run-in
Brand: OTHER Model: Other
Year: 2004 Miles: 0-5000
From: ศุภฤกษ์ ศังขะฤกษ์
Ford : everest
สวัสดีครับ คุณธเนศร์ ผมใช้ ford everest 2.5 Diesel Turbo Automatic 4X4 ในคู่มือไม่ระบุเกี่ยวกับ Run-in ไว้เลยไม่ทราบว่าคุณธเนศร์ คิดเห็น กับการ Run-in ว่าจำเป็นหรือไม่ครับ และในคู่มือไม่ได้ระบุถึงการให้ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เกียร์ เฟืองท้าย ชุด Transfer ในช่วงแรกเพื่อ เพื่อถ่ายเศษโลหะที่สึกหรอในช่วงแรกออก จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการ ก็ได้รับคำตอบว่า ได้ทำการ Run-in จากโรงงานมาแล้ว ก็ไม่อยากไปดูถูกเจ้าหน้าที่ คนนั้นหรอกนะครับ แต่เชื่อว่าเขาคงไม่น่าจะทราบถึงสายการผลิตจริงของรถยนต์นั้น รบกวนถามความรู้ของคุณธเนศร์ ด้วยนะครับ ว่ารถใหม่ยังต้อง Run-in อยู่หรือไม่ครับ ถ้ายังจำเป็นอยู่ควรจะทำอย่างไรครับ
สุดท้ายนี้ขอให้สุขภาพของคุณธเนศร์ แข็งแรงนะครับ
ขอบคุณมากครับ
ศุภฤกษ์
เมื่อคู่มือไม่ได้บอกไว้ ก็ไม่ได้บอก และไม่จำเป็นต้องทำ แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาทำมาให้คุณแล้ว เพราะเครื่องยนต์ใหม่ในสมัยนี้ เขาทำมาอย่างดี ไม่ค่อยจำเป็นจะต้องรันอินเท่าไรนัก และรันอินก็นานมากกว่าจะเข้าที่ บางที เป็นหมื่นกิโลเมตรเลยก็ได้ สำหรับหลายเครื่อง
การรันอินจากโรงงาน เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะไม่มีใครจะปล่อยให้เครื่องยนต์รันอินนับสิบนับร้อยชั่วโมง เสียน้ำมันเชื้อเพลิงเปล่าเปล่า เสียแรงงานด้วย ลองคิดดูเอาเอง ทำรถเป็นร้อยเป็นพันคัน ใครจะเสียเงินค่าเชื้อเพลิงมารันอินให้คุณกันเล่า
เครื่องยนต์สมัยนี้ ใช้โลหะดี ใช้การผลิตที่ดี ควบคุมดีมากกว่าเมื่อยี่สิบสามสิบปีที่ผ่านมามาก เครื่องเกือบเข้าที่อยู่แล้ว เศษโลหะก็มีไม่มากเหมือนกับสมัยก่อน ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเพื่อเอาเศษโลหะออกเร็วเหมือนก่อน
น้ำมันเครื่องสมัยนี้ ก็ดีกว่าสมัยลูกผมยังเพิ่งเกิดมากมายนัก
ไม่มีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องก่อนกำหนดให้เปลืองเงิน เปลืองทรัพยากรของโลกไปอีกแล้ว
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งแรก ที่หมื่นกิโลเมตร ถูกต้องที่สุดแล้วครับ
เลิกเชื่อพวกไดโนเสาร์ เต่าล้านปีได้แล้ว
ผมได้รถใหม่เอี่ยมป้ายแดงมาใช้งานประจำ ผมก็ไม่รันอินให้โง่อีกแล้ว อย่างมาก ก็จะขับไปอย่างปกติธรรมดา เร่งความเร็วขึ้นไปอย่างที่อยากเดินทาง แต่ไม่แช่ไว้นานมากนักสำหรับความเร็วสูงเกินกำหนดตามกฎหมาย คือไม่แช่ไว้ที่ความเร็วหนึ่งความเร็วใดเกินกว่า 120 เกินกว่าหนึ่งหรือสองนาที ผมเปลี่ยนความเร็วไปเรื่อยเรื่อย จนถึงความเร็วสูงสุดที่รถทำได้ ทำไปตามเรื่องตามราวอย่างนี้แหละ แค่สักห้าพันกิโลเมตร ก็จะแช่ได้ และอาจจะแช่ไว้ตามแต่อยากทำและทำได้
และใช้ไปจนถึงหมื่นกิโลเมตรจึงเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
เท่านั้นแหละครับ ไม่มีอะไรมาก-ธเนศร์