Update ปัญหาของ C200 รุ่นใหม่
Brand: MERCEDES-BENZ Model: C-Class
Year: 2008 Miles: 40001-60000
From: P K
ผมเคยตั้งคำถามไว้เมื่อ 7 ส.ค. 2009 ว่า
“ผมใช้รถ Benz C200 Elegance รุ่นปัจจุบัน มา 10 เดือน มีปัญหา
1. เสียงดังที่ประตูด้านหน้าด้านข้างคนขับ เช็คที่เบนซ์ออโต้ บอกว่าดังจากสายไฟ แก้โดยการจัดสายไฟ
2. หลอดไฟท้ายขาดหลังออกรถประมาณ 1 เดือน เช็คที่เบนซ์ออโต้ เปลี่ยนหลอดไฟ บอกว่าไม่ต้องเช็คอะไร เป็นเรื่องปกติของหลอดไฟ
3. เวลาเปิดประตูหน้าแล้วกระจกมองข้างกางออก จะมีเสียงดังอื๊ดดดดดดดดที่กระจกมองข้างด้านข้างคนขับ ยาวและดังพอที่จะให้ใครหันมาดู แต่มักเป็นตอนเย็น เช็คที่เบนซ์ลุมพินี ช่างบอกว่าไม่พบความผิดปกติ หยอดน้ำมันหล่อลื่นให้ก็ไม่หาย
4. เสียงดังเหมือนมีชิ้นส่วนหลุดอยู่ในประตูด้านหลังด้านข้างคนขับ โทรไปถามที่เบนซ์ออโต้บอกให้เอารถเข้ามาเช็ค แต่เอาเข้าไปแล้วบอกว่าไม่มีเครื่องมือถอดประกอบแผงประตู ต่อมาเอารถไปเช็คที่เบนซ์ลุมพินี ตรวจแล้วบอกว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ ผมต้องไปทำให้ดูจนยอมรับว่าผิดปกติจริง ตรวจพบว่าแผ่นกันความร้อนที่ติดอยู่ด้านในแผงประตูหลุดออกมาเป็นแผ่นยาวแกว่งอยู่ในแผงประตู ช่างเอาออกและเอาแผ่นใยแก้วมาติดแทน
5. รถสตาร์ทยาก โดยเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อนรู้สึกว่ารถใช้เวลาสตาร์ทยาวกว่าปกติบางครั้ง ต่อมา 1 เดือนก่อนตอนเย็นหลังเลิกงานผมสตาร์ทรถติดแล้วจังหวะที่แอร์เริ่มทำงานเครื่องรถก็ดับ ไฟหน้าปัดรูปแบตเตอรี่และอื่น ๆ ติดสว่างเหมือนเวลาบิดกุญแจไปที่ on แต่ยังไม่สตาร์ท ผมบิดกุญแจไปที่ off แล้วสตาร์ทใหม่อีก 3 ครั้งก็สตาร์ทไม่ติด ครั้งหลังมีจังหวะกด off แอร์ได้ หลังจากรอประมาณ 10 นาทีสตาร์ทรถใหม่ คราวนี้สตาร์ทติด ขับรถออกไปสักพักแล้วค่อยเปิดแอร์รถก็วิ่งไปได้ปกติ ติดต่อไปที่เบนซ์ลุมพินี ช่างบอกว่าผิดปกติแน่ให้เอารถมาเช็ค ช่างใช้เวลาเช็คทั้งวันบอกว่าตรวจแล้วทุกอย่างไม่พบความผิดปกติ (ตามเคย) ให้ผมเอารถไปใช้ก่อนไม่น่ามีปัญหา แต่ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนรถก็สตาร์ทไม่ติดอีก ครั้งนี้น่าจะแย่กว่าเก่าเพราะหลังจากกลับจากเบนซ์ลุมพินีครั้งก่อนผมก็ off แอร์ก่อนจะดับเครื่องรถทุกครั้งเพราะกลัวจะสตาร์ทไม่ติด แต่วันนั้นตอนเย็นก็สตาร์ทไม่ติดอีกในขณะ off แอร์ ครั้งนี้สตาร์ทแล้วเหมือนเครื่องยนต์หมุนครึ่งหนึ่งของปกติ เสียงเครี่องครางเบา ๆไปเรื่อย ๆ ไฟที่แผงหน้าปัดไม่ขึ้นอะไรเลยคล้ายสตาร์ทติดแล้วแต่ไม่สามารถออกตัวได้ ต้องหมุนกุญแจดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่จึงจะติด หลังจากขับรถไปสักพักแล้วก็เปิดแอร์ขับไปได้ปกติ โทรไปที่เบนซ์ลุมพินีก็บอกให้เอารถมาเช็คอีก ไม่ทราบว่าอีกกี่ครั้งจึงจะแก้ปัญหาได้ และไม่มีการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าที่เกิดจากคุณภาพของรถที่แย่ สักแต่จะให้ลูกค้าเอารถเข้ามาซ่อมไปเรื่อย ๆ แล้วก็บอกว่าปกติ ถามเรื่องความรับผิดชอบเวลาที่ลูกค้าไม่มีรถใช้หรือการเปลี่ยนรถก็ไม่ตอบไม่ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น
6. เสียงดังบริเวณไฟเบรกดวงที่ 3 เวลารถบิดตัว
7. เสียงดังที่เสากลางรถทั้ง 2 ข้างเวลารถบิดตัว
8. เสียงดังที่เพดานรถเวลารถบิดตัว
9. เสียงดังบริเวณมาตรวัดความเร็วรถที่คอนโซลหน้าเวลารถวิ่งผ่านทางไม่เรียบ
ปัญหาข้อ 3, 6-9 ผมยังไม่ได้บอกให้ศูนย์แก้เลย เพราะแค่เรื่องที่ผ่านมาก็ยังแก้ปัญหาครึ่ง ๆ กลาง ๆ เหมือนขอไปที ถ้าผมแจ้งไปก็คงจะบอกว่าตรวจไม่เจออีกตามเคยเพราะมันไม่ได้เกิดตลอดเวลาแต่ก็บ่อยพอที่จะรู้สึกรำคาญและไม่สะดวกสบายได้ แต่มันไม่เป็นปัญหาที่คอขาดบาดตายเท่ากับการสตาร์ทไม่ติด ใคร ๆ ก็คิดว่าขับรถเบนซ์แล้วดูดีแต่ทุกวันนี้ผมกลัวจะเจอคนรู้จักมาเห็นผมขับรถเบนซ์ซึ่งไม่ทราบว่าจะสตาร์ทไม่ติดวันไหน ภาพตอนนั้นคงทุเรศพิลึก
ผมรู้สึกว่าคุณภาพของรถคันนี้ไม่ดีเลย ไม่น่าจะผ่าน QC มาแล้ว ไม่น่าจะติดยี่ห้อเบนซ์ได้เลย หรือจริง ๆ แล้วตอนนี้เบนซ์มีคุณภาพได้เพียงเท่านี้เองก็ไม่ทราบ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แปลว่าเบนซ์ตกต่ำมากเลย เวลาพบปัญหาซึ่งคงต้องเป็นปัญหาจากการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพก็ไม่รับผิดชอบและไม่หาทางแก้ปัญหาตามที่ควร ไม่มี service mind ตามที่คิดว่าศุนย์บริการเบนซ์น่าจะมีมาตรฐานที่สูงกว่ารถทั่ว ๆ ไป ซึ่งอาจจะกลับกันเสียแล้วเพราะรถญี่ปุ่นถูก ๆ ที่บ้านผมหลายคันไม่เคยมีปัญหาสตาร์ทไม่ติดในปีแรก ๆ เลย ภาพพจน์ในเรื่องความสะดวกสบายและปลอดภัยของเบนซ์ยังมีอยู่จริงในปัจจุบันอีกหรือ
ผมอยากเรียนถามว่าคุณธเนศร์คิดว่าปัญหารถสตาร์ทติดยากน่าจะเกิดตรงไหน ต้องซ่อมอย่างไรบ้าง ใช้เวลาประมาณเท่าไรครับ และอยากเรียนถามทุกท่านที่เคยใช้รถยี่ห้อนี้ว่ารถมีปัญหาบ่อยแค่ไหน ได้รับการดูแลดีหรือไม่ครับ”
ต่อมาประมาณ 1.5 เดือน คุณธเนศร์ตอบ และต่อมามีการแก้ไขให้ความแรงของคำตอบน้อยลง
“ปัญหาที่คุณเล่ามา ไม่ได้จงใจถามผม หากเป็นการระบายความอึดอัดออกมาให้เพื่อนเพื่อนฟังเท่านั้น
แต่ผมก็อยากเสนอความคิดเห็นบ้างนะครับ ก่อนจะตอบปัญหาของคุณที่ถามผมตรงตรง
—————-
รถของคุณคุณภาพตกต่ำไปจริงจริงแหละครับ คงเป็นด้วยการควบคุมงานของอเมริกัน ไครสเลอร์ ที่เข้ามามีบทบาทในเมอร์เซเดส-เบนซ์ ของเยอรมนี
และเท่าที่ทราบกันลึกลึกนั้น ไครสเลอร์พยายามลดระดับเบนซ์ลงให้พอพอกับหรือลงกว่า Town Car ของไครสเลอร์เอง
อย่างเช่นพยายามเอาดาวออกจากหน้าหม้อของเบนซ์ทุกคันเท่าที่ทำได้ นี่เป็นหลักใหญ่ในการพยายามลดระดับความเชื่อถือของผู้ใช้รถลงไป
และก็พยายามลดความแม่นยำในการตรวจสอบคุณภาพรถ กับการให้บริการ ที่เดิมที่ เบนซ์ในบ้านเราเป็นรถชั้นดีเพราะทำและบริการโดยคนไทย ธนบุรี แต่ต่อมา เยอรมนีเข้ามาครองยี่ห้อคืน
ก็เลยทำตามมาตรฐานของเขา ไม่คิดถึงมาตรฐานอันเคยครองใจคนไทยได้มาก่อน คือยึดถือเอาเองว่า เมื่อใช้เบนซ์ ก็ต้องรับบริการแบบเบนซ์
ในขณะทีเดิมนั้น เมื่อใช้เบนซ์ คุณจะได้รับบริการแบบธนบุรี
เรื่องมันก็เกิดแบบนี้แหละครับ ผมเองก็ไม่คิดซื้อเบนซ์มาใช้อีกแล้ว จนกว่าไครสเลอร์หรืออเมริกัน จะหลุดพ้นไปจากวงจรของเบนซ์
——————————
คราวนี้ มาคำตอบเรื่องการสตาร์ทของคุณ
ผมมั่นใจว่า โปรแกรมในคอมพิวเตอร์ของคุณน่าจะเสียไปแล้วแบบเสียทั้งหมด หนึ่งโปรแกรม หรือโปรแกรมหลัก
ตอนนี้ ที่เหลืออยู่ก็คือโปรแกรมสำรอง ที่ใช้เพื่อทำให้รถทำงานได้ชั่วคราว หรือเพื่อเข้าอู่ซ่อมได้เท่านั้น ดังนั้น จึงทำงานไม่เต็มที่ และทำงานไม่ดี
การแก้ไขก็คือ นำรถไปติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ใหม่ ลงกับกล่องคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อย
ซึ่ง การติดตั้งโปรแกรมใหม่นั้น ทางฝ่ายเทคนิคของศูนย์บริการใหญ่ ควรจะทำได้ครับ ไม่ต้องเปลี่ยนกล่องคอมพิวเตอร์ใหม่หรอก
เพียงติดตั้งเข้าไปโดยใช้คอมพิวเตอร์ตัวที่บรรจุโปรแกรมและชุดติดตั้งเอาไว้ เสียบเข้าไปทาง OBD II แล้วกดปุ่มให้ล้างโปรแกรมเก่า ติดตั้งโปรแกรมใหม่ สักราวชั่วโมงหนึ่งก็น่าจะเรียบร้อยแล้วละครับ
อยู่ที่ว่า ช่างของศูนย์บริการจะงี่เง่าปานใด จะรีบร้อนติดต่อฝ่ายเทคนิคให้หรือไม่ ถ้ารีบร้อนจริง ก็เสร็จเร็วครับ
เพราะเรื่องเหล่านี้ ฝ่ายเทคนิคนั่นแหละรู้เรื่องดี ฝ่ายบริการก็รู้เรื่อง แต่มักไม่ค่อยยอมทำ กลัวอะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน-ธเนศร์”
ตอนนี้ผมจะ Update ความคืบหน้าบางเรื่องให้ทราบนะครับ
ตอนนี้ผมอยู่กับ W204 มาเกือบ 3 ปีแล้ว
ก่อนที่จะซื้อรถ เรา ๆ ที่ไม่ได้ทราบเรื่องรถแบบลึกซึ้งมากคงมีคนจำนวนมากที่คิดว่ารถระดับราคาอย่างนี้ ต้องมีคุณภาพ สมรรถภาพ และ Option ในระดับดีมาก นอกจากนั้นการบริการหลังการขายก็คงจะดีมากด้วย
แต่รถรุ่น W204 คุณภาพไม่ได้ดีอย่างที่คิดเลย และบริษัท MB Thailand ยังไม่คิดจะรักษาคุณภาพและรับประกันรถอย่างจริงจังอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น MB Thailand ยังมีเจตนาหลอกลวงยัดเยียดชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานให้ลูกค้าด้วย
ในเรื่องคุณภาพของรถ
– ผมเจอมาทั้งสตาร์ทไม่ติด ต้องปิดแอร์ไว้ก่อนสตาร์ทและทิ้งไว้ก่อนอีก 10 นาทีจึงจะสตาร์ทติด ตามที่เคยถามคุณธเนศร์ไว้ ซึ่งไปเช็คที่ศูนย์หลายครั้งและหลายศูนย์ก็บอกว่าไม่พบสาเหตุ ไปที่ลุมพินีช่างบอกว่าปกติ จะลอง set computer ใหม่ดูก่อน หลังจากนั้นเรื่องสตาร์ทแย่ลง ปิดแอร์ก็ยังสตาร์ทไม่ติด ต่อมาไปที่พระราม 3 ได้เปลี่ยนปั๊มน้ำมันไป ปรากฎว่าดีขึ้น แต่บางครั้งก็ยังสตาร์ทยาววววว
– เจอทั้งหลอดไฟที่ขยันขาดบ่อยมากซ้ำ ๆ ที่เดิม แต่ศูนย์รวมทั้ง MB Thailand เคยเอาไปเช็คก็บอกว่าไม่มีปัญหา แต่หลังจากเช็คเสร็จไปไม่กี่วันหลอดไฟก็ขาดอีก แต่ละครั้งที่เคยเข้าศูนย์ก็ทำได้แค่เปลี่ยนหลอดไฟไปเรื่อย ๆ บางทีหลอดขาดผมก็ต้องช่างมันเพราะไม่มีเวลาเอารถเข้าศูนย์บ่อยมาก ๆ ผมไม่ทราบว่าระบบไฟฟ้าที่มีปัญหานี้จะเกี่ยวกับการสตาร์ทติดยากด้วยหรือเปล่า
– ระบบเบรคที่มีคนบอกว่าดี แต่มันมีอายุการใช้งานประมาณแค่ 40000 กม.แล้วลูกค้าก็จำเป็นต้องเปลี่ยนจานเบรคและผ้าเบรคทั้ง 4 ล้อในราคาเกือบ 40000 บาท ทั้ง ๆ ที่รถอื่น ๆ รวมทั้งรถญี่ปุ่นใช้งานได้นานกว่านี้มากและราคาก็ต่ำกว่านี้มากด้วย เรื่องนี้ผมแน่ใจว่าไม่เคยเบรครุนแรง ใช้งานปกติแค่ในเมืองเท่านั้น
– ระบบพับกระจกมองข้างมีเสียงดัง ดังขนาดที่จะมีคนแถวนั้นมองรถคุณเป็นจุดเดียวโดยที่คุณไม่ได้เรียกร้องให้มอง ศูนย์เปลี่ยนมอเตอร์ให้แต่ขณะนี้ก็ยังมีเสียงดังอยู่ MB Thailand ก็เคยเอารถไปเช็ค แต่ตอบมาว่าปกติ
– วัสดุที่ใช้ประกอบรถคุณภาพต่ำ ฝีมือการประกอบรถของ MB Thailand ก็ไม่ดี รถมีปัญหาแผงกันความร้อนซึ่งอยู่ในแผงประตูหลุดออกมาเองได้ ทำให้มีเสียงดังในประตู แจ้งศูนย์ตรวจแล้วศูนย์ก็บอกว่าปกติอีกตามเคย ลูกค้าต้องไปทำให้ดูว่ามีเสียงดังผิดปกติ พอเปิดแผงประตูมาดูก็พบแผงกันความร้อนหลุดออกมาเป็นแผ่นยาวแกว่งอยู่ข้างใน สภาพแผงนี้ก็เปื่อย ๆ มีรอยแตก ๆ พบขณะใช้รถมาได้แค่ประมาณครึ่งปีเท่านั้น
– เสียงดังที่ console หน้ารถเกิดจากกระจกหน้า seal ไม่ดี ทำให้มีเสียงกระจกเสียดสีกับยางซีลและตัวถังเกือบตลอดเวลาตั้งแต่เดือนแรก ๆ ที่ใช้รถรุ่นนี้ เข้าศูนย์ให้เช็คตลอดแต่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่พบปัญหา จนครั้งหลังค่อยตรวจพบ ผมคิดว่าเรื่องซีลกระจกหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและเป็นปัญหาที่พบได้ยากในรถทั่วไป เป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าแต่ต้องใช้ฝีมือและการควบคุมคุณภาพที่จริงจังทุกคัน
– โช๊คมีอายุการใช้งานสั้นประมาณ 40000 กม ก็ต้องเปลี่ยนแล้วโดยไม่มีคำอธิบาย
– เสียงดังจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งใช้วัสดุคุณภาพต่ำภายในห้องโดยสารรอบคัน ผมทราบมาจากผู้ใช้รถรุ่นนี้คนอื่นว่าเป็นเหมือนกัน เรื่องนี้สร้างความรำคาญให้คนใช้รถ เคยให้ MB Thailand ตรวจแก้ แต่ได้รับคำตอบว่าปกติ
– เสียงเครื่องหน้ารถดังมาก คล้ายเสียงสายพานลูกรอก ทางศูนย์และ MB Thailand เช็คแล้วบอกว่าปกติ
เรื่องต่าง ๆ ข้างต้นนี้เป็นความจริง เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่ ๆ กัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนแรกที่ซื้อรถ มีใบเสร็จและรายการที่เข้าตรวจเช็คที่ศูนย์ และทาง MB Thailand ได้นำรถไปตรวจมาแล้ว โดยใช้เวลาตรวจแค่ครึ่งวันก็บอกมาเลยว่าตรวจทุกอย่างแล้วไม่มีปัญหา ทั้งเรื่องระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง และการประกอบรถเป็นปกติทุกอย่าง แต่เวลารับรถมาแล้วก็ยังพบว่าหลอดไฟขาดอีก เสียงดังด้านหน้ารถก็ไม่หาย สตาร์ทรถบางครั้งก็ยาววววว จนใจหายใจคว่ำว่าจะไม่ติดอีกแล้วเหรอ เวลากางกระจกมองข้างก็ดังได้ระดับอีกตามเคย ผมเคยพูดกับผู้บริหาร MB Thailand ว่าคุณภาพในการประกอบรถยี่ห้อนี้คิดว่าน่าจะดีในระดับสูงกว่าทั่ว ๆ ไปแต่ก็ได้รับคำตอบจากผู้บริหาร MB Thailand ว่า “ก็ทางบริษัทเราไม่เคยบอกว่ารถเรามีคุณภาพ” แปลว่าลูกค้าดันไปคิดเอาเองว่ารถยี่ห้อนี้น่าจะมีคุณภาพดีแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่
ผมต้องนำรถเข้าไปตรวจเช็คที่ศูนย์บ่อย ๆ ตลอดเกือบ 3 ปี แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ แต่ละครั้งใช้เวลาอยู่ในศูนย์ 4-9 วัน ผมไม่ได้พิมพ์ผิด 9 วันจริง ๆ แต่…แก้ปัญหาไม่ได้!!! ทาง MB Thailand เคยบอกผมว่าถ้ารถมีปัญหาต้องซ่อมเกิน 5 วันจะมีรถให้ใช้แทนไปก่อน แต่ปรากฏว่าซ่อม 9 วันแล้วขอรถใช้ทดแทนก็ไม่ได้โดยมีข้ออ้างสารพัดมาปฏิเสธความรับผิดชอบ
ที่ผมบอกตอนต้นว่า MB Thailand มีเจตนาหลอกลวงและยัดเยียดชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานให้ลูกค้านั้น เพราะ
– หลอดไฟที่ขาดบ่อย ๆ ทาง MB Germany ให้ใช้หลอดไฟเบอร์หนึ่งเป็นมาตรฐาน (แต่ไม่ทราบว่าเบอร์อะไร) แต่ MB Thailand ไม่แน่ใจว่าหลอดไฟที่ใช้จริงในรถที่ผลิตในประเทศไทยใช้หลอดไฟเบอร์อะไร จะขอเปลี่ยนหลอดไฟให้เป็นเบอร์ที่ MB Germany แนะนำก่อนแล้วค่อยดูว่าหลอดไฟขาดอีกหรือไม่ แสดงว่าเรื่องหลอดไฟและระบบไฟในรถทาง MB Thailand ไม่ได้ใช้เบอร์ที่เป็นมาตรฐาน มีการลักลอบใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตรถยนต์โดยที่ทาง MB Germany ไม่ทราบ
– โช๊คของรถรุ่นนี้ทาง MB Germany ให้ใช้รุ่นใหม่ทั้งหมดแล้ว ทาง MB Thailand มีโช๊ครุ่นนี้แล้วแต่ยังไม่ให้ลูกค้าใช้ รถคันไหนต้องเปลี่ยนโช๊คจะต้องใช้รุ่นเก่าไปก่อน คงจะให้หมดสต็อกก่อน ทางศูนย์จะเบิกโช๊ครุ่นใหม่ก็เบิกไม่ได้เพราะยังไม่เปิดรหัสให้เบิกไปใช้ ในเมื่อ MB Germany ให้ใช้โช๊ครุ่นใหม่เป็นมาตรฐานแล้วทาง MB Thailand ก็ต้องให้ลูกค้าที่ต้องเปลี่ยนโช๊คได้ใช้โช๊คใหม่ที่เป็นมาตรฐานในทันที ไม่ใช่ใช้โช๊คเก่าที่ตกมาตรฐานไปก่อน เรื่องนี้บุคคลภายนอกมีโอกาสทราบได้ยากมาก แม้กระทั่งศูนย์ต่าง ๆ ก็ยังไม่ทราบเลย
– ทาง MB Thailand ประกอบรถแต่ไม่ได้ควบคุมคุณภาพรถอย่างดีทุกคันตามที่รับประกันรถใหม่ ทำให้มีรถที่ไม่ได้คุณภาพหลุดออกมาให้เจอปัญหาได้ตั้งแต่ใช้รถเดือนแรก โดยมีปัญหาทุกระบบคือระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง และคุณภาพการประกอบรถยนต์ และมีปัญหาใหม่ ๆ เพิ่มเติมมาไม่หยุดด้วย
เรื่องที่คุณธเนศร์เคยสงสัย “…อยู่ที่ว่า ช่างของศูนย์บริการจะงี่เง่าปานใด จะรีบร้อนติดต่อฝ่ายเทคนิคให้หรือไม่ ถ้ารีบร้อนจริง ก็เสร็จเร็วครับ เพราะเรื่องเหล่านี้ ฝ่ายเทคนิคนั่นแหละรู้เรื่องดี ฝ่ายบริการก็รู้เรื่อง แต่มักไม่ค่อยยอมทำ กลัวอะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน-ธเนศร์” ผมคิดว่าตัวการใหญ่ของปัญหาอยู่ที่ MB Thailand ครับ เพราะหลาย ๆ ครั้งทางศูนย์ตรวจพบปัญหาแล้วแต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพราะต้องรอให้ MB Thailand ตรวจสอบก่อน ไม่เช่นนั้น MB Thailand จะไม่จ่ายค่าซ่อม (ตามที่รับประกันรถไว้) ให้แก่ศูนย์ ศูนย์จึงไม่กล้าทำอะไรและบางครั้งก็เลยบอกว่าไม่พบปัญหา และแน่นอนคุณภาพของศูนย์บางแห่งก็แย่มากด้วย ทำให้ลูกค้าที่ไปเจอศูนย์แบบนี้และเจอระบบของ MB Thailand แบบนี้ ต้องบอกว่าดวงตกอย่างแรง
เรื่องหนึ่งที่น่าจะมีประโยชน์ คือถ้าใครหลวมตัวซื้อรถยี่ห้อนี้มาใช้แล้วก็ต้องอดทนมาก ๆ หน่อย บอกได้เลยว่าถ้าคุณซื้อรถ W204 ไปคุณจะไม่เหงาเพราะมีโอกาสพบปัญหาต่าง ๆ ให้คุณตามแก้ได้ไม่หยุดทีเดียว ดังนั้นคุณต้องมีเวลาเหลือเฟือมาก ๆ งานการทำให้น้อย ๆ ไว้จะได้เอาเวลาไปแก้ปัญหารถ ถ้าต้องเอารถเข้าศูนย์ก็ควรไปวันธรรมดาเพราะถ้าตรวจเจออะไรเข้าทางศุนย์จะต้องขออนุมัติ MB Thailand เพื่อจะเปลี่ยนหรือซ่อมชิ้นส่วนนั้นในวันธรรมดา ถ้าท่านไปเข้าศูนย์วันเสาร์อาทิตย์ท่านก็ต้องรอให้ MB Thailand เปิดในวันธรรมดาเสียก่อนศูนย์จึงจะเปลี่ยนหรือซ่อมชิ้นส่วนนั้นได้
เรื่องทั้งหมดขอผ่าน เพราะทุกปัญหาต้องลงมือตรวจสอบ จะตอบก็คงจะเดา อันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทัั้งหมดเป็นการบอกเล่า จึงต้องผ่าน