ตัวแรงจาก เอเอ็มจี จีที อาร์
ค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งรถตัวแรง เอเอ็มจี จีที อาร์ AMG GT R สำหรับผู้ที่ชื่นชอบขับขี่รถสปอร์ตขับหลัง ในสนามแบบปิด และสามารถขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมระบบแอโรไดนามิค ครบครัน ตั้งเป้าเป็นตัวชน ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส Porsche 911 GT3 RS โดยเฉพาะ ด้วยความแรง นำ้หนักเบา เปิดตัวในอังกฤษ ในงาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เวิลด์ ที่ผูกอยู่กับ กู๊ดวู๊ด เฟสติวัล ออฟ สปีด โดยคันแรกนี่ยังเป็นรถทำด้วยมือ ยังไม่ได้เป็นแมส
ตัวแรงคันนี้ใช้เครื่องยนต์ วี8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ วางค่อนข้างกลางเอียงไปด้านหน้า ที่จูนจากรถปกติ 503 แรงม้า ได้ขึ้นมาเป็น 577 แรงม้า แรงบิดเพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร เป็น 700 นิวตันเมตร ทำรอบต่อนาทีได้สูงสุด 186,000 รอบ รับแรงบู๊สท์เทอร์โบได้ 19.6 psi ส่วนห้องเกียร์ที่ใช้คลัทช์คู่ ปรับแต่งซอฟท์แวร์ใหม่ ให้เปลี่ยนเกียร์ได้กระชับขึ้น ช่วยให้ทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายใน 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 318 กม./ชม. และมีอุปกรณ์พิเศษสำหรับผู้ที่กลัวเอารถตัวแรงไม่อยู่ เป็นระบบเบรกเสริม ใช้คาร์บอน เซรามิค เป็นจานเบรก
เบนซ์ เลือกใช้สีเขียว เป็นตัวแทนบ่งบอกถึงความเป็น ‘Green Hell’ เพราะวิศวกรของเบนซ์ ใช้สนามเนอร์เบิร์กริง เป็นสถานที่ทดสอบ เพื่อให้ได้อาการของช่วงล่างที่เหมาะสำหรับขับขี่ในสนามปิดจริงๆ
จีที อาร์ ปรับความกว้างล้อหน้า เพิ่มไปอีก 46 มม. และล้อหลัง 57 มม. เพื่อให้ยึดติดกับลู่ภายในสนามมากขึ้น ออกแบบตัวถังในแบบของตัวแข่ง เอเอ็มจี จีที3 ด้วยกระจังหน้าทรงใหม่ เพิ่มความกว้างช่องรับลมด้านหน้า สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ ให้ประโยชน์อย่างเต็มที่ พร้อมท่อไอเสียคู่ กะทะล้ออัลลอยวีล แบบ 10 ก้านชนิดใหม่ ที่กว้างกว่าเดิม พร้อมยางที่พร้อมแข่งคู่บารมี มิชลิน
วิศวกรปรับลดนำ้หนักตัว จีที อาร์ กันขนานใหญ่ ตั้งแต่ระบบคายไอเสีย ใช้วัสดุอลูมินัมมาช่วยในระบบขับเคลื่อน ขณะที่ขายึดเครื่องยนต์ ใช้คาร์บอน ไฟเบอร์ รวมทั้งในระบบช่วงล่างบางส่วน สามารถลดนำ้หนักตัวลงไปได้ 15 กก.
ความลื่นไหลตามหลักอากาศพลศาสตร์เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่วิศวกรใส่ใจ โดยเพิ่มสปลิตเตอร์ด้านหน้า ปรับการออกแบบพื้นตัวรถ เพื่อช่วยลดแรงยกของแรงลมเมื่อใช้ความเร็ว ขณะที่ครีบกระจังหน้า เปิด-ปิดได้ เพื่อช่วยระบายความร้อนเครื่องยนต์ วิศวกรเบนซ์คุยว่า การปรับเปลี่ยนหนนี้ช่วยให้การทรงตัวของรถขณะใช้ความเร็วสูง เสถียรมากขึ้น สามารถลดแรงต้าน และเพิ่มแรงกด ไม่ให้ตัวรถเหินขึ้นมาได้
ขณะที่ช่วงล่างสามารถปรับได้ 3 ระดับ ออกแบบเพื่อการวิ่งในสนามโดยเฉพาะ ระบบป้องกันคว่ำออกแบบให้แข็งขึ้น พร้อมโรลบาร์หนาขึ้นด้านหลัง พร้อมนำระบบใหม่ แอคทีฟ เรียร์-วีลสเตียริ่ง Active rear-wheel steering มาใช้เป็นครั้งแรก โดยจะควบคุมความเร็วการหมุนของล้อหลัง ไปตรงข้ามกับล้อหน้า เมื่อความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. และจะเปลี่ยนเป็นล้อหลังหมุนตามกันกับล้อหน้า เมื่อต้องการความเร็วเพิ่ม รวมทั้งระบบใหม่ล่าสุด ปรับอาการลื่นไถลได้ด้วยปุ่มควบคุมกลางแผงหน้าปัด ได้ถึง 9 ระดับ
ส่วนภายในตัวรถ เบนซ์ เกือบไม่ได้ปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม เบาะนั่งปรับไฟฟ้า เบาะหนังกระชับพร้อมโครงไมโครไฟเบอร์ ของใหม่เห็นจะเป็นเข็มขัดนิรภัยสีเหลือง ให้ได้สังเกตกัน เบนซ์ เตรียมปล่อยสู่ตลาดในเดือนพฤศจิกายน นี้ แต่สำหรับตลาดยุโรป จะเป็นเดือนมีนาคม ปีหน้า แต่ยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย ประเมินกันว่าน่าจะใกล้เคียงกับตอนเปิดตัว จีที ที่ตั้งเอาไว้ คันละ 6,000,000 บาท ส่วนราคาเมืองไทยยังไม่ทราบนะจ๊ะ