ค่ายโฟล์ค ยันทดสอบรถแบบใหม่ ทำให้ผลิตล่าช้า
คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของสหประชาชาติในยุโรปและคณะกรรมการบริหาร หรือ United Nations Economic Commission for Europe and Executive Committee ได้ออกข้อบังคับการปล่อยมลพิษรูปแบบใหม่ Worldwide Harmonized Light Duty Vehicles Test Procedure (WLTP) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยกระดับการทดสอบยานพาหนะในด้านต่างๆ ในลักษณะของการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง, การปล่อยมลพิษ และการปล่อยก๊าซ CO2 ทั้งนี้ยังรวมไปถึงกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะต้องทดสอบในเรื่องอัตราการใช้พลังงานและระยะทางจริงที่สามารถวิ่งได้ด้วยไฟฟ้าทั้งหมด ข้อบังคับดังกล่าว กำหนดบังคับใช้ในเดือนกันยายนนี้
ค่ายโฟล์คสวาเก้น ออกมายืนยัน ว่ารถยนต์ในเครือราว 250,000 คัน ที่กำหนดขึ้นสายการผลิตในไตรมาสที่ 2 นี้ สำหรับรถในบางรุ่น จะต้องล่าช้าออกไป อันเนื่องมาจากการต้องเข้าทำการทดสอบตามข้อบังคับใหม่ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
การเข้ารับการทดสอบตามข้อบังคับใหม่ จะต้องกระทำให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 กันยายน ทั้งการตรวจสอบค่าไอเสีย การบริโภคเชื้อเพลิง จึงจะสามารถผลิตออกจำหน่ายได้
โฟล์ค ออกแถลงการณ์ว่า “จากการตรวจสอบมาตรฐานตามข้อบังคับใหม่ เราประเมินว่าจะกระทบกับการผลิตรถยนต์ในกลุ่ม ในไตรมาสที่ 2 นี้ ราว 200,000 ถึง 250,000 คัน จากแผนการผลิตเดิม”
ข้อบังคับใหม่นี้ มาแทนข้อบังคับ New European Driving Cycle (NEDC) เดิม โดยจะทดสอบค่าต่างๆ จากการใช้งานในชีวิตจริง อันจะทำให้ได้ค่ามลภาวะต่างๆ อย่างถูกต้อง
“เรากำลังตรวจสอบผลกระทบจากการผลิตของเรา” กลุ่มปอร์เช่ ในเครือโฟล์ค ระบุ “เราจะจำกัดรถบางรถบางรุ่นที่จำหน่ายในยุโรป อันเนื่องมาจากการตรวจสอบด้วยระบบใหม่นี้”
เมื่อถามว่าโฟล์คจะมีผลกระทบคิดเป็นมูลค่าประมาณเท่าใด นักวิเคราะห์ประเมินว่า อาจถึงระดับพันล้านเหรียญ อันเนื่องมาจากรถบางรุ่นที่ไม่ผ่านการตรวจสอบรุ่นใหม่ จะต้องมีการปรับปรุง และทำให้ส่งถึงมือผู้จำหน่ายล่าช้าเป็นจำนวนมาก