หลังจากเปิดตัวไม่นานก็ได้เดินทางไปลองกันซะทีกับ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ใหม่นับเป็นรุ่นที่ 12 ของนิสสัน และกว่า 80 ปีที่ได้ผลิตรถกระบะออกมา ซึ่งรุ่นใหม่ก็มาพร้อมมาตรฐานใหม่ของความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีใหม่ๆที่ใส่เข้ามา ทำให้ทางนิสสันมั่นใจว่า เอ็นพี 300 นาวาราใหม่ จะสามารถครองใจทั้งลูกค้าทั่วไปที่มองหารถกระบะได้เป็นอย่างดี
การทดลองขับในครั้งได้บินไปยังจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากลงเครื่องก็มุ่งหน้าสู่ โรงแรม Four Season Resort ที่อำเภอ แม่ริม เพื่อเข้าฟังบรรยายรวมถึงเส้นทางที่จะใช้ทดสอบ
โดยการทดสอบในครั้งนี้นั้นผู้ที่กำหนดเส้นทางนั้นคือทีมงานนิสสันจากต่างประเทศเพราะครั้งนี้เป็น Global Test Drive ที่นักข่าวจากต่างประเทศจะมากันที่เมืองไทยอีกด้วย
การทดสอบนั้นแบ่งออกเป็น 2 ช่วงซึ่งมีทั้งแบบ On Road และ Off Road ทางทีมงานนั้นให้ขับกันแบบ Free Run ซึ่งการขับแบบนี้นั้นจะขับแบบอิสระโดยไม่ขับแบบเป็นขบวน และ ไม่มีรถนำกับรถปิดท้ายโดยทีมงานนิสสันนั้นจะกำหนดจุดหมายไว้ GPS ที่ติดมากับรถ เรามีหน้าที่แค่วิ่งไปตามทางที่กำหนดมาให้เท่านั้นถือว่าดีไปอีกแบบ
ช่วงเช้ากับทาง Off Road ได้รุ่นแคป ขับ 4 เกีบร์ธรรมดา หรือชื่อรุ่นทางการคือ KingCab 4WD V 6MT เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร DOHC แบบ 4 สูบแถวเรียงใหม่นี้ ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ ช่วงออกตัวการตอบสนองทำได้ดี การเหยียบ คลัทช์เข้าเกียร์นั้นเบากำลังดีระยะฟรีไม่มาก เข้าได้อย่างสบายๆไม่เหนื่อยแรง เส้นทางที่ใช้ออกจากโรงแรมวิ่งไปทางแม่แตง ผ่านปางช้าง โดยก่อนเข้าแม่แตงนั้นยังเป็นทางปกติอยู่ก็มีโอกาสได้ลองรถบ้าง อัตราเร่งนั้นมาแบบเรื่อยๆไม่ถึงกับดุดันมาก รอบเครื่องอาจจะสูงไปหน่อยที่ความเร็ว 120 รอบเครื่องอยู่ที่ 2,500 ถือว่าสูงไปหน่อย ช่วงล่วงพอเจอช่วงถนนที่เป็นคลื่นมีอาการเด้งอยู่ แต่หากเทียบกับรุ่นก่อนถือว่านิ่มขึ้น
พวงมาลัยน้ำหนักเบาแต่คอนโทรลง่าย ให้อารมณ์แบบรถ SUV พวงมาลัยเป็นแบบแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฮดรอลิก
เริ่มเจอทางอ็อฟโรดก็เปลี่ยนมาเป็นขับ 4H โดยหมุนปุ่มที่อยู่แถวเกียร์ ระบบก็เปลี่ยนให้อัตโนมัติพร้อมมีไฟโชว์ที่หน้าปัทม์ว่ากำลังขับ 4 อยู่ ทางที่วิ่งผ่านนั้นแม้จะเป็นโคลนสลับกับทางขรุขระบวกกับทางแคบด้วยแล้วแต่ไม่ใช่อุปสรรคของ NP 300 บางช่วงก็มีก้อนหินขวางบ้างรถก็ไต่ผ่านได้โดยที่หินไม่ครูดท้องรถเลยหลังจากนั้นก็ถึงจุดพักรถแวะดื่มกาแฟก่อนเปลี่ยนคนขับ
ช่วงนี้เป็นช่วงของการขึ้นเขาบวกกับโค้งแบบต่อเนื่องแบบเขาพับผ้า การขับนั้นต้องใช้ความระมัดระวังยิ่งขึ้นเพราะสภาพถนนกับฝนที่ตกลงมานั้นทำให้ค่อนข้างลื่นเรายังคงใช้ระบบขับเคื่ลอน 4H อยู่เช่นเดิมรถสามารถปีนป่ายและไต่ไปตามทางได้อย่างไม่ยากเย็น การตอบสนองของเครื่องและเกียร์นั้นมาอย่างต่อเนื่องแต่มีบางช่วงอาจจะต้องรอรอบบ้างส่วนนึงมาจากทอร์คของเครื่องจะมาที่ 2,000 รอบ
ก่อนพักเที่ยงทางทีมงานได้จัดสนามทดสอบ ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) โดยทีมงานจะขับให้ดูก่อนหนึ่งรอบก่อนที่เราได้ลองกัน
ทีมงานได้ทำเนินเอียงชันประมาณ 55 องศา โดยให้ขับขึ้นไปแล้วเบรกก่อนที่จะถึงยอดแล้วปล่อยเบรกเพื่อทดลองระบบ HAS ซึ่งรถจะค้างอยู่ประมาณ 3 วินาทีโดยจะไม่ไหลลงไปซึ่งเหมาะกับบ้านเราที่การจราจรติดขัดแล้วค้างอยู่บนสะพานหรือลานจอดรถ ช่วยในเรื่องความปลอดภัยได้ หลังจากนั้นเมื่อยอดเนินชันแล้วให้เราหยุดรถก่อนที่จะกดปุ่มเพื่อเปิดระบบ HDC แล้วปล่อยรถลงมาโดยไม่ต้องแตะเบรก ระบบจะคอยควบคุมความเร็วให้เราเองแบบอัตโนมัติ
หลังจากผ่านเนินชันจะเป็นเนินสลับที่จะทำให้รถลอยขึ้นเหลือแค่ 3 ล้อที่แตะพื้นเราแค่เติมคันเร่งเข้านิดหน่อยก็จะทำให้รถผ่านไปได้จนมาถึงเนินเอียงให้ขับขึ้นไปเพื่อดูว่าบาลานซ์น้ำหนักของตัวรถมีถึงเนินเอียงรถจะเอียงเหมือนกับโดนแขวนไว้ก่อนที่จะเติมคันเร่งให้รถกลับเข้าสู่สมดุล ลองดูภาพแล้วกันอธิบายไม่ถูกเหมือนกันครับฮ่าๆๆๆ
หลังจากผ่านสนามจำลองก็มุงหน้าเข้าสู่โรงแรมพักกินข้าวเที่ยงกันก่อนที่ในช่วงบ่ายจะเปลี่ยนรุ่นและเส้นทางแบบ on road
ช่วงบ่ายนั้นได้รถแบบ 4 ประตูขับ 4 เกียร์ออโต DOUBLE CAB 4WD 7AT ออกเดินทางพร้อมสายฝนในช่วงบ่าย เครื่องยนต์ยังเป็นแบบเดิมกับรุ่นแค็ป 190 แรงม้าเช่นเคย อัตราเร่งแทบจะไม่แตกต่างกับเกียร์ธรรมดา รวมถึงพวงมาลัย จะต่างกันที่ช่วงล่างนั้นนิ่มกว่าเด้งน้อยกว่า ส่วนนึงน่าจะเซ็ตให้นิ่มกว่าเพราะการบรรทุกที่น้อยกว่าส่วนตัวแค็ปต้องการน้ำบรรทุกมากกว่าอยู่แล้ว การยึดเกาะและวิ่งฝ่าสายฝนทำได้อย่างไม่มีปัญหาเกียร์ออโต้แบบ 7 สปีดเปลี่ยนได้นิ่มนวลพร้อมโหมด +,- ขับไปเรื่อยๆสบายๆก่อนจะถึงจุดพักแล้วเปลี่ยนคนขับเป็นอันหมดหน้าที่การขับในครั้งนี้
การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยว บึกบึน ดูแข็งแกร่ง ทีมออกแบบของนิสสัน เน้นการออกแบบเอ็นพี 300 นาวารา ใหม่ ให้มีความสปอร์ตและดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของความเป็นนิสสันอยู่ รูปลักษณ์ด้านข้างของตัวรถ ดูสวยงามโดดเด่น และมีเอกลักษณ์ ฃึ่งการออกแบบให้เส้นสายด้านข้างตัวรถอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกับรถสปอร์ต ประกอบกับเสากลางประตูรถที่เป็นสีดำ บานประตูได้รับการออกแบบให้มีความโค้งมน พร้อมเส้นสายที่ทรงพลังสอดรับกับซุ้มล้อขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกัน กระจังหน้ารูปตัว V อันเป็นเอกลักษณ์ของนิสสันแถมด้วย ด้วยรูปทรงของไฟส่องสว่างตอนกลางวันแบบ LED ด้านหน้าที่มีลักษณะคล้ายบูมเมอแรง นอกจากนี้ คิ้วโครเมียมข้างตัวรถ และกระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว
ส่วนด้านการออกแบบภายในของเอ็นพี 300 นาวารา ใหม่ ทีมออกแบบของนิสสันได้ปรับโฉมพัฒนาใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคอนโซลหน้าใหม่ เป็นแนวรถเอสยูวี ระดับหรูของนิสสัน แผงคอนโซลกลางขนาดใหญ่ ติดตั้งด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ระบบปรับอากาศแบบแยกฝั่งซ้ายขวา พวงมาลัยมาพร้อมปุ่มควบคุมการสั่งงานต่างๆ ในส่วนของหน้าจอมาตรวัดมาพร้อมจอแสดงข้อมูลความละเอียดสูง ข้อมูลการขับขี่ การเตือนระยะบำรุงรักษา และยังสามารถแสดงอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันได้อีกด้วย
ทริปการทดสอบสั้นๆกับระยะทางขับคันละ 100 กิโลเมตรก็จบลงด้วยประการนี้ หากใครสนใจก็แวะไปเยี่ยมเยียนที่โชว์รูมใกล้บ้านเลยแล้วกัน
##############################################################
เรื่อง premsak@caronline.net
ภาพ nissan
นายศุภกร รัตนวร…