จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลั่นกลองเตรียมความพร้อม ชูกลยุทธ์เสริมรากฐานเพื่อความสำเร็จระยะยาว


กรุงเทพฯ – บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการคนใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์การดำเนินงาน ชูแผนงานเชิงรุกเน้นเสริมรากฐานให้แข็งแกร่งเพื่อการเติบโต และขยายส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งในประเทศไทย และทั่วทั้งภูมิภาค อีกทั้งยังประกาศความพร้อมอย่างเต็มที่ในการสร้างความสำเร็จในระยะยาว ทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภายใต้การบริหารงานของประธานกรรมการคนใหม่ มร.มาร์ติน แอพเฟล เตรียมผลักดันให้การดำเนินธุรกิจของจีเอ็ม ประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผงาดขึ้นเป็นหนึ่งในศูนย์กลางหลักของจีเอ็ม ในระดับโลก โดยเน้นพัฒนารากฐานสำคัญของธุรกิจยานยนต์ ทั้งการพัฒนาบุคลากร และผลิตภัณฑ์ พร้อมกระชับความสัมพันธ์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการให้บริการอย่างมืออาชีพ โดยมุ่งเน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางของการดำเนินงาน

“จีเอ็ม ในประเทศจีน อินเดีย บราซิล อาร์เจนติน่า และอียิปต์ สามารถทำยอดจำหน่ายได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ขณะที่ตลาดในเกาหลีก็เติบโตขึ้น 28 เปอร์เซนต์ เช่นเดียวกับในออสเตรเลีย จีเอ็ม โฮลเดน มีอัตราขยายตัวถึง 22 เปอร์เซนต์” ประธานกรรมการคนใหม่ของจีเอ็ม ประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวทิ้งท้าย

ในสหรัฐอเมริกา จีเอ็มประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ถึง 5 รุ่น ติด 10 อันดับแรกของรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในปีนี้ การวางตลาดยานยนต์ใน 4 แบรนด์หลักอันได้แก่ เชฟโรเลต คาดิลแลค บูอิค และจีเอ็มซี สามารถสร้างยอดขายให้เติบโตได้ถึง 36 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่แล้ว

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการจัดให้เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของเอเชีย รองจากประเทศจีน และอินเดีย ขณะที่ยอดขายรถยนต์เชฟโรเลตในประเทศไทยเติบโตขึ้นถึง 24 เปอร์เซ็นต์ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ตลาดมาเลเซียมียอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ในครึ่งแรกของปี ส่วนยอดขายรถยนต์เชฟโรเลตในภูมิภาคนี้ก็เติบโตถึง 22.9 เปอร์เซ็นต์ เช่นกัน


“เพื่อนำมาซึ่งความเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เราได้เพิ่มจำนวนทีมเจ้าหน้าวิศวกรไทยที่อยู่ในสายงานการผลิตขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ และพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานเพื่อรองรับการขยายงานอย่างต่อเนื่อง เรายังพยายามสร้างความสัมพันธ์กับพนักงานในทุกระดับ เพื่อให้พนักงานได้เข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบในการสร้างความสำเร็จให้กับจีเอ็ม” มร. แอพเฟล กล่าวต่ออีกว่า

“สำหรับการสื่อสารภายในองค์กร ผมพูดคุยรับฟังปัญหาจากพนักงานอยู่อย่างสม่ำเสมอผ่าน เว็บแชท (การคุยกันผ่านโปรแกรมการคุยแบบออนไลน์) ที่จีเอ็มหัวหน้างานมีหน้าที่สอนงานและคอยให้คำแนะนำต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้องค์กรเติบโตต่อไปได้ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีหน้าที่ในสายการผลิตกว่า 600คน ไปปฏิบัติงานตามโชว์รูมต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ตรงจากลูกค้า โดยประสบการณ์ที่ได้มาจะช่วยให้พนักงานนำไปต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของเราต่อไป”

อีกทั้งในส่วนของการบริการหลังการขาย มร. มาร์ติน กล่าวว่า “เขาได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้แทนจำหน่ายในการพัฒนาคุณภาพของการบริการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับผู้ใช้รถยนต์เชฟโรเลต”


เมื่อกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ มร. แอพเฟล ยังได้ถือโอกาสบอกเล่าเรื่องราวการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ รวมถึง เชฟโรเลต สปาร์ค ที่อินโดนีเซีย และเชฟโรเลต ครูซ ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์

“เชฟโรเลต ครูซ ถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ได้เริ่มทำการเปิดตัวในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นรถยนต์ซีดานที่ทรงสมรรถนะและเป็นเลิศด้านการออกแบบที่ได้รับการตีความใหม่ให้มีความแตกต่าง ทว่าเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เชฟโรเลต ครูซ จึงมีทั้งความโดดเด่นทั้งภายนอกและภายในในแง่การออกแบบ คุณภาพของยานยนต์และวัสดุที่นำมาใช้ และยังมีสไตล์ที่โฉบเฉี่ยวอีกด้วยทั้งภายในและภายนอก” มร.แอพเฟล กล่าว
“ด้วยเงินลงทุนกว่า 16,000 ล้านบาท เพื่อสานต่อโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซล และโครงการผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ จังหวัดระยอง ทำให้จีเอ็มเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีพันธสัญญาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้จะผลิตเครื่องยนต์ดีเซลอันล้ำสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออก อีกทั้งยังเปิดโอกาสทางธุรกิจกับคู่ค้าจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการสร้างงงานใหม่อีกด้วย” มร.แอพเฟล กล่าว

สำหรับลูกค้า มร.แอพเฟล กล่าวว่า จีเอ็มจะมุ่งมั่นดูแลเอาใจใส่ลูกค้าทุกคนให้ดียิ่งขึ้น และเคารพในความต้องการของลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ของลูกค้าทุกรายได้ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ยอดเยี่ยมของเรา

มร.แอพเฟล กล่าวเสริมว่า “ผมตอบอีเมล์ทุกฉบับด้วยตัวเอง เดินทางไปพบลูกค้าที่ศูนย์บริการเชฟโรเลตเพื่อส่งมอบรถยนต์คันใหม่ หรือ เมื่อลูกค้าเกิดปัญหา อีกทั้งยังมีการเชิญลูกค้าเข้าร่วมการสัมมนาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้า ทั้งนี้ จีเอ็ม ได้จัดตั้งหน่วยวิเคราะห์ปัญหารถยนต์ในภูมิภาค (Product Clinic) มีการทดสอบการออกแบบรถยนต์แห่งอนาคต และปรับเปลี่ยนตัวผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับเสียงตอบรับจากลูกค้า”


มร.แอพเฟล กล่าวสรุปว่า “แผนธุรกิจของเราทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย การสร้างความสัมพันธ์อันดี การเปิดตัวยานยนต์รุ่นใหม่ๆ การให้พันธสัญญา และการวางลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกสิ่งที่เราทำ สิ่งเหล่านี้คือองค์กรใหม่ของจีเอ็ม”

# # #

Facebook Comments