โดยก่อนเดินทาง มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดได้ให้การต้อนรับพร้อมกล่าวว่า “แบรนด์ Mercedes-AMG ถือเป็นแบรนด์รถสปอร์ตระดับ แถวหน้าที่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความสปอร์ตเร้าใจทั่วโลกเป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการเปิดตัวแบรนด์ AMGนี้อย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2560 ที่ผ่านมา
โดยเป็นผลมาจากความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้า หลังจากการแต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-AMG อย่างเป็นทางการทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ พร้อมการเปิดตัว Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศเป็นครั้งแรกของเมืองไทยเมื่อตอนต้นปี
ในการเดินทางครั้งนี้คันที่ดิฉันขับก็คือ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ซึ่ง ถือเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล 43 ที่สามารถสัมผัสได้ถึงความโดดเด่นของแบรนด์ Mercedes-AMG ได้ในการขับขี่ และเป็นรุ่นที่ประกอบขึ้นในประเทศไทย เป็นรถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System, ระบบปรับ โคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS – Active Light System), ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light)
กระจังหน้า diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ AMG
อีกทั้งจุดเด่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ อย่าง ฝากระโปรงหน้าแบบยาว ตัวถังที่กว้างขึ้น
และประตูแบบไร้ขอบ
กรอบกระจกมองข้างสีดำแบบลอยตัวจากตัวถัง ขอบตกแต่งสีดำเงาบริเวณด้านข้างตัวรถและกรอบหน้าต่าง
เส้นสายด้านข้างตัวรถที่ยาวลงไปถึงซุ้มล้อหลัง
พร้อมปลายท่อไอเสียเสริมโครเมี่ยม 2 ท่อพร้อมตัวแบ่งตรงกลางที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
หลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง),
ล้ออัลลอยดีไซนสปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ยางรถยนต์แบบ Run-flat
พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัดที่ปรับการทำงานตามระดับความเร็ว
ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester
ตกแต่งภายในด้วยลาย AMG Carbon-fibre และอะลูมิเนียม
ช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL แบบสปอร์ตเป็นระบบมาตรฐาน
โดยผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งค่าระบบรองรับแรงสะเทือนได้ 3 รูปแบบ คือ Comfort, Sport และ Sport Plus
รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่มีให้เลือก 5 โหมด คือ Eco, Comfort, Sport, Sport Plus และ Individual โดยโหมดการขับขี่แบบ Sport Plus จะสามารถเร้าอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้ถึงขีดสุด
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รถคันนี้เครื่องยนต์ขนาด 2,996 ซีซี เบนซิน V 6 เทอร์โบคู่พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 367 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 520 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,200 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ 4.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกียร์อัตโนมัติแบบ 9 จังหวะ
เมื่อได้เวลาก็ขึ้นรถขับกันเลย รถเป็นแบบ 2 ประตู ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวตามที่ได้พูดไปในตอนต้นเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน
เมื่อก้าวชึ้นรถก็จะมีระบบป้อนเข็มขัดแบบอัตโนมัติยื่นออกมาให้เราคาดเข็มขัดได้ง่ายขึ้น ที่นั่งปรับไฟฟ้าสูงต่ำหน้าหลังได้ตามความพอใจ หรือจะบันทึกความจำตำแหน่งที่นั่งของคนขับก็ได้
ระบบสตาร์ทแบบ Push Start พวงมาลัยกระชับมือ
แป้นเบรกและคันเร่งโครเมี่ยมเต็มเท้าดีสำหรับดิฉันนะคะ
เมื่อขึ้นขับรถดิฉันเลือกระบบรองรับกันสะเทือนและโหมดการขับขี่แบบ Comfort ก็นิ่มนวลดีแต่ก็ยังให้ความรู้สึกแบบรถสปอร์ตอยู่นั่นเอง
ส่วนการเร่งแซงหายห่วงเลยเหยียบปุ๊บหลังติดเบาะเลย ก็ตั้ง 367 แรงม้า แรงบิดก็ 520 นิวตันเมตรเลยนะคะ แรงมาตั้งแต่แรกเลยละคะ ทันใจจริงๆ เป็นรถที่ขับสนุกและคล่องตัว ความปลอดภัยต่างๆให้มาพร้อมเลยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ที่นั่งด้านหลัง ท่านที่ชอบรถแบบ 2 ประตูคิดว่าคงไม่ได้คำนึงถึงที่นั่งด้านหลังมากนักนะ(ผู้เขียนคิดเอง)
ด้านหลังก็มีแอร์นะคะ อยู่ตรงคอนโซลกลาง เบาะหลังตรงที่ท้าวแขนตรงกลางมีที่วางแก้ว
ส่วนการที่จะขึ้นด้านหลังก็สะดวกเพราะแค่ใช้มือเลื่อนที่นั่งด้านหน้านิดเดียวที่นั่งก็จะเลื่อนด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติเลย ก้าวขึ้นลงไม่ยาก
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ราคา 4,140,000 บาท ราคาลดลงเพราะประกอบในประเทศ
ขับรถแรงคนขับก็ต้องควบคุมรถให้อยู่นะคะ เบรกเอาอยู่ค่ะ คนก็ต้องเอารถให้อยู่นะคะเพราะหลังติดเบาะจริงจริง
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ