ฟอร์ดเผยเทคโนโลยีใหม่ช่วยลดอุบัติเหตุ

FordMondeo_PedestrianDetection_01

ฟอร์ด มอเตอร์คัมปะนี เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่พร้อมลดความรุนแรงจากการชน และอาจช่วยลดอุบัติเหตุจากการพุ่งชนคนเดินเท้าที่เดินผ่านบริเวณด้านหน้ารถได้อีกด้วย

 

FordMondeo_PedestrianDetection_02

ระบบป้องกันการชนพร้อมสัญญาณตรวจจับคนเดินถนน (Pre-Collision Assist with Pedestrian Detaction) ใช้เทคโนโลยีเรด้าร์และกล้องถ่ายภาพตรวจจับพื้นที่ถนนด้านหน้ารถ โดยหากระบบตรวจพบความเสี่ยงในการปะทะกับรถยนต์คันอื่นหรือคนเดินเท้า ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังผู้ขับขี่ และหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองต่อสัญญาณนั้นอย่างทันท่วงที ระบบสามารถค่อยๆ ส่งแรงเบรกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มกำลัง เพื่อลดความรุนแรงจากการชน และในบางกรณี สามารถหลีกเลี่ยงการปะทะด้านหน้าได้อย่างสิ้นเชิง ระบบป้องกันการชนจึงช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาการชนท้ายรถคันข้างหน้าได้ในทุกระดับความเร็ว ขณะที่ระบบสัญญาณตรวจจับคนเดินถนนช่วยลดความเสี่ยงที่จะขับรถชนคนเดินถนนได้ขณะขับที่ความเร็วต่ำ โดยทั้งสองระบบมีส่วนในการช่วยบรรเทาความรุนแรงจากการปะทะบริเวณด้านหน้ารถ และในบางกรณี สามารถขจัดความเสี่ยงจากการชนรถคันข้างหน้าได้อย่างสิ้นเชิง

 

“ระบบป้องกันการชนพร้อมสัญญาณตรวจจับคนเดินถนนจะเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่เจ้าของรถฟอร์ดจะได้รับประโยชน์จากการใช้งานจริง” มร. ราช แนร์ รองประธานกลุ่มผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกของฟอร์ด กล่าว

 

ระบบป้องกันการชนพร้อมสัญญาณตรวจจับคนเดินถนนพร้อมเปิดตัวในรถฟอร์ด มอนเดโอ รุ่นปี 2015 ซึ่งจะวางจำหน่ายในทวีปยุโรปในปีนี้ โดยบริษัทจะทยอยเปิดตัวเทคโนโลยีดังกล่าวในรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของฟอร์ดและลินคอล์นทั่วโลกเป็นลำดับต่อไป

 

ทั้งนี้ แม้ว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์ไม่คาดฝัน แต่ก็นับว่ายังไม่สามารถทดแทนการตอบสนองของผู้ขับขี่ทั้งหมดได้ นอกจากนี้ การทำงานของระบบดังกล่าวยังมีข้อจำกัดอื่นๆ อาทิเช่น การขับขี่ในช่วงกลางคืน สภาวะที่มีแสงน้อยหรือมากจนเกินไป การเคลื่อนที่ของรถยนต์ในทิศทางที่แตกต่างกัน และสภาพอากาศในบางสถานการณ์ด้วย

สัญญาณตรวจจับคนเดินถนน

ในช่วงกลางวันและในสภาพอากาศที่สดใส เทคโนโลยีใหม่นี้สามารถตรวจจับคนเดินถนนที่เดินผ่านบริเวณด้านหน้ารถหรือตรวจจับคนที่กำลังข้ามถนนได้ หากระบบตรวจพบว่ามีคนเดินอยู่บนถนนและมีโอกาสที่จะเกิดการชน ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและภาพเตือนผู้ขับขี่ ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองต่อสัญญาณนั้น ระบบจะสั่งการเพื่อลดช่องว่างระหว่างผ้าเบรกและดิสเบรก และหากผู้ขับขี่ยังคงไม่ตอบสนองต่อสัญญาณเตือน ระบบจะสั่งการไปยังเบรกแบบอัตโนมัติเพื่อลดความเร็วลง

 

การทำงานของเทคโนโลยีใหม่นี้ เริ่มจากการรับข้อมูลจากกล้องติดกระจกหน้ารถและเรด้าร์ที่ติดอยู่บริเวณกันชน จากนั้น ระบบจะตรวจสอบข้อมูลรูปร่างของคนเดินถนนจากฐานข้อมูลเพื่อจำแนกความแตกต่างระหว่างคน ทิวทัศน์ และวัตถุอื่นๆ บนท้องถนน

 

ทีมวิศกรของฟอร์ดทดลองการทำงานของระบบดังกล่าวในลานทดสอบแบบปิดและใช้หุ่นจำลองเป็นคนเดินถนน จากนั้นทีมวิศวกรได้ใช้เวลาหลายเดือนในการปรับจูนระบบดังกล่าวเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสมในสภาพถนนที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศทั่วโลก

 

“การทดสอบบนถนนจริงๆ ถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เพราะคนเดินถนนในเมืองใหญ่อาจมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันมากมายซึ่งเราต้องปรับจูนระบบให้ตอบสนองได้อย่างเหมาะสม” มร. สก็อตต์ ลินด์สตรอม ผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ของฟอร์ด กล่าว “เราได้ทดสอบรถบนระยะทางกว่า 300,000 ไมล์ ใน 3 ทวีป ครอบคลุมสภาพถนน และสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย”

 

นอกจากนี้ ฟอร์ดยังมีเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนการขับรถให้อยู่ในช่องทางพร้อมระบบรักษาเลน (lane-keeping system with lane-keeping aid) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมสัญญาณระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Blind Spot Information System – BLIS® with cross-traffic alert) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (adaptive cruise control) สัญญาณเตือนการปะทะ พร้อมระบบเบรคช่วยเหลือ (collision warning with brake support) และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (active park assist)

 

ผู้ที่สนใจสามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีของฟอร์ดได้ที่ www.ford.com

 

 

Facebook Comments