องเปลี่ยนทองขาวด้วยน่ะครับ แล้วที่ทำแล้วใช้ได้สองสัปดาห์ ก็เสียอีก ก็คงเป็นเพราะความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้นหลังการปรับตั้ง ก็ต้องปรับตั้งจังหวะต่างต่างกันใหม่เท่านั้นน่ะซีครับ
5-อู่ถูกต้องแล้วครับ ต้องทำกันใหม่ทั้งหมด
6-ดูคำตอบข้อ 5
7-เกียร์อะไรครับ ธรรมดาก็เปลี่ยนน้ำมันธรรมดา GL-5 เบอร์สัก 70 หรือ 80 ก็พอ ถ้าเกียร์อัตโนมัติก็เปลี่ยนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ใช้ Dexron II
8-อู่กรุงเทพ ประชาชื่น 20 กลางซอยครับ-ธเนศร์

Facebook Comments