จากที่อาจารย์ขอข้อมูลเพิ่มครับ ถามแฟนมาแล้ว

Brand: HONDA Model: Civic
Year: 1997 Miles: 100001 – ขึ้นไป
From: chinnawat_golf dartjantoek

ขอขอบคุณครับ อาจารย์ธเนศ ที่ตอบในสเต็ปแรกเรื่องความร้อน พอได้อ่านที่อาจารย์ตอบ ก็รีบโทรถามแฟนทันที ข้อมูลว่า : รถใช้อยู่บริเวณค่อนข้างในตัวเมือง(ที่ทำงานอยู่ชานเมืองหาดใหญ่ บ้านอยู่ตัวเมือง ห่าง 25 กม.) ใช้ความเร็ว 60-100 กม./ชม.ตอนความร้อนขึ้น วิ่งมาจากที่ทำงานถึงตัวเมือง ติดไฟแดง เข็มความร้อนขึ้นทับขีดที่เริ่มสีแดง(ถ้าเป็นครึ่งวงกลม ก้จะอยู่ 11นาฬิกา) พอออกตัว เริ่มลดมาตรงกลางปกติ(9 นาฬิกา) ติดไฟอีก ก็ขึ้นอีก เป็นอย่างงี้เรื่อยไปครับ


คุณบอกมาว่า “วิ่งมาจากที่ทำงานถึงตัวเมือง ติดไฟแดง เข็มความร้อนขึ้นทับขีดที่เริ่มสีแดง”
และพอออกจากที่จอด ก็เริ่มลดลง แสดงค่อนข้างชัดเจนว่า การระบายความร้อนในขณะรถวิ่ง เป็นไปได้อย่างดีพอสมควร แต่ตอนรถจอดอยู่กับที่ การระบายความร้อน ไม่ดีเอาเลย
เรามาดูกันว่า ระหว่างนั้น การระบายความร้อนแตกต่างกันอย่างไร
เริ่มจากพัดลมระบายความร้อน จะต้องทำงานเมื่อความร้อนเริ่มขยับสูงขึ้น เช่นตอนจอดอยู่กับที่ เพื่อรักษาระดับความร้อนของเครื่องยนต์ไว้ โดยการสั่งงานของตัวเทอร์โมสวิทช์
และหากรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแค่สัก 20-25 กิโลเมตร ลมปะทะจากด้านหน้ารถจะเพียงพอกับการระบายความร้อน ตรงนั้น ไม่จำเป็นต้องมีพัดลม ก็ได้อยู่แล้ว ขอให้ตะแกรงหน้าหม้อน้ำ บริเวณรังผึ้ง สะอาดเพียงพอให้ลมที่ปะทะผ่านไปได้สะดวกเท่านั้น
ก็มีอยู่แค่สองจุดเท่านั้นเองครับ เพราะเรื่องการเปิดและปิดของวาล์วน้ำ ไม่เกี่ยวเสียแล้ว กับเรื่องนี้

ดังนั้น ความร้อนที่เกิดขึ้น จึงมองได้ว่า เกิดจากพัดลม ค่อนข้างแน่นอน
ผมจำไม่ได้ ว่าคุณบอกเรื่องพัดลมว่าอะไร แต่ก็ขอเรียนอย่างนี้เสียให้หมดเลยดีกว่า
เริ่มแรก คุณควรจะดูว่า พัดลมทำงานหมุนเต็มกำลังหรือไม่ และหมุนทันทีที่ความร้อนเขยิบผ่านหลัก 82 หรือ 85 องศา ตามกำหนดหรือเปล่า
หากพัดลมหมุนไม่เต็มกำลัง ก็เปลี่ยนพัดลม หรือเอาออกมาซ่อม
และหากพัดลมหมุนดี ก็ต้องดูด้วยว่า กรอบของพัดลม มีอยู่หรือใครถอดทิ้งไปแล้ว เพราะกรอบพัดลมต้องมี เพื่อจะดึงลมเข้ามาผ่านรังผึ้งได้ ไม่ใช่ดึงลมหลังรังผึ้ง ให้ผ่านพัดลมเท่านั้นในกรณีที่ไม่มีกรอบพัดลม อันนี้ สำคัญมากนะครับ
ต่อไป หรืออันที่จริง น่าจะเป็นอย่างแรกเลยทีเดียว ก็คือตรวจเช็กว่า จังหวะจุดระเบิดที่ตั้งเอาไว้ตอนเดินเบานั้น อ่อนเกินไปหรือไม่ เพราะอาจจะเป็นได้ที่ช่างปรับตั้งผิด หรือปรับตั้งโดยถอดสายลมดูดจากท่อไอดีออก หรือตัวเร่งไฟไม่ทำงาน ช่างก็ปรับให้อ่อนไว้ก่อน คือเร่งจังหวะจุดระเบิดเอาไว้รองรับการหมุนเร็วของเครื่องยนต์
เป็นเหตุให้ตอนรถวิ่ง เครื่องยนต์ทำงานรอบสูง จังหวะไฟพอดี
แต่พอจอด เดินเบาอยู่ จังหวะไฟจุดระเบิดก็กลายเป็นไฟอ่อนทันที โดยไม่ต้องเลื่อนจังหวะอีก อันนี้ หากผิด ก็ต้องแก้ไขก่อนอื่นเลยทีเดียว แก้โดยการทำให้ตัวเร่งจังหวะจุดระเบิดทำงาน แล้วปรับตั้งจานจ่ายให้จ่ายไฟจุดระเบิดพอดี

เท่าที่ผมมอง ก็มีสองอย่างเท่านั้นครับ

แต่อีกอย่างหนึ่ง ที่เป็นไปได้ ก็คือตัวจับสัญญาณความร้อนของเครื่องยนต์ และตัวมาตรวัดความร้อน ที่อาจจะผิดพลาด ทำงานบอกสิ่งไม่จริง ซึ่งในที่นี้ เป็นไปได้น้อยถึงน้อยมาก จึงไม่ยกขึ้นมากล่าวถึงครับ-ธเนศร์

Facebook Comments