หลังจากการเปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านก็ได้โอกาสที่ร่วมทริปไปทดสอบกันซะทีโดยคราวนี้ใช้เส้นทางจากสำนักงานใหญ่แถว นวนคร มุ่งหน้าสู่ จันทบุรี
หากท่านผู้อ่านได้ติดตามรายการวิทยุที่ผมจัดอยู่นั้นคงอาจจะเคยได้ยินผมบ่นถึงรูปลักษณ์ของไทรทันใหม่นั้นไม่สวยเอาซะเลยและแทบจะไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ซึ่งภายนอกนั้นที่เห็นเปลี่ยนไปชัดๆคือกระจังหน้า ส่วนอื่นๆนั้นถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอะไร
แต่พอได้อยู่กับรถแล้วพินิจพิเคราะห์มากขึ้นก็ต้องบอกกับท่านผู้อ่านครับว่าตัวรถนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากเช่นกระบะหลังที่สูงขึ้นจากรุ่นเดิมและมีเส้นสายด้านข้างเพื่อช่วยในเรื่องอากาศพลศาสตร์ที่ผมสามารถสังเกตุได้ชัดขึ้น แต่โดยรวมๆแล้วอยากจะบอกว่าไม่สวยเอาซะเลยสำหรับผมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่ตอนเปิดตัวนั้นมันดูล้ำมากมาในแนวยานอวกาศเลย
การออกแบบภายนอกนั้นกระจังหน้าเป็นแบบโครเมียมสไตล์สปอร์ตมาพร้อมไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์ HID นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน หรือ Daytime Running Light
ส่วนด้านข้างเสริมการออกแบบเส้นสาย Character Line ด้านข้างตัวรถช่วยเพิ่มความสปอร์ต การออกแบบด้านหลังมีความโค้งมน ชุดไฟท้ายมาพร้อมการออกแบบสไตล์รถเก๋ง พร้อมการซีลขึ้นรูปชิ้นเดียวเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองเข้าโคมไฟ พร้อมกล้องจับภาพหลังขณะถอย ในรุ่นGLS NAVI, GLS Ltd.
ส่วนภายในห้องโดยสาร มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ นั้นกว้างขวางสะดวกสบาย การออกแบบภายในแบบทูโทนด้วยสีดำและสีเทาให้อารมณ์สปอร์ต ด้วยการผสมผสานระหว่างสีดำแบบ Piano Black กับการตกแต่งแบบ ซิลเวอร์ เดคคอเรชั่น ที่บริเวณคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ แผงสวิตช์ควบคุมหน้าต่าง และสวิตช์การปรับโหมดขับขี่
มาตรวัดแบบ Combination meter สามารถปรับแสงสว่างหน้าปัดได้ 8 ระดับ ดูง่ายชัดเจน แจ้งข้อมูลต่างๆ พร้อมจอแสดงผลข้อมูลเอนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมไปถึงการเตือนต่างๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ
วิทยุ ซีดี MP3 ดีวีดี พร้อมจอภาพแบบระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth ระบบนำทางในรถNavigator System และช่อง USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
ระบบควบคุมอุณหภูมิภายในรถแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา ในรุ่น GLS NAVI ในขณะที่รุ่น GLS มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ที่พักแขนสำหรับผู้โดยสารตอนหลังพร้อมช่องวางแก้วน้ำ และที่วางขวดน้ำขนาดใหญ่ข้างประตู
ขุมกำลังของไทรทันใหม่นั้นมาพร้อมเครื่องยนต์ 3 แบบ เริ่มด้วยเครื่องยนต์ใหม่ รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC วีจีเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 2,442 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 20% และลดมลพิษลงได้ถึง 17% มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะพร้อมสปอร์ตโหมด
เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร ดีเซล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที ในขณะที่รุ่นซิงเกิ้ลแค็บขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 วีจีเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ให้สมรรถนะสูงสุดที่ 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที
ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร มาพร้อมระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ ECI ที่ควบคุมจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอีเล็กทรอนิกส์ แรงม้าสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
ช่วงล่างรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูงได้รับการปรับปรุงช่วงล่างใหม่พร้อมการติดตั้งคานเหล็กกันกระแทกเพิ่มความแข็งแกร่ง มาพร้อมระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบปีกนก 2 ชั้น และระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนติดตั้งเหนือเสื้อเพลา พร้อมโช้คอัพไขว้ขนาดใหญ่และมีการออกแบบจุดยึดรวมทั้งปรับตั้งแหนบใหม่ แชสซีส์เหล็กกล้าขนาดใหญ่แบบชิ้นเดียวขึ้นรูปประกบ 2 ชั้นไร้รอยต่อ พร้อมเพิ่มความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วยคานเหล็กกันกระแทกด้านหน้าเพื่อลดความเสียหายและแรงปะทะจากการชนด้านหน้า พร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE Body
ระบบความปลอดภัยมาครบด้วยระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) หน้าดิสก์หลังดรัม สำหรับรุ่นดับเบิ้ลแค็บขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ มีการเสริมระบบต่างๆ เข้าไปอีกทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASTC (Active Stability & Traction Control) ซึ่งประสานการทำงานของระบบ ASC ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในสภาวะที่รถเสียสมดุลเพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง และ ATC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถลช่วยควบคุมการหมุนของล้อทั้ง 4
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) เพื่อป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรกรถบนทางชันและต้องออกตัวอีกครั้ง
ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆก็มีให้ทั้งระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ( Keyless Operation System) ช่วยให้สามารถล็อกและปลดล็อกประตู รวมทั้งสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมการติดตั้ง ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกในการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
กระจกไฟฟ้าแบบขึ้น-ลง อัตโนมัติ พร้อมระบบ Safety (ด้านคนขับ) รวมไปถึงกระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับด้วยไฟฟ้า ระบบพับเก็บและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติ เมื่อกดล็อกและปลดล็อก
บนเส้นทางเกือบๆ 300 กิโลเมตรที่ได้สัมผัสกับไทรทัน ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ในช่วงการออกตัวครั้งแรกนั้นผมก็ต้องมีการปรับตัวกันเล็กน้อยกับเจ้าเกียร์ธรรมดาหลังจากไม่ค่อยได้สัมผัส การเหยียบคลัทช์น้ำหนักกำลังดีไม่หนักและไม่เบาแต่กว่าจะปล่อยคลัทช์นั้นระยะฟรีของครัทช์นั้นสูงอยู่เหมือนกันจนผมเกือบทำรถดับเหมือนคนขับรถมือใหม่เลย เมื่อเริ่มคุ้นชินกับทั้งรถทั้งคลัทช์แล้วเริ่มเติมคันเร่งเพิ่มความเร็วเข้าไปรถก็พุ่งไปข้างหน้าแบบว่านอนสอนง่าย เข้าสู่เส้นวงแหวนมุ่งหน้าไปสู่จันทบุรีไม่รู้ว่าด้วยความนิ่งของรถกับการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารที่เงียบมากเผลอแวบเดียวเข็มความเร็วก็ชี้ไปที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและยังสามารถไปต่อได้อีกจนเกือบมิดไมล์กันเลยที่เดียว ช่วงความเร็วที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่เกียร์ 6 รอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 1900 รอบ พวงมาลัยนั้นเมื่อใช้ความเร็วสูงต้องคอยประคองดีๆมีอาการหน้าไวอยู่หน่อย
การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นทำได้ดีมากกดเป็นมาในทุกช่วงความเร็วเรียกว่าขับสนุกเลย การแซงในแต่ละครั้งไม่ต้องลุ้น ช่วงล่างเซ็ตมาในแนวหนักแน่นเฟิร์ม เรื่องการยึดเกาะถนนหายห่วงมั่นใจได้ การเข้าโค้งไม่มีปัญหาหนึบแน่น ระบบเบรกมั่นใจได้ไม่ต้องออกแรงเหยียบเยอะก็เอารถอยู่
หากจะให้เทียบเกียร์ธรรมดากับเกียร์อัตโนมัติแล้วสำหรับผมขอบอกว่าเกียร์ธรรมดานั้นขับสนุกกว่าแต่หากชอบความสะดวกสะบายแล้วก็ต้องเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งผมได้ลองเกียร์อัตโนมัติในช่วงขากลับกับรถขับสองยกสูงหรือ ไทรทัน พลัส นั้นเอง เกียร์อัตโนมัตเปลี่ยนได้นิ่มนวลดีแต่อัตราเร่งนั้นด้อยกว่าเกียร์ธรรมดาอยู่หน่อย ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองนั้นขอติดเอาไว้ก่อนมีโอกาสได้รถมาเดี่ยวๆแล้วจะบอกนะครับ
มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มี 7 สีให้เลือก สีเขียว (Earth Green) และ สีเงิน (Sterling Silver) สีขาว (Solid White) สีขาวมุก (White Pearl) สีเทาดำ (Titanium Gray) สีดำ (Pyreness Black) และสีน้ำตาล (Quartz Brown) ราคา 791,000-1,008,000 บาท
##########################################################
premsak@caronline.net
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…