Review: Test Drive ทดสอบ ทดลองขับ Honda Civic Hybrid คอลัมน์ผู้หญิงผู้หญิงขับรถ โดย :ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา


Review: Test Drive ทดสอบ ทดลองขับ Honda Civic Hybrid คอลัมน์ผู้หญิงผู้หญิงขับรถ

เมื่อเร็วๆนี้ได้มีโอกาสไปทดลองขับ Honda Civic Hybrid เครื่องยนต์ 1,500 ซีซี.

โดยนัดเจอกันช่วงเช้าที่ศูนย์อบรมฮอนด้าที่บางชัน ปลายทางที่ดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม

Honda Civic Hybrid ตัวนี้เครื่องยนต์ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ ( SOHC ) i-VTEC ขนาด 1,500 ซีซี. เครื่องยนต์ต่างจากตัวซีวิค ตัวธรรมดาที่เป็นเครื่องยนต์ 1,800 ซีซี.

ซีวิค ไฮบริดเป็นเครื่องยนต์ระบบไฮบริด IMA ( Integrated Motor Assist )ที่มีระบบการทำงานแบบคู่ขนานคือการทำงานร่วมกันทำงานของเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 8 วาล์ว i-VTEC 1.5 ลิตร SOHC และมอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริดแบบ IMA เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 132 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที
มอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตัน-เมตร ที่ 500-1,546 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 23 แรงม้าที่ 1,546-3,000 รอบต่อนาที


โดยเครื่องยนต์จะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนและเสริมแรงด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งแซง

เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำคงที่ เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน จะเข้าสู่ EV Mode โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งในตอนนี้จะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา

ช่วงลดความเร็วหรือเบรก เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน ระบบจะนำพลังงานที่สูญเสียไปในขณะเบรกมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ส่งกลับคืนสู่แบตเตอรี่ไฮบริด เพื่อเก็บเป็นพลังงานไว้ใช้ต่อไป


ส่วนเรื่องรูปร่างของซีวิคไฮบริดใหม่ ที่เปลี่ยนไปจากซีวิคธรรมดาก็คือ กระจังหน้าเปลี่ยนใหม่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมกรอบสีฟ้า ไฟท้ายแอลอีดีพร้อมเลนส์สีเคลียร์บลู สปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ

จุดเด่นของตัวซีวิคไฮบริดก็คือ ใช้แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน และยังเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกที่จำหน่ายในประเทศไทยที่ใช้แบตเตอรี่ชนิดนี้


เมื่อได้ข้อมูลของรถแล้วก็กลับมาสู่การใช้งานจริงกันเลยนะคะ

ฟังรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ กันเรียบร้อยแล้วที่ศูนย์ฝึกอบรมฮอนด้าบางชัน ก็เตรียมตัวเดินทางไปสู่ดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม


ครั้งนี้รถฮอนด้าซิวิคไฮบริดที่จะให้ขับมีจำนวน 5 คัน คันของดิฉันนั่งไปด้วยกัน 3 คน มีผู้หญิง สองคน ชายหนึ่งคน คือคุณต้น หรือคุณจีระศักดิ์ สุวรรณพืช นักจัดรายการวิทยุ และอีกหนึ่งสาวคือคุณแพรจากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ


คนขับคนแรกคือคุณต้น โดยมีดิฉันนั่งด้านหน้า ส่วนคุณแพรนั่งเบาะหลัง

เริ่มออกเดินทางจากศูนย์ฮอนด้าบางชัน ไปทางสายมอเตอร์เวย์ตะวันออกไปเชื่อมกับถนนพระราม 2 การเดินทางวันนั้นรถค่อนข้างติดเนื่องจากฝนตก และถนนลื่น เพราะฝนเพิ่งตกใหม่ๆ หลังจากที่ไม่ได้ตกมานาน ทำให้ได้รู้ระบบการทำงานของรถคันนี้ เพราะว่าในตอนที่รถจอดนิ่งๆไม่ขยับ โดยที่เท้าเหยียบเบรกไว้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดทำงานอัตโนมัติเข้าสู่โหมด Idling Stop แต่แอร์ยังทำงานตามปกติทำให้ไม่ร้อนและไม่อึดอัด แต่เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัวโดยยกเท้าออกจากเบรก จะรู้สึกถึงอาการกระตุกเล็กน้อย ซึ่งอันนี้คนนั่งก็รู้สึกได้ค่ะ


คราวนี้นั่งมองสำรวจตอนคุณต้นขับ เมื่อเริ่มออกตัวถ้ามองไปที่หน้าปัดเพื่อดูการทำงานของระบบไฮบริดนี้ก็จะเห็นว่าช่วงแรกของการออกตัว เครื่องยนต์จะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อน และเสริมแรงด้วยพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้มีกำลังในการออกตัว

และสังเกตดูว่าในช่วงความเร็วต่ำในบางช่วงสักประมาณ ความเร็ว 20 – 40กม/ชม. ความเร็วคงที่ จะเห็นมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานอย่างเดียวแต่พอขยับเท้าจากคันเร่งแล้วเหยียบเบรก ไฟชาร์ทก็จะกลับเข้าสู่แบตเตอรี่

แต่เมื่อไหร่ที่เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วตอนนี้ก็จะสองแรงแข็งขันแล้ว เพราะมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์จะช่วยทำงานกันทั้งคู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งแซง

ช่วงที่คุณต้นขับนั้นรถติดมากๆทำความเร็วได้เป็นช่วงๆ จนมาออกสุดถนนพระราม 2 เพื่อเปลี่ยนคนขับที่ปั๊ม ปตท.ที่ถนนพระราม 2 ซึ่งผลดีของการใช้รถแบบไฮบริดในสภาพการเดินทางที่รถติดมากๆ ก็คือประหยัดน้ำมัน เพราะว่าในตอนที่รถจอดนิ่งๆไม่ขยับ โดยที่เท้าเหยียบเบรกไว้เครื่องยนต์เครื่องยนต์จะหยุดการทำงาน เหมาะมากสำหรับใช้ในเมือง

ช่วงที่คุณต้นขับรถค่อนข้างติด กินน้ำมันอยู่ที่ 18.9 กม/ลิตร


มือขับคนที่ 2 คือคุณแพร เข้าสู่ช่วงของผู้หญิงขับรถแล้วค่ะ คุณแพรขับรถได้นิ่มนวลมากเลยค่ะ ช่วงที่คุณแพรขับทำความเร็วได้ค่อนข้างสูงเพราะถนนรถไม่ติดมากนัก ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 120 กม/ชม เมื่อวิ่งมาถึงที่ดอนหอยหลอด ร้านอาหารคุณเป๋า

การกินน้ำมันอยู่ที่ 17.1 กม/ลิตร

รับประทานอาหารเสร็จอิ่มท้องแล้ว ก็ถึงเวลาที่ดิฉันต้องเป็นคนขับบ้างละคะ ขึ้นรถปรับที่นั่ง ที่ใช้มือค่ะ แต่เก้าอี้สามารถใช้มือปรับสูงต่ำได้ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าและพับได้ มีไฟเลี้ยวในตัวด้วย Civic Hybrid คันที่ขับ เป็นตัว Hybrid Navi เบาะจะเป็นหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์ ถ้าเป็นตัวธรรมดา เบาะจะเป็นเบาะผ้า

มีกล้องส่องภาพด้านหลังเวลาถอยด้วย

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น มีสวิทช์ควบคุมระบบ I-MID (Inteligent Multi-Information Display )จอด้านหน้าแสดงข้อมูล โดยรถรุ่นนี้จะมีสองจอ เครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ มี ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง

แอร์แบบอัตโนมัติ ระบบเครื่องเสียง วิทยุ MP 3 แบบ 1 แผ่น แต่ตัว Navi จะมีเครื่องเล่น DVD

มีช่องเชื่อมต่อ USB และช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
ส่วนเรื่องของความปลอดภัยก็มีถุงลมนิรภัยคู่หน้าด้วย และถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า คนนั่งหน้าค่อนข้างปลอดภัยนะ

มาสำรวจส่วนนี้ในช่วงที่ขับเอง เพราะเมื่อเป็นคนนั่งก็มัวแต่คุยกับคนขับ โดยไม่ได้ดูในรายละเอียดอย่างอื่นมากนัก


คาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว ทุกอย่างเข้าที่ก็เริ่มออกรถกันเลย ออกจากร้านอาหารก็ผ่านตลาดที่ดอนหอยหลอด ต้องวิ่งกันเป็นขบวน เพราะรถค่อนข้างหนาแน่น และถนนแคบ

ทัศนวิสัยการมองเห็นด้านหน้าด้านหลังด้านข้างชัดเจนดี ระบบเบรกอาจจะยังไม่คุ้นเคย เพราะรู้สึกเหมือนมีความหนืดคือทื่อๆและแรงต้านเล็กน้อยเวลากดลงไป แต่อยู่นะคะไม่มีปัญหา เป็นเพราะการเอาพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ส่งกลับมาใช้ที่เบรกนั่นเอง

เมื่อขับไปสักพักก็จะคุ้นเคยไปเอง ระบบเบรกหน้าจะเป็นดิสก์เบรก ส่วนหลังจะเป็นดรัมเบรก

เมื่อถึงช่วงที่แซงได้ก็กดคันเร่งไปเต็มที่กำลังก็มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้อืดอาดให้กังวลว่าเป็นรถไฮบริด เพราะเวลาแซงกำลังจะมาจากทุกระบบทั้งจากเครื่องยนต์และจากมอเตอร์ไฟฟ้า ส่วนเกียร์ก็เป็นแบบ CVT ช่วยให้อัตราเร่งเป็นไปอย่างนิ่มนวลขึ้น


เมื่อออกจากตลาดมาถึงถนนใหญ่ที่จะเข้ากรุงเทพฯ ถนนค่อนข้างโล่งสามารถทำความเร็วได้ ก็ถือโอกาสวิ่งฉิวเลย แต่ก็ใช้ความเร็วไม่เกิน 130 เพราะเกรงใจเพื่อนร่วมทาง เมื่อถึงทางโค้งก็กดเกาะโค้งไปเลย การเกาะถนนก็ดี พวงมาลัยให้ความมั่นใจไม่เบาจนเกินไป

หลังจากออกจากโค้งวิ่งทางธรรมดา คุณต้นจีระศักดิ์ สุวรรณพืช พูดกับดิฉันว่า “ดิฉันขับรถเหมือนผู้ชายขับรถ ตกลงดีหรือไม่ดีนะนี่”

และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดิฉันทำได้ ขับแบบที่ใช้งานตามปกติรถไม่ติด อยู่ที่ 16.7 กม/ลิตร


และเมื่อเปลี่ยนตัวคนขับอีกครั้ง ก็ให้คุณต้นขับ ส่วนดิฉันถือโอกาสไปนั่งด้านหลัง ที่นั่งหลังกว้างนั่งสบายทีเดียวเพราะนั่งคนเดียว แต่ดิฉันคิดว่าเบาะหลังถ้าจะนั่ง 3 คน คนตัวไม่โตนักก็คงจะไม่อึดอัด แต่ถ้านั่งสองคนกำลังดีค่ะ มีที่ท้าวแขนพร้อมวางแก้วน้ำได้ 2 ที่

ระบบช่วงล่างดิฉันรู้สึกแข็งไปเล็กน้อย รู้สึกได้เมื่อนั่งด้านหลัง แต่ได้ถามไปทางวิศวกรของฮอนด้า แล้วทางวิศวกรบอกว่ารุ่นนี้นิ่มนวลกว่าซีวิคตัวธรรมดา ระบบกันสะเทือนของรถคันนี้หน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทอิสระพร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นแบบมัลติลิงค์ อิสระพร้อมเหล็กกันโคลง


ขนาดล้อ 15 x 6j ขนาดยาง 195/65 R15

ความจุถังน้ำมันขนาด 50 ลิตร น้ำมันใช้ เบนซิน 91 แก๊สโซฮอล์ และ E20

ฮอนด้ารับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี และขยายเวลารับประกันแบตเตอรี่เพิ่มอีก 5 ปี รวมเป็น 10 ปี

ราคาซีวิคไฮบริดมี 2 รุ่น รุ่น Hybrid ราคา 1,035.000 บาท และรุ่น Hybrid Navi ราคา 1,095,000 บาท

บางท่านต้องการจะทราบข้อมูลของซีวิคตัวธรรมดาเครื่องยนต์ 1,800 ซีซี ก็หาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งด้านล่างนี้ค่ะ

ซีวิคธรรมดาเครื่องยนต์รุ่น 1,800 ซีซี เริ่มต้นที่ 773,000 บาท ถึง 964,000 บาท

http://www.caronline.net/ArticleDetail.aspx?ArticleID=1154

ท่านที่สนใจซีวิคไฮบริด รถเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี ก็ลองไปทดลองขับกันก่อนได้เลยนะคะ

คอลัมน์ผู้หญิงขับรถ

ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา

Facebook Comments