ปัญหารถเก่า

Brand: OTHER Model: Other
Year: 1982 Miles: 20001-40000
From: thanit thanatham

toyota : corona

ตอนนี้ผมใช้toyota corona TT133 เครื่อง3t 1800ซซ เกียร์auto พวงมาลัยpower รถวิ่งมา 230,000มีปัญหาอยากถามดังนี้
1. เวลารถไม่ติดความร้อนจะไม่ถึงครึ่ง แต่ถ้ารถติดแล้วแดดร้อน ความร้อนจะเกือบ H ครับ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร
2.เวลาวิ่งที่90กมต่อชม. รถจะสั่นแต่พอเลยไปก็จะหาย
3.น้ำมัน powerซึม และหยดตามพื้นเล็กน้อยมาประมาณ 1ปีแล้ว ผมใช้วิธีเช็คแล้วเติม อยากทราบว่าถ้าใช้ต่อไปเรื่อยๆจะเสียหายไหมครับ
4.ระบบปัดน้ำฝนมีแค่2ระดับ และไม่มี intro ไม่ทราบว่าสามารถแก้ไขให้มี intro ได้หรือไม่ และค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ประมาณเท่าไหร่
5.รถผมวิ่งได้ปกติดี แต่ไม่ได้ให้ช่างเช็คเครื่องเท่าไหร่ ผมควรให้เขาเช็คอะไรบ้างและมีอะไรควรเปลี่ยนหรือต้องระวังบ้างครับ
6.ถ้าผมจะเอาเจ้าหน้าเทนี้ไปวิ่งทางไกล สัก 5-600กม. ควรเช็คหรือระวังเรื่องอะไรเป็นพิเศษครับ ผมเคยเอาไปวิ่งกท-เกาะช้างที่ตราด และ กท-ชะอำยังไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าความร้อนจะไม่ถึงระดับกลาง จะอยู่ที่ประมาณ 1/4 ก็เกย์วัดครับ
7.ท่อยางดูดอากาศที่ต่อจากกล่องครอบไส้กรองไปแถวๆตัวถังนี้สำคัญไหมครับ
ต้องขอโทษด้วยครับที่ถามมายาวมาก และขอบคุณครับที่สละเวลามาอ่านและตอบคำถามทั้งของผมและของคนอื่นๆ ผมว่ามันเป็นประโยชน์มากๆเลยครับ


เมื่อคืน กลับจากบันทึกเทปโทรทัศน์ รายการภาษาสนุกแล้ว ง่วงนอนจริงจริงครับ เข้ามานั่งหน้ามอนิเตอร์ แต่ตอบไม่ไหว ทนอยู่จนสี่ทุ่ม ก็ทำไม่ได้ ต้องอาบน้ำเข้านอนก่อน เพิ่งลุกขึ้นมาทำงานต่อได้ตอนเช้าวันเสาร์นี่เอง ขออภัย ที่ต้องให้รอกันนานหน่อย ทั้งที่ยังอยู่ในเมืองไทย
1-รถของคุณ เป็นรุ่นที่ญี่ปุ่นยังไม่ทันคิดโกงคนไทย หรือหลอกคนไทย ด้วยการทำให้เข็มความร้อนค้างอยู่กลางมาตรวัด ไม่กระติกกระเดี้ยไปไหนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ครับ ดังนั้น จึงชี้ความร้อนจริง ผมคิดว่า คุณคงไม่ได้ใช้รถคันนี้มาตั้งแต่แรก จึงไม่เข้าใจรถ
อย่างไรก็ตาม ความร้อนที่ขึ้นนั้น ผมคิดว่า เป็นเรื่องธรรมดาของรถยนต์ของคนฟังรายการที่ผู้จัดหรือผู้ทำรายการไม่เข้าใจการใช้รถจริงก็ได้ และมักจะแนะนำเสมอว่า ไม่ต้องใช้น้ำยากับน้ำระบายความร้อน น้ำยานี้ ก็คือ Antifreeze อันเป็นน้ำยาช่วยลดการเดือดเพราะทนความร้อนขึ้นของน้ำขึ้น และลดอาการแข็งตัวของน้ำได้ด้วยในเวลาเดียวกัน อีกทั้งจะยังช่วยไม่ให้ภายในเครื่องยนต์เป็นสนิม กันการกัดกร่อนของเสื้อสูบ และกระบอกสูบ แต่พวกนั้นจะแนะนำว่าไม่ต้อง ให้ใช้น้ำสะอาดก็พอแล้ว แสดงถึงความเป็นมนุษย์สมัยหินอย่างแท้จริง
คุณควรรีบปรับตัว แก้ไขเสียก่อนจะสายเกินไปครับ
2-ยางไม่ได้ดุลครับ
3-เท่านี้ ก็เสียอยู่แล้วนี่ครับ ใช้ไป ก็มีโอกาสเสียมากขึ้น ทั้งเวลาน้ำมันลดลง ปั๊มก็จะสึกหรอเร็วขึ้น
4-แก้ด้วยการเปลี่ยนสวิทช์ เปลี่ยนตัวควบคุมให้เพิ่มจังหวะขึ้น แต่ต้องหาอะไหล่เซียงกงเอาเอง ราคาไม่ทราบครับ ต้องไปเดินดูเอาเอง
5-เช็กแบบเช็กคามระยะเวลาและระยะทางเท่านั้น ควรทำทุกหมื่นกิโลเมตรครับ พร้อมกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และไส้กรองน้ำมันเครื่องนั่นแหละครับ พอแล้ว ควรเปลี่ยนอะไรบ้าง? ผมจะไปรู้ได้อย่างไร ผมไม่ใช่ช่างคนที่เช็กเครื่องยนต์ให้รถคุณนี่ครับ อะไรเสียผมจะไปรู้หรือ บอกไม่ได้หรอกครับ อะไรเสีย ก็เปลี่ยนเปลี่ยนไปซีครับ ไม่น่าถามเลย ฮ่า ฮ่า
6-ก็เช็คตามปกติน่ะครับ อย่างที่บอกในข้อ 5 แต่เรื่องน้ำนี่ ผมว่า คงมีการเอาตัววาล์วน้ำออกไปแล้วแน่นอน ไม่อย่างนั้น น้ำไม่อยู่ระดับ ¼ ของมาตรวัดหรอก ระดับนั้น เป็นระดับที่กินน้ำมันเชื้อเพลิง และความสึกหรอสูงนะครับ เอาวาล์วน้ำใส่กลับไปเสียดีดี ถ้าไม่อยากพังก่อนเวลาอันควร ซึ่งก็ใกล้จะมาถึงแล้วครับ
7-ท่ออะไร ไม่เข้าใจครับ ต่อไปทำไมแถวตัวถัง แล้วไปดูดอากาศอะไรที่ไหนเข้ากรองอากาศกันล่ะ บอกไม่ถี่ถ้วน ไม่มีใครตอบได้หรอกครับ
ถามอย่างข้อ 7 นี่แหละครับ ไม่เป็นประโยชน์ แล้วยังทำให้หงุดหงิดอีกด้วยที่ตอบไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจคำถาม เอาใหม่ครับ เอาใหม่-ธเนศร์

Facebook Comments