ก่อนจะถึงปลายปีพี่ใหญ่อย่างโตโยต้า ก็ได้ถือโอกาสปรับโฉมรุ่น วีโก้ กันอีกสักทีหลังจากที่ได้ปรับเปลี่ยนมาได้พอสมควร เพราะความเป็นวีโก้ยังมีอะไรให้เอามาเล่นได้อีกเยอะ แม้คู่แข่งจะมีการเปลี่ยนหน้าใหม่หรือปรับโฉมใหม่หลายยี่ห้อ แต่โตโยต้าเองเตรียมรับมือสู้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมรุ่นย่อยให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า จนทำให้มีรุ่นย่อยมากที่สุดในตอนนี้
ล่าสุดก็ได้ไปทดสอบกันกับทริปที่จัดให้ขับเมื่อไม่นานมานี้ โดยโตโยต้าจัดพรีรันเนอร์ 2.5E ABS A/T ตัวสมาร์ทแค็บมาให้ได้ทดสอบบนเส้นทางเชียงใหม่-ดอยอินทนนท์ ระยะทางรวมประมาณ 175 กิโลเมตร พร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายลงตลอดทางทั้งหนักทั้งเบาสลับกันไปเพิ่มความท้าทายเป็นอย่างดี นอกจากการทดลองสมรรถนะ การใช้อุปกรณ์ต่างๆ การขับทดสอบทริปนี้ยังให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอีกด้วย
เรามาดูกันดีกว่าว่ารถนั้นมีรุ่นอะไรบ้างที่ได้เสริมเข้ามา เริ่มจากปิกอัพขับเคลื่อนสองล้อยกสูง “พรีรันเนอร์” วางเครื่องยนต์ D-4D ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และระบบช่วงล่าง DTS (DIAMOND TECH SUSPENSION) ติดตั้งถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้าพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับในทุกรุ่น และเพิ่มรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นสมาร์ท แค็บ พรีรันเนอร์ 2.5G A/T (Navi) และรุ่นสมาร์ท แค็บ พรีรันเนอร์ 2.5 E ABS A/T เป็นทางเลือกในแบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เข้ามาจากเดิมซึ่งมีแต่เกียร์ธรรมดาเท่านั้น
ภายในห้องโดยสารนั้น เมื่อเข้ามานั่งยังให้อารมณ์เดิมๆแต่ดูหรูหราด้วยส่วนบนและล่างคอนโซล มีให้เลือกแบบสีดำด้านบน สีเบจด้านล่าง และสีดำทั้งหมด รองรับระบบสมาร์ท จี-บุ๊กเชื่อมต่อแบบบลูทูธ ซึ่งมีในรุ่นสมาร์ทแค็บและดับเบิลแค็บทุกเกรดและกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอดในรุ่นท็อปสุด นอกจากนั้นยังมีพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันแบบ 4 ก้าน ที่สามารถควบคุมเครื่องเสียง และควบคุมการโทรเข้า-ออกของโทรศัพท์ พร้อมความสามารถในการโทรออกด้วยเสียงอีกด้วย แถมยังมีชุดลำโพง 6 ชิ้น ในรุ่นสมาร์ทแค็บและดับเบิ้ลแค็บ เกรด E และ G พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง มีในรุ่นสมาร์ทแค็บ ดับเบิ้ลแค็บ พรีรันเนอร์และขับเคลื่อนสี่ล้อ เกรด E และ G ส่วนระบบปรับอากาศอัตโนมัติติดตั้งในรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ 3.0 G เกียร์อัตโนมัติ เรียกว่าจัดมาเต็ม
ในส่วนของพลังเครื่องยนต์ใหม่รองรับมาตรฐานมลพิษไอเสียระดับ ยูโร 4 ทุกรุ่น พร้อมเพิ่มแรงม้าในเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร รุ่นเกียร์ธรรมดา ใช้เครื่องยนต์รหัส 1KD-FTV (VNT) โดยมีความจุกระบอกสูบ 2,982 ซีซี และขยับแรงม้าจาก 168 ตัวมาเป็น 171 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 – 3,400 รอบต่อนาที
ส่วนช่วงล่างที่โตโยต้าบอกว่าได้ปรับปรุงมาใหม่นั้นก็คือการใช้แหนบแบบเบอร์ลินอาย (Berlin Eye) จุดศูนย์กลางของหูแหนบกับแผ่นแหนบอยู่ในแนวเดียวกัน ทำให้นุ่มนวลมากขึ้นพร้อมช่วงล่าง DTS (DIAMOND TECH SUSPENSION) ที่ได้รับพัฒนามาจากรุ่นท๊อปของ โตโยต้า พราโด้ ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนขณะขับขี่ รวมถึงการเซ็ตตำแหน่ง เพื่อทำให้ตัวรถสูงขึ้นทรงตัวที่ดีกว่าเดิมเมื่อต้องขับขึ้น-ลงเขาแบบลาดชัน
ความรู้สึกจากการขับขี่นั้นถามว่าแตกต่างจากรุ่นเก่าแค่ไหนนั้นอยากจะเปรียบเทียบหรือนึกภาพถึงนักกีฬาที่มีการพัฒนาศักยภาพจนมาถึงช่วงที่พีคหรือช่วงที่ร่ายกายสมบูรณ์ เพื่อเข้าแข่งขันจนได้รับชัยชนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพละกำลังการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ได้รับการยอมรับว่าอยู่ในแถวหน้าของตลาดการยึดเกาะของช่วงล่างที่มีการปรับปรุงจนถึงตัวล่าสุดที่ทำให้ ความรู้สึกเวลาขับว่า หนึบแน่น ไม่ว่าจะทางตรง ขึ้นเข้า ลงเขา และการเข้าโค้งต่างๆไว้ใจได้จนรับรู้ถึงความเปลี่ยนไปจากการที่ได้ขับมาในรุ่นก่อน จนอยากจะพูดออกมาว่าเป็น วีโก้ รุ่นที่ดีทีสุดนับจากการเปิดตัว ช่วงการขับรถขึ้นเขาไม่ยากเท่าไรปัญหาส่วนใหญ่จะมาอยู่ในช่วงลงเขาแล่วยิ่งเป็นเขาที่ได้ชือว่าสูงสุดในแดนสยามอย่างดอยอินทนนท์ด้วยแล้วการลงเขานั้นนอกจากรถที่ดีแล้วต้องอาศัยประสบการและการขับที่ขับอย่างถูกวิธี ทั้งการใช้คันเร่ง การเบรก จังหวะไหนการเหยียบควรปล่อยต้องเรียนรู้กัน
การทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดใหม่กับเครื่องยนต์ผสานการทำงานลื่นไหลดี และเมื่อต้องขับตะลุยฝ่าสายฝนตลอดเส้นทางพร้อมความเร็วขึ้น-ลงระหว่าง 80-120 กม./ชม.ตามสภาพการจราจร โดยการออกตัวรถยังตอบสนองดีและสังเกตว่ารอบไม่สูงมากเหมือนพวก ส่วนการขับขี่ย่านความเร็วกลางนั้นเข็มวัดรอบไม่สูงมากนัก แต่ยังมีแรงออกมาแบบต่อเนื่อง ช่วงล่างนั้นที่เซ็ตมาใหม่ให้การขับขี่นุ่มนวลมากขึ้นจริงๆ จนสามารถรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไป ช่วงล่างมีความยืดหยุ่นสูงกว่าเดิมและมีความหนึบแน่นสมชื่อเมื่อขับเข้าสู่โค้งแคบๆ ซ้ายสลับขวา การถ่ายเทน้ำหนักค่อนข้างดีถึงแม้จะไม่ได้บรรทุกอะไรหนักๆนอกจากผู้โดยสารรวมคนขับแค่สองคน พวงมาลัยก็แม่นยำทำออกมาได้น่าพอใจ อัตราเร่งไต่ขณะขับขึ้นเนินชันไม่ใช่ปัญหาเหยียบส่งเป็นพุ่งทะยานไปข้างหน้า การทรงตัวที่ดีขึ้นจากการปรับช่วงล่างใหม่หมดช่วยให้สามารถควบคุมตัวรถได้ง่ายขึ้นมาพอสมควร เช่นเดียวกับช่วงขาลงที่มีความเร็วเพิ่มมากขึ้นจนต้องคอยแตะเบรกเพื่อชะลอความเร็ว ท่ามกลางหมอกและสายฝนตลอดทาง
สุดท้ายถึงภายนอกจะแทบจะไม่ได้มีปรับเปลี่ยนอะไรมากมายแต่ราคานั้นการปรับเปลี่ยนไปคือรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นสมาร์ท แค็บ พรีรันเนอร์ 2.5G A/T (Navi) ราคา 819,000 บาท และรุ่นสมาร์ท แค็บ พรีรันเนอร์ 2.5 E ABS A/T ราคา 779,000 บาท
ส่วนใครคิดว่ากระบะเกียร์ออโต้นั้นขึ้นเขาไม่ไหวหรือว่าวีโก้นั้นช่วงล่างไม่เกาะคงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วหากไม่เชื่อต้องไปลองแล้วจะรู้จริงป่ะ
#########################################
premsak@caronline.net