หากพูดถึงชื่อรุ่นของรถเก๋งในบ้านเราคงไม่มีใครไม่รู้จัก โคโรลล่า โดยโตโยต้าได้นำเข้าสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรก ด้วยเจนเนอเรชั่นที่ 1 ในปี พ.ศ. 2509 และเจนเนอเรชั่นที่ 2 ในปี พ.ศ.2513 จากโรงงานผลิตของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาเจนเนอเรชั่นที่ 3 ในปี พ.ศ.2517 จึงได้เริ่มสายการผลิตโคโรลล่าเป็นครั้งแรกที่โรงงานประกอบรถยนต์สำโรง จ.สมุทรปราการ จนมาถึงปัจจุบันมีใครจะรู้บ้างว่า 48 ปีที่ผ่านมานั้นมียอดขายสะสมไปมากกว่า 670,000 คัน
ส่วนรุ่นปัจจุบันนั้นเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 11 ซึ่งมีการออกแบบใหม่หมดรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวทีเดียวไล่มาตั้งแต่กระจังหน้าโครเมี่ยมและกันชนหน้าที่มาพร้อมไฟตัดหมอก ไฟหน้า LED Projector แถมด้วยไฟ LED DaytimeRunning Lights
ส่วนด้านหลัง ไฟท้าย LED แบบ Surface illumination ซึ่งจะเป็นครีบช่วยเรียงอากาศ มองเห็นชัดเจน เพื่อช่วยเรื่องหลักอากาศพลศาสตร์ ฝากระโปรงท้ายและกันชนขนาดใหญ่
หลังจากดูหน้าตาพอสังเขปเราก็เริ่มออกเดินทางกัน โดยคราวนี้เราเดินทางจากโรงงานโตโยต้าที่สำโรงมุ่งหน้าสู่ไร่องุ่น ซิลเวอร์เลค ที่พัทยา
โดยผมนั้นรับหน้าที่ขับขาไปจากโรงงานสำโรง มุ่งหน้า สู่เส้นวงแหวนอุตสาหกรรมช่วงออกจากโรงงานเพื่อที่จะกลับรถเข้าเส้นวงแหวนนั้นรถเยอะมากการจราจรจอแจและต้องใช้ความระมัดระวังกว่าจะกลับรถได้ใช้เวลานานพออยู่ จากวงแหวนมุ่งหน้าไปทางมอเตอร์เวย์ช่วงแรกก็ทำความคุ้นเคยกับรถซะหน่อย
เมื่อเลยด่านลาดกระบังมาก็เป็นช่วงที่ถนนเริ่มว่างมากขึ้นเลยถือโอกาสลองแบบเต็มๆ อัลติสใหม่เครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FBE DOHC Dual VVT-i 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1,800 ซีซีได้รับการปรับปรุงให้เป็น 141 แรงม้า และแรงบิด 177นิวตันเมตรที่4000รอบต่อนาที
ส่วนระบบส่งกำลังนั้นระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i 7 สปีด ลูกใหม่รหัส K313 ขณะที่ตัวเก่าในรุ่นอั้ม พัชราภา เป็น K311 มา พร้อมโหมด +/- ซึ่งได้รับการปรับอัตราทดเกียร์กว้างขึ้นเป็น 2.480-0.396
การที่เครื่องยนต์นั้นมีการปรับจูนใหม่บวกกับได้เกียร์ CVT ลูกใหม่นั้นทำให้การขับขี่นั้นสนุกมากขึ้นโดยเฉพาะเกียร์เมื่อมีการ kickdown เร่งการตอบสนองนั้นแทบจะเหมือนกับเกียร์อัตโนมัติแบบที่เรานั้นคุ้นเคยไม่มีอาการที่รอบเครื่องนั้นไปรอก่อนแล้วความเร็วค่อยตามไปแบบ CVT ในรุ่นก่อนเรียกว่าดีกว่าเดิมเยอะ เครื่องยนต์นั้นไม่ต้องห่วงเรียกว่าพละกำลังเหลือเฝือ
ช่วงที่ใช้ความเร็วระหว่าง 100-120 นั้นรอบเครื่องก็ไม่สูงมากแสดงว่าประหยัดน้ำมันได้ค่อนข้างดีการควบคุมบังคับเลี้ยวนั้นแม่นยำ พวงมาลัยแบบไฟฟ้า EPS ในช่วงความเร็วต่ำน้ำหนักกำลังดีแต่เมื่อความเร็วสูงอาจจะเบาไปนิดนึง
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง
ยางขนาด 205/55 R16 มีการซับแรงค่อนข้างดีซึ่งเน้นไปในทางนิ่มนวลมากกว่า ซึ่งหากใช้ความเร็วสูงในช่วงนั้นมีอาการวูบวาบให้เห็นบ้าง แต่น่าเสียดายที่การขับในครั้งนี้ไม่มีทางโค้งให้ลองซักเท่าไรหากมีทางโค้งจะจับอาการรถได้ดีกว่านี้อีก
ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อมาพร้อมกับเพื่อนๆ ชุดใหญ่ทั้ง ABS,BD,BA แถม VSC และ TRC มาอีกด้วยทำให้มั่นใจได้เต็มที่ในเรื่องของระบบเบรก
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยก็ย้ายฝั่งมาเป็นคนนั่งบ้างก็เริ่มสำรวจอุปกรณ์ภายใน ห้องโดยสารเน้นสีดำเบาะหุ้มหนังพร้อมปรับด้วยระบบไฟฟ้าในคู่หน้า เครื่องเสียงเป็นแบบทัชสกรีนขนาด6.1นิ้วพร้อมกล้องมองหลังรองรับระบบ SMART G-BOOK มีช่องเสียบ USB AUX เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เรียกว่าใส่มาแบบจัดเต็ม
หากใครสนใจก็เชิญแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนกันที่โชว์รูมโตโยต้าเลยนะครับ
#############################################
premsak@caronline.net
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…