ขับฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ระบบฟูลไฮบริด e:HEV และ VTEC TURBO ปี2023
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ All New Honda CR-Vบนถนนที่แตกต่างในจังหวัดเชียงใหม่ รวมระยะทางกว่า 220 กิโลเมตร
โดยผู้เขียนได้ขับตัว ท็อปทั้ง 2 รุ่นคือ e:HEV RS 4 WD 5 ที่นั่ง และ รุ่น 1.5 Turbo EL 4WD 7 ที่นั่ง
มาทำความรู้จักกับ Honda CRV กันก่อนนะคะ
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด5 รุ่นย่อย ดังนี้
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง
รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง
เครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง
รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง
รุ่น E 5 ที่นั่ง
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV ใน ซีอาร์-วี ใหม่
เป็นการผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด
2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบต่อนาที (รุ่น e:HEV ES) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร
โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
มาพร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)
กับอีกคัน 1.5 ลิตร เทอร์โบ
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า
ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตรา
การประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85
ฮอนด้า ซีอาร์–วี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ อาทิ
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
- เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
- ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนHonda LaneWatch)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อล้าขณะขับขี่ Driver Attention Monitor)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัยDeceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และ
e:HEV RS 4WD) - ระบบช่วยควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black และกระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E)
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
- ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบLED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED
- เปิดมุมมองใหม่ที่พรีเมียมยิ่งขึ้นกับหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
- สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบ
ปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close) - เสาอากาศครีบฉลาม
- ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่
- ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
ครั้งแรกกับรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน
(รุ่น e:HEV RS 4WD)
- · เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ด้วยสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำPiano Black
- กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ
- ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ
- คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำGloss Black
- ไฟตัดหมอกหลังแบบLED
- สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถและสีดำPiano Black
- เสาอากาศครีบฉลามสีดำPiano Black
- ล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ต
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทาง
ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง ผสานแนวคิดระหว่างการใช้วัสดุคุณภาพสูงและความอเนกประสงค์
ในการใช้งาน โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายในที่พรีเมียม แตกต่างกันในแต่ละรุ่น
เสริมลุคสปอร์ตพรีเมียมเต็มขั้นกับรุ่น RS (รุ่น e:HEV RS 4WD)
- เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
- พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
- แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ
- ระบบควบคุมประตู พร้อมHonda Smart Key Card (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่(Driver Memory Seat)
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร(Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่งเป็นครั้งแรกใน ซีอาร์-วี อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว
- ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสารPlasmacluster (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกช้าย/ขวาi-Dual Zone (เฉพาะรุ่น
e:HEV RS 4WD) - ช่องปรับอากาศผู้โดยสารหลัง
- ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 3 (เฉพาะรุ่น EL 4WD)
- ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส
พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับ
การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง
- เบาะนั่งด้านหลัง(Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40
- รุ่นเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
- รุ่นเบาะโดยสารแบบ7 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่น EL 4WD) สามารถปรับพับเบาะด้านหลังแถวที่ 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้ายในขณะที่ผู้โดยสารแถว 2 สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย หรือปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ (Utility Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3 (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์แบบสมาร์ต กับหลากหลายเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
- ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบAdvanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น E ขนาด 7 นิ้ว)
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย(Wireless Charger)
- ช่องเชื่อมต่อUSB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง)
ช่วงขับจริง
คันที่ขับก่อนก็คือ e:Hev RS 4WD
เป็นรถที่ขับสนุก ช่วงล่างแน่นมาก เกาะถนนดี อาจจะเพราะมีแบตเตอรรี่อยู่ด้านหลัง บาลานซ์น้ำหนักไว้ดี
อัตราเร่งแซงนี้ดีมาก เพราะมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยด้วย ถ้าเลือกโหมดสปอร์ตยิ่งขับสนุกมากเลย
รถควบคุมง่าย ทัศนวิสัยเห็นชัดดี วิ่งความเร็วเท่าไหร่ก็จะมีตัวเลขให้เห็นตรงกระจกหน้า
เบาะที่นั่งด้านหน้าทั้งสองตำแหน่งนั่งสบายกระชับตัวดี
หลังจากนั้นก็มาขับตัว 1.5 Turbo รุ่น EL 4WD
มาขับที่หลังก็เกิดข้อเปรียบเทียบกันขึ้นมา ช่วงล่างของตัวเทอร์โบไม่หนึบหนับเท่ากับของ e:hev เพราะไม่มีแบตเตอรี่บาลานซ์ไว้ ก็จะรู้สึกว่ากระเทือนแต่ก็ไม่มาก การเกาะถนนก็ไม่เนียนเท่า e;hev
แต่ก็ยังให้อารมณ์ในการขับที่สนุก
สองคันนี้ก็อยู่ที่ความชอบแล้วละคะ ว่าชอบสไตล์การขับขี่แบบไหน ออปชั่นแค่ไหนถึงจะพอ และงบปรมาณที่ตั้งไว้เท่าไหร่
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด5 รุ่นย่อย ดังนี้
- e:HEV มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท
- e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท
- เครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท
- รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท
- รุ่น E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ( Alongcaronline)
ผู้หญิงขับรถ