นิสสัน ลีฟ ใหม่ ขับทั่วกรุงเทพฯ ได้ทั้งวันด้วยการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว (มี Clip )

เมื่อเร็วๆ นี้ นิสสัน ในประเทศไทย จัดการทดสอบสมรรถนะ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ด้วยการขับขี่ในสภาพการจราจรที่แตกต่างกันครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลตลอดทั้งวัน ด้วยการชาร์จไฟเต็มเพียงครั้งเดียว และไม่ก่อมลพิษใดๆ สู่สังคม เพราะเป็นรถไฟฟ้า 100% ไม่มีท่อไอเสีย เผาไหม้สะอาด

โดยกิจกรรมทดสอบนี้จัดขึ้น ณ จีแลนด์ พระราม 9 มีการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการออกแบบของนิสสัน ลีฟ ใหม่ ระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้า และรูปแบบการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 แบบ


แบบที่ 1 คือชาร์จจากสายชาร์จที่ให้มากับรถ แบบที่ 2 เครื่องชาร์จไฟแบบ Wall-Box ติดตั้งที่บ้าน แบบที่ 3 การชาร์จไฟแบบเร็วก็จะตามสถานีอัดประจุไฟฟ้า EV Station

โดยในงานแบ่งพื้นที่เป็น 4 โซน ประกอบด้วย นิสสัน ลีฟ Simply Amazing นิสสัน อิเล็คทริค คาเฟ่ บูธถ่ายภาพ นิสสัน อิเล็คทริค และสถานีชาร์จนิสสัน ลีฟ

นิสสัน ลีฟ ใหม่ มีระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ขนาดความจุ 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) มีกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 110 กิโลวัตต์ (kW) หรือ 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น จาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 311 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (New European Driving Cycle)

การทดสอบครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน เริ่มจากการทดสอบสมรรถะอย่างเต็มรูปแบบบนพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ

โดยในช่วงเช้าจะทำการขับขี่แบบสลาลอม โดยมีการวางกรวยทั้งในส่วนของทางตรงและซิกแซก นอกจากได้ทดสอบการควบคุมการทรงตัวของรถแล้วซึ่งการทรงตัวดี พวงมาลัยไฟฟ้าควบคุมง่าย


ส่วนเกียร์จะเป็นแบบลักษณะกลมกลมขยับขึ้นลง ก็ใช้ง่ายค่ะ เมื่อจะจอดก็กดปุ่ม Park ที่อยู่บนหัวเกียร์


นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ดิฉันขับรถคันนี้ ที่นั่งปรับด้วยมือทั้งด้านคนนั่งและผู้ขับขี่ ด้านผู้ขับขี่สามารถปรับที่นั่งให้สูงต่ำได้


การขับในครั้งนี้เป็นการลองความสามารถของเทคโนโลยี e-Pedal ที่สามารถใช้ควบคุมความเร็วรถทั้งการเร่ง และเบรกด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว ในสถานีการขับขี่แบบสลาลม

เทคโนโลยี e-Pedal คือการเปลี่ยนวิธีการขับขี่ด้วยการเร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว และหยุดรถด้วยการใช้คันเร่งเพียงอย่างเดียว โดยเมื่อปล่อยคันเร่ง รถจะชะลอความเร็วโดยอัตโนมัติจนถึงหยุดนิ่งได้โดยสมบูรณ์ แม้ว่าจะจอดรถค้างบนเนิน ก็ไม่จำเป็นต้องเหยียบแป้นเบรก ด้วยอัตราการชะลอความเร็วที่สูงถึงกว่า 0.2G โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องขยับเท้าออกจากคันเร่งไปยังแป้นเบรกเพื่อชะลอหรือหยุด ทั้งหมดนี้จะช่วยลดความเหนื่อยล้า และความเครียดจากการขับขี่ในแต่ละวัน ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้แป้นเบรกน้อยกว่าการขับขี่รถยนต์ทั่วไปถึงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
รอบแรกใช้ e-Padal เมื่อขับไปเมื่อไหร่ที่ผ่อนคันเร่งรถจะชะลอให้เลย แรกแรกก็จะยังไม่คุ้นกับการเหยียบเบรกที่คันเร่ง สักพักก็ชิน

ช่วงบ่ายเป็นการขับรถขับกันระยะยาว เส้นทางการทดสอบทั้งหมดมีระยะทางรวมกว่า 140 กิโลเมตร ทั้งในเมืองที่รถติดและออกไปนอกเมือง โดยขับ นิสสัน ลีฟ ที่ชาร์จที่ไฟเพียงครั้งเดียวขับขี่ในสภาพการจราจรของกรุงเทพฯที่บางช่วงรถติดมากก็คือย่านเจริญกรุงแถวไปรษณืย์กลางและย่านสยามสแควร์ และขับยาวไปจนถึงนครชัยศรี

เมื่อออกเดินทางดิฉันนั่งด้านหลัง ความเงียบภายในห้องโดยสารตลอดการเดินทางเงียบมาก แอร์เย็นตลอดการเดินทาง

ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้ามีฮีทเตอร์อุ่นร้อนที่เบาะนั่งให้ด้วยเหมาะกับหน้าหนาว

อัตราเร่งดีมากเพราะนั่งด้านหลังรู้เลยเมื่อคนขับเหยียบคันเร่งแรงแรง หลังติดเบาะเลย อัตราเร่งแซงดี ความเร็วที่ใช้ก็เหมือนกับการขับรถทั่วไป ไม่ได้บันยะบันยังเรื่องความเร็วเลย

หน้าจอคนขับสามารถกดดูว่าใช้ไฟฟ้าไปเท่าไหร่แล้วและเหลืออีกเท่าไหร่และเหลือระยะทางอีกเท่าไหร่  ดูแล้วประหยัดมาก
เช็คครั้งแรกวิ่งไป 60 กิโลเมตร ไฟยังเหลืออีก 75% ใช้โหมดปกติ ถ้าใช้ Eco ไฟจะเหลือเพิ่มมากขึ้น

 

สำหรับ ลีฟ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยี ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัย และลดความเครียดจากการขับขี่ ได้แก่ เทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ (Forward Collision Warning) เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection) และเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Alert Assist)

ทั้งนี้ ลูกค้าผู้เป็นเจ้าของ นิสสัน ลีฟ ใหม่ จะได้รับการประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร

โดยในปัจจุบันมีศูนย์บริการของผู้จำหน่ายฯ ของนิสสัน ที่ผ่านการรับรองจำนวน 32 แห่งทั่วประเทศที่สามารถนำเสนอข้อมูลของนิสสัน ลีฟ ใหม่ รวมถึงความพร้อมบริการหลังการขาย โดยช่างเทคนิคที่มีความชำนาญการ


ส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้า เช็คครั้งสุดท้ายตอนรถติดก่อนถึงจุดหมายปลายทางที่ G แลนด์พระราม 9 ระยะทางทั้งหมดที่ใช้ 120 กิโลเมตร เหลือไฟอีก 43 % แต่ถ้าใช้โหมด ECO ก็จะได้เพิ่มเป็น 50 กว่า% เหลือระยะทางที่จะวิ่งได้อีก 112 กิโลเมตร วิ่งในกรุงเทพและปริมณฑลได้สบายเลย

ราคาอยู่ที่ 1,990,000 บาท

 

ก็เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกคันหนึ่งที่น่าใช้ ช่วยรักษาสิงแวดล้อม ประหยัดพลังงาน ขับสนุก และขายดีไปทั่วโลก

ธัญญลักษณ์  เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (อาลองรีวิว)

ผู้หญิงขับรถ

Facebook Comments