กระบอกสูบกับก้านสูบ

Brand: HONDA Model: City
Year: 2003 Miles: 60001-80000
From: นายประวิทย์ ตันฑเมืองยศ

ขอบคุณมากคับสำหรับทุกคำตอบที่ถามไปนะคับ ผมก็สนใจเรื่องเครื่องยนต์
กลไกเหมือนกันคับ แต่ความรู้ยังน้อยอยู่ถือว่าเป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ไม่
รู้นะคับ ขอถามคำถามเลยนะคับ
1.แรงม้าอยู่ที่ขนาดกระบอกสูบ แรงบิดอยู่ที่ก้านลูกสูบหรือเปล่าคับ
2.รถแรงบิดสูงสุด อยู่รอบเครื่องต่ำ เช่นสัก 2,500 รอบ ก้านลูกสูบ
จะยาวกว่า รถแรงบิดสูงสุด รอบเครื่องยนต์สูงเช่น สัก 4,500 รอบ หรือ
เปล่าคับ
3.แล้วตามคำถามข้อ 2 หากมีรถ 2 คัน แรงบิดสูงในรอบต่ำ กับ แรง
บิดสูงในรอบสูง เวลาวิ่งใช้ความเร็วสัก130 คันไหนจะวิ่งดีกว่ากันคับ เพราะ
สงสัยวัตถุประสงค์เวลาโรงงานเค้าตั้งแรงบิดของรถแต่ละยี่ห้อที่รอบเครื่อง
ยนต์ไม่เหมือนกันครับ
หวังว่าคงได้รับความเมตตาให้ความรู้จากคุณอาอีกนะคับ ขอบคุณ
ครับ


ไม่เป็นไรครับ ถามกันตรงตรง ไม่ได้มีท่าทีอะไรให้สงสัย หรือรู้สึกได้ว่า เป็นการเสแสร้ง หรือหาเหตุมาไว้ด่ากัน อย่างที่คุณประวิทย์ถามผมนี่ คนถูกถามจะรู้สึกได้ถึงเจตนา โดยเฉพาะคนที่ทำงานรับคำถามอยู่หลายสิบปีอย่างผม เมื่อรู้สึกแล้ว ก็ยินดีที่จะตอบ ถึงไม่ทราบ ก็จะเที่ยวไปค้นหาข้อมูลมาตอบให้เสมอครับ
1-แรงม้า อยู่ที่ขนาดกระบอกสูบ แรงบิดอยู่ที่ก้านสูบ จะพูดอย่างที่คุณประวิทย์ยกมาตั้งเป็นข้อกำหนด ก็พอจะได้ แต่ไม่ถูกต้องนัก คืออาจจะอยากคิดว่า แรงม้าอยู่ที่จำนวนซีซี.ของกระบอกสูบ และแรงบิดอยู่ที่ความสั้นยาวของก้านสูบ หรือมองว่า ก้านสูบเป็นตัวสร้างแรงบิด หากไม่คิดอะไร ก็อาจจะตอบว่า ไม่เกี่ยว
แต่หากคิดและมองกลับไปทางด้านผู้ถาม ก็พอจะตอบได้ว่า เกี่ยวเหมือนกัน
ถ้ามองอย่างผม ก็จะต้องเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ถูกเป็นบางส่วน และมีส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมากนัก
เช่น แรงม้า ไม่ได้มีแค่ CC. หรือความจุกระบอกสูบเป็นตัวกำหนด ยังมีความเร็วรอบเครื่องยนต์ แรงเฉลี่ยของการอัดในกระบอกสูบ และอื่นอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีกหลายอย่าง
แรงบิดเอง ก็ไม่ได้เกี่ยวเฉพาะชิ้นส่วนของจักรกล อย่างที่คุณประวิทย์ว่าไป หากแต่มีส่วนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยอีกเหมือนกับแรงม้า เช่นท่อไอดี ทางเดินของไอดี จังหวะที่วาล์วเปิดและปิด หรือการบรรจุไอดีในกระบอกสูบ เป็นต้น
2-ไม่จำเป็นเสมอไปครับ อย่างที่ผมบอกไว้ในข้อแรก ย่อหน้าสุดท้ายนั่นแหละ
3-อันนี้ ต้องไปถึงอัตราทดเกียร์ ที่เขาใช้แล้วละครับ จะมายกเอาเพียงเครื่องยนต์เพื่อพูดกัน ก็จะเกิดข้อถกเถียงวุ่นวายมาก เขาจึงไมพูดกันแค่ที่คุณยกมา แต่จะพูดกันถึงด้านรวม อันหมายถึงเครื่องยนต์ กับระบบส่งกำลัง จากเกียร์ไปถึงลูกล้อกันเลยทีเดียว แล้วจึงจะมองออก
ในขั้นแรก ไม่จำเป็นต้องยกเรื่องนี้มาพูดกัน จนกว่าจะเข้าใจธรรมชาติของเครื่องยนต์เสียก่อน นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะ
หากเข้าใจธรรมชาติของเครื่องยนต์แล้ว และเข้าใจเรื่องราวอุปกรณ์รถยนต์ดีแล้ว พูดกันถึงเรื่องปัญหาที่คุณยกมาถาม จะได้คำถามที่ตรงกับความรู้ ความเข้าใจของหลายคนมากกว่า ทำให้ตอบ และพูดกันได้ เข้าใจง่ายขึ้นกว่าถามตอนนี้ อันหมายถึงตอนที่ยังไม่รู้จักกัน ยังไม่รู้ถึงระดับความรู้ของอีกฝ่ายหนึ่ง อันจะทำให้ต้องอธิบายกันยาวเหยียด เพื่อป้องกันข้อครหาของผู้รู้ท่านอื่น ที่รู้อย่างเดียว ไม่เฉลียวใจ ไม่มีสามัญสำนึกเลยน่ะครับ-ธเนศร์

Facebook Comments