ปี 2557 เม็กซิโก ผลิตเกิน 3 ล้านคัน
ปี 2557 ที่ผ่านมา ในทวีปอเมริกาเหนือ ประมาณการตัวเลขการผลิตรถยนต์ ทั้งรถยนต์นั่ง รถกระบะ รถบรรทุก ไม่รวมเครื่องจักรกลหนัก ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และ แคนาดา รวมกัน 17.24 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2556 7% แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายสถิติในปี 2543 ที่ทำสถิติได้สูงสุด 17,297,498 คัน ขณะเดียวกัน ก็ประมาณการผลิตในปี 2558 คาดว่าจะสามารถเพิ่มขึ้นได้ราว 200,000 คัน เป็น 17.4 ล้านคัน เนื่องมาจากราคาน้ำมันที่ลดลง และเริ่มมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
แยกตัวเลขย่อยออกมา เฉลี่ยการผลิต 49 สัปดาห์ตลอดปี ได้ราว 352,000 คัน สะท้อนให้เห็นกำลังซื้อที่แข็งแกร่งมาตลอด 5 ปี ในทั้งสามประเทศ รวมทั้งข้อตกลงการค้าเสรีของเม็กซิโก ที่ทำให้เม็กซิโก กลายเป็นประเทศที่น่าสนใจในการเป็นฐานการผลิต เพื่อส่งออกไปจำหน่าย ซึ่งรวมทั้งประเทศในกลุ่มอเมริกาใต้เช่นกัน
ขณะเดียวกันก็มีรายงานข่าวว่า ผู้ผลิตชิ้นส่วน ยังลังเลที่จะลงทุนเพิ่มสายการผลิต แต่ยินดีทำงานล่วงเวลา เพื่อให้ทันกับสายการผลิตในโรงงานประกอบ เพราะยังไม่มั่นใจตัวเลขการผลิตในอนาคต ซึ่งอาจตกตำ่เหมือนตอนเศรษฐกิจซบเซาเมื่อ 5 ปีก่อน
ค่ายนิสสัน อเมริกาเหนือ และ เฟียต ไครสเลอร์ เป็นสองค่ายที่เติบโตมากที่สุด โดยนิสสัน เติบโต 19% และเฟียต ไครสเลอร์ เติบโต 16% คิดเป็นตัวเลขคร่าวๆ ทั้งสองค่าย เกือบ 700,000 คัน และเมื่อคิดรายประเทศ เม็กซิโก นับเป็นดาวเด่นในปีที่ผ่านมา เพราะสามารถผลิตได้เกิน 3 ล้านคัน เป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้นถึง 12% ขณะที่ อเมริกา และแคนาดา เพิ่มกันเพียงประเทศละ 5%
นักวิเคราะห์ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้เม็กซิโก ได้รับความนิยมในการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ก็เพราะ ต้นทุนในระบบโลจิสติคส์ ทำได้ถูกกว่าในอเมริกา รวมทั้งค่าเงินเปโซ ของเม็กซิโก ก็อิงอยู่กับเงินดอลล่าร์ของสหรัฐ ทำให้ลดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนได้ส่วนหนึ่ง และประเด็นใหญ่ก็คือ เม็กซิโก เป็นประเทศหนึ่งในเขตเศรษฐกิจ NAFTA ทำให้ได้เปรียบในด้านอัตราภาษีกับประเทศในเครือ NAFTA ได้จำนวนมาก