ประธานาธิบดี ริชาร์ดซันของสหรัฐอเมริกาเคยกล่าวไว้ในช่วงสงครามเวียตนามว่า “คนเราไม่สิ้นสุดเมื่อเขาแพ้ แต่สิ้นสุดเมือเขายอมแพ้”
การเติบโตทางเศรษฐกิจติดต่อกันหลายปีของเวียตนามและความตั้งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ในเวียตนามส่งผลให้ Vinfast บริษัทรถยนต์แห่งแรงในเวียตนามผลิตรถยนต์ที่นำรถไปเปิดตัวในงาน Paris Motor Show ปี 2018
Vinfast บริษัทรถยนต์เวียตนามผลิตรถ 3 และ 5 ประตูด้วยราคา US$19,000 (443,411 บาท) มาชนกับรถเกาหลีและญี่ปุ่น
บริษัท Vinfast ตั้งเป้าว่าจะผลิตรถออกมาอีก 12 รุ่นโดยมีรถไฟฟ้ารวมอยู่ด้วย โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิต 250,000 คันต่อปีและ 500,000 ต่อปีภายในปี 2025
การขยายตัวของคนชั้นกลางส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์เวียตนามถูกตั้งเป้าว่าจะสามารถขายรถได้ 750,000 ถึง 800,000 คันต่อปีภายในปี ค.ศ. 2025 ตัวเลขสำคัญที่เห็นได้ชัดคือการเปลี่ยนจากการใช้รถจักรยานต์มาเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล
ในขณะเดียวกันการเติบโตของไทยนั้นอยู่ที่ 1,007,552 ล้านคันต่อปีหากแต่ยอดขายรถในไทยนั้นมีแนวโน้มที่ถดถอยในขณะที่เวียตนามไต่ขึ้นเรื่อย ๆ
บริษัท Vinfast เป็นบริษัทที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม 4.0 และเป็นบริษัทแรกของเวียตนามที่นำรถไปอวดโฉมในงาน Paris Motor Show ปี 2018 โดยสร้างขึ้นในเวลาเพียง 21 เดือน โดยทั่วไปแล้วโรงงานรถยนต์ขนาดเช่นนี้จะใช้เวลาการสร้างไม่ต่ำว่า 5 ปี ร้อยละ 30 ของชิ้นส่วนรถยนต์ผลิตในประเทศซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ในประเทศทั้งหมด Vinfast ได้รับความช่วยเหลือในการออกแบบและการผลิตจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรปเช่น BMW และ Siemens โดย Vinfast SUV รุ่นแรกสร้างโดยใช้ช่วงล่างจาก BMW X5 และขายในเวียตนามในราคาประมาณ $50,000 ถูกกว่า X5 ประมาณร้อยละ 40
อุปสรรค์การเติบโตของตลาดรถยนต์ในเวียตนามอยู่ที่ราคานำเข้าซึ่งถูกว่าผลิตเอง
ทั้งนี้เพราะเวียตนามอยู่ในเขตการค้าอาเซียนซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์อยู่แล้ว
เป็นที่ทราบกันดีว่าผลผลิตมวลรวมของเวียตนามอยู่ที่ 6.7% อย่างต่อเนื่องขณะที่ไทยอยู่ในแดนติดลบและผู้บริโภคในเวียตนามซึ่งมีถึง 98 ล้านคน โดยผู้บริโภคในไทย 69 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่สูงอายุและมีภาระหนี้สิ้น ที่สำคัญที่สุดคือเวียตนามได้เข้าร่วม Free Trade Agreements (FTAs) กับสหภาพยุโรปซึ่งไทยไม่สามารถเข้าร่วมได้ในขณะนั้นเพราะสถานะเป็นรัฐบาลเผด็จการทหาร
นอกจากนั้น European Union-Vietnam Free Trade Agreement (EVFTA) ที่เวียตนามเข้าร่วมก็เป็นแต้มต่อเพราะเป็นสัญญาในการลดอากรร่วมในสิ้นค้าต่าง ๆ รวมถึงรถยนต์ที่ผลิตในเวียตนาม
อย่างไรก็ดี การจะขึ้นหน้าแซงไทยในเรื่องการผลิตรถยนต์นั้นยังเร็วไปที่จะตัดสิน เพราะไทยเป็นฐานการผลิตของบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายราย และมีศักยภาพในด้านต่าง ๆ ค่อนข้างครบครัน หากแต่ปัจจัยลบในไทยก็ไม่สามารถมองข้ามได้ไม่ว่าจำนวนผู้บริโภคภายในประเทศและประชากรส่วนใหญ่ที่เข้าสู่วัยชรา
คำพูดของลุงโฮจิมินห์ที่กล่าวไว้ว่า “พายุเป็นโอกาสที่ดีของต้นสนที่จะแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของมัน” ยังคงเป็นความจริงเสมอ
เคน เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
นายศุภกร รัตนวร…
มร. ทาคาชิ ฮาตะ…
มาสด้าเปิดตัวโค…