Toyota’s CSR จากต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ “Drive Toyota…Drive Responsibility”
Toyota’s CSR จากต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ
“Drive Toyota…Drive Responsibility”
มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส และ นางสุวิษา ฐิตินิรันดร์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ร่วมแถลงข่าว “Toyota’s CSR จากต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ” โดยมี นายมาโนช ลี้โกมลชัย ประธานชมรมความร่วมมือโตโยต้า และ นายอานนท์ เจริญรุ่งเรือง ประธานชมรมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ร่วมในพิธีแสดงความร่วมมือ “CSR ตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ” เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ศกนี้ ณ ห้องวนาลัยบอลรูม A สวิสโซเทล ถ.วิทยุ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มุ่งมั่นตอบแทนสังคมไทยตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี ของการดำเนินกิจการในประเทศไทย นับตั้งแต่ก่อตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2505 โดยเป็นการปฏิบัติตามปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของ มร.ซากิชิ โตโยดะ ผู้ก่อตั้งธุรกิจรถยนต์ โตโยต้า เมื่อกว่า 72 ปีที่ผ่านมาในการ “ส่งเสริมพัฒนาการอย่างยั่งยืนของสังคม และประเทศที่ โตโยต้า เข้าไปดำเนินธุรกิจ” ทำให้ธุรกิจรถยนต์ของ โตโยต้า ทั่วโลกเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนดังเช่นปัจจุบัน
มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ข้ามผ่านการเป็น “Green business” ตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการผ่านมาตรฐาน ISO 14001 เรากำลังเดินหน้าต่อยอดสู่การปลูกฝัง “CSR DNA” ให้กับพนักงาน ตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ จากต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ ภายใต้ความร่วมมืออย่างดียิ่งของ “ชมรมความร่วมมือโตโยต้า” และ “ชมรมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า” มุ่งสู่การเป็น “Responsible business network” หรือเครือข่ายธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมสูงสุด”
ภายใต้แนวคิด “Fully Integrated CSR across Value Chain” ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกส่วนงานในวงจรธุรกิจ โตโยต้า ทำให้เกิดความร่วมมือกันเพื่อทำกิจกรรม CSR ตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบริหารจัดการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งผ่านมาตรฐาน ISO14001 จึงสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 230,000 ตัน (นับจากเริ่มดำเนินโครงการในปี พ.ศ.2544 จนถึงปัจจุบัน)
☼ เริ่มจากต้นน้ำ โดยบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน (Supplier) ด้วยการบริหารจัดการภายใต้หลักการ
“Responsible purchasing” ที่ส่งเสริมให้ทำการผลิตโดยรับผิดชอบต่อสังคม และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน อันเป็นหลักการสำคัญของการจัดซื้อชิ้นส่วนในการประกอบรถยนต์แบบ “Green purchasing” ที่โตโยต้านำมาใช้อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งทำให้สามารถลดการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 6,000 ตันต่อปี และในขั้นตอนของการขนส่งยังได้นำเชื้อเพลิงไบโอดีเซลมาใช้กับรถบรรทุก ทำให้สามารถลด Co2 ได้ถึง 1,200 ตันต่อปี
☼ เข้าสู่กระบวนการผลิต โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าทั้ง 3 แห่ง มุ่งมั่นดำเนินการภายใต้
หลักการ “Responsible production” ซึ่งทำการผลิตด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเข้มข้นในทุกกระบวนการด้วยการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยนำเทคโนโลยีในการลดการใช้พลังงาน และลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่อากาศมาใช้อย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถลด Co2 ได้มากถึง 10,000 ตันต่อปี เช่น การใช้แผงโซล่าเซลส์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ภายในสำนักงาน การใช้สีสูตรน้ำ “Water borne” รวมทั้งการบำบัดน้ำเสีย การใช้ทรัพยากรและวัตถุดิบในการผลิตอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้รับรางวัล “Prime minister award” ทางด้านการบริหารจัดการพลังงาน ประจำปีนี้
☼ จนถึงธุรกิจปลายน้ำ ด้วยการส่งเสริมให้ผู้แทนจำหน่าย ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการ
“Responsible operation” โดยมีความรับผิดชอบต่อลูกค้า สังคม และชุมชน พร้อมส่งต่อความรับผิดชอบ สู่ลูกค้า ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความสำคัญสูงสุดของห่วงโซ่ธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ โดยจากการสำรวจของ เจ.ดีพาวเวอร์ เอเชียแปซิฟิค โตโยต้าสามารถคว้ารางวัลอันดับ 1 ทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์ และการบริการหลังการขายหลายรางวัลเช่นเดียวกัน ในขณะที่มีการบริหารจัดการทางด้านพลังงานเพื่อลด Co2 ในเครือข่ายศูนย์บริการทั้งหมดได้ถึง 5,000 ตันต่อปี
มร.ทานาดะ กล่าวต่อไปว่า “สิ่งที่แสดงถึง “CSR-DNA” ในเครือข่ายธุรกิจของ โตโยต้า ซึ่งผมมีความภาคภูมิใจที่จะประกาศให้ทุกท่านได้ทราบในวันนี้ ได้แก่ “Toyota CSR Code of Conduct” ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติ หรือกิจกรรมที่พนักงานในทุกแผนก ทุกฝ่าย ทุกระดับ ภายในครอบครัวโตโยต้าจะร่วมกันดำเนินการให้สัมฤทธิ์ผลอย่างจริงจัง โดยเรากำลังเดินหน้าปลูกฝัง “CSR DNA” ให้กับพนักงานทุกคน ทุกฝ่าย ทุกระดับ อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง”
“Toyota CSR Code of conduct” มีหลักการสำคัญใน 8 ประเด็น ได้แก่
4 R (Reduce) หรือ 4ลด ได้แก่
☼ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Reduce CO2) ภายใต้กระบวนการทำงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม และชุมชนรอบข้าง
☼ ลดการใช้พลังงาน (Reduce Energy) ซึ่งมีส่วนในการช่วยลดปัญหาโลกร้อนที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน
☼ ลดการใช้น้ำ (Reduce Water) ด้วยการบริหารจัดการที่สามารถใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งนำน้ำที่ผ่านการใช้งานแล้ว มาผ่านกระบวนการบำบัดเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
☼ ลดปริมาณขยะ (Reduce Waste) ด้วยการใช้วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตอย่างคุ้มค่าสูงสุด รวมทั้งการนำกลับมาใช้ใหม่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล
นางสุวิษา ฐิตินิรันดร์ ผู้จัดการ ฝ่ายส่งเสริมความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า “ตัวอย่างที่ดีในเรื่องของ 4R หรือ 4ลด ได้แก่ กระบวนการผลิตของเครือข่ายโรงงาน โตโยต้า ทั้ง
3 แห่ง ได้แก่ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้า สำโรง เกตเวย์ และบ้านโพธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงาน บ้านโพธิ์ ซึ่งเป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุดของโตโยต้า โดยได้รับการคัดเลือกให้เป็น “โรงงานแห่งความยั่งยืน” หรือ “Sustainable plant” ที่มีการบริหารจัดการภายใต้หลักการ 4R อย่างสำเร็จเป็นรูปธรรม และนอกจากนี้ยังได้ดำเนินโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม “ป่านิเวศน์ในโรงงาน” หรือ “Sustainable plant” และ “แหล่งเรียนรู้เชิงนิเวศน์” หรือ “Biotope” พร้อมขยายความร่วมมือและหลักการทำงานอันเป็นประโยชน์ ต่อสังคมไปยังเครือข่ายธุรกิจ ได้แก่ ผู้ผลิตชิ้นส่วน และผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ นอกจากนี้เครือข่ายการผลิตของ โตโยต้า ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน “CSR-DIW” แสดงถึงการเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม จากการตรวจสอบของ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ครบทั้ง 3 โรงงาน เป็นบริษัทแรกของไทย”
4I (Improve) หรือ 4เพิ่ม ได้แก่
☼ เพิ่มความสุขและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในการทำงาน (Improve Green / Happy Workplace) เพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี นำมาซึ่งคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการบริการที่ดี
☼ เพิ่มความพึงพอใจให้กับพนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจ (Improve Employees / Stakeholders Satisfaction) ด้วยการบริหารจัดการ และให้การดูแลอย่างเต็มที่ ด้วยความโปร่งใส และเป็นธรรม
☼ เพิ่มโอกาสในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมให้กับพนักงาน (Improve Employees’ Participation in Social Contribution) เพื่อให้พนักงานเกิดจิตอาสาในการทำความดีเพื่อสังคม และกลายเป็นเครือข่าย CSR ที่ทรงพลัง ด้วยจำนวนพนักงานทั้งหมดกว่า 2 แสนคน ตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ
☼ ขยายเครือข่ายในการทำความดีเพื่อสังคม (Improve CSR Network) จากเครือข่ายพนักงาน ขยายความร่วมมือสู่ชุมชน และสังคม เพื่อร่วมกันส่งเสริมพัฒนาการอย่างยั่งยืนของประเทศ
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส เปิดเผยว่า “ทางด้าน
ของ 4I หรือ 4เพิ่ม เรามุ่งมั่นสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงาน และผู้มีส่วนร่วมตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจที่ดีในการทำงาน ตลอดจนมีความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งทางด้าน ผลตอบแทน สวัสดิการ การบริหารจัดการอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม โดยสิ่งที่เป็นหลักฐานถึงความพยายามดังกล่าว ได้แก่ การได้รับรางวัล “Prime minister award” ในฐานะ “สถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน” เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน รวมทั้งส่งเสริมให้พนักงานร่วมกันแสดงพลังในการเป็นเครือข่าย CSR ด้วยการปลูกฝัง “CSR DNA” ให้กับพนักงานทุกคน ซึ่งเรามีพนักงานจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2 แสนคน อยู่ในบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน 251 แห่ง โรงงานประกอบรถยนต์ 3 แห่ง และผู้แทนจำหน่าย 119 แห่ง พร้อมขยายความร่วมมือสู่ชุมชน และสังคม เพื่อส่งเสริมพัฒนาการอย่างยั่งยืนของสังคมไทย ดังเช่นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของผู้ก่อตั้งธุรกิจโตโยต้าที่ได้ให้ไว้เมื่อกว่า 72 ปีมาแล้ว”
นายวุฒิกร กล่าวต่อไปว่า “สำหรับเป้าหมายในอนาคต เรามีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงในการผลักดัน และขยายเครือข่ายความร่วมมือในการทำกิจกรรม CSR ผ่านเครือข่ายธุรกิจ และเครือข่ายพนักงาน พร้อมขยายสู่ชุมชน และสังคม รวมทั้งขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม “4R 4I ไปกับ Toyota” ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในปีนี้ และดำเนินกิจกรรมตลอดทั้งปี 2554 พร้อมด้วยกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม ที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีข้างหน้า เพื่อฉลองวาระครบรอบการดำเนินงานในประเทศไทยครบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2555 ให้สำเร็จตามพันธกิจที่เราได้ให้ไว้กับสังคมไทยว่า…
“อนาคตสังคมไทย ความภูมิใจของเรา”
**************************************************************************
สารฑูล สักการเวช
sarathun@caronline.net