Review :Test Drive : ทดลองขับ นิสสันซิลฟี่ Nissan Sylphy ผู้หญิงผู้หญิงขับรถ :โดยธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
คอลัมน์ผู้หญิงขับรถคราวนี้ก็ได้ไปทดลองขับรถยนต์นิสสัน ซิลฟี ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นประเทศที่สองที่เปิดตัวต่อจากประเทศจีน
และเมื่อวันที่ 4 กันยายน ทางนิสสันก็ได้จัดนิสสันซิลฟี่ให้สื่อมวลชนได้ทดสอบ โดยทาง CAR ON LINE ก็ได้ร่วมไปในทริปนี้ด้วย โดยเดินทางไปเชียงใหม่วันที่ 4 กลับวันที่ 5 เส้นทาง เชียงใหม่-ลำพูน-เชียงใหม่
เช้าวันที่ 4 นัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 6.30 น ออกจากบ้านที่สวนสยามเวลา 6.00 ไปถึงสนามบินประมาณ 15 นาที ถนนยังโล่งอยู่ ถ้าสายกว่านี้รถก็จะติดแล้วในช่วงของด่านทับช้าง ดีจริงที่สนามบินอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก
เมื่อถึงสนามบินนานาชาติที่เชียงใหม่ ก็มีรถบัสมารับไปที่ โชว์รูมนิสสันนอร์ทเวฟ ซึ่งเป็น Dealer รายใหญ่ของนิสสันทางภาคเหนือ ซึ่งจุดเริ่มต้นของการทดลองขับรถนิสสันซิลฟี่ก็เริ่มที่นี่
วันที่เดินทางไปเชียงใหม่กรมอุตุนิยมวิทยาบอกว่าพายุเข้าทางภาคเหนือ ก็ยังโชคดีที่เจอฝนเพียงเล็กน้อย
นิสสันซิลฟีที่ไปทดลองขับครั้งนี้เครื่องยนต์ ขนาด 1.8 V มี Navigator และไม่มีNavigator แต่คันที่ขับ เป็นรถคันที่ไม่มี Navigator
ข้อแตกต่างของรถที่มี เนวิเกเตอร์กับไม่มีเนวิเกเตอร์ก็คือตัวไม่มีเนวิเกเตอร์ หน้าจอLCD ตัว หน้าจอ LCD ขนาด 4.3 นิ้ว
ส่วนตัว 1.8 Navigator หน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว ส่วนอื่นเหมือนกันหมด
ราคา 1.8 V ไม่มี Navigator ราคา 899,000 บาท
ส่วนตัว 1.8 Navigator ราคา 931,000 บาท
อยู่ที่ท่านผู้ใช้ละว่าต้องการรุ่นไหน
นิสสันซิลฟี่วางตัวเองไว้ที่รถระดับสวยเรียบหรู ดูได้จากพรีเซ็นเตอร์ คุณชมพู่อารยา เอ ฮาร์เก็ต และคุณโป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนภูติ ใส่ชุดราตรีและใส่สูท โฆษณาชุดแรกใช้ตาคุณชมพู่กับไฟหน้าของรถในการโฆษณา ตาคุณชมพู่กับตารถคล้ายกันเลยในความแพรวพราวและโฉบเฉี่ยว ระยิบระยับ ซึ่งหมายถึงต้องการเน้นถึงความหรูหราของรถ หรือคนที่แต่งตัวหรูหราก็เลือกใช้รถคันนี้ เอ๊ะอย่างไหนกันแน่นะ
รถคันนี้มีไฟ LED ที่ติดตั้งทั้งในตำแหน่งไฟหรี่ด้านหน้า ชุดไฟท้าย ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟเลี้ยวบริเวณกระจกมองข้างและไฟอ่านแผนที่ ถึง 54 ดวง ดวงไฟที่อยู่รอบคันรถมองไปคล้ายลูกแก้ว เห็นความแพรวพราวเด่นชัดเวลาเปิดไฟ
หลายท่านถามว่าถ้าเทียบกับ Teana แล้วเป็นอย่างไรบ้าง ยังไม่เคยลองขับนิสสัน Teana ก็เลยตอบไม่ได้ค่ะ แค่ราคา ก็ต่างกันแล้วค่ะ ขนาดของเครื่องยนต์ก็ต่างกัน
เมื่อก้าวเข้าไปนั่งครั้งแรก ชอบสีสันภายในค่ะ ดูโปร่งสบายตา สีสันที่ประตูภายในรถก็ดูกลมกลืนดี
ด้านข้างประตูและคอนโซลหน้าบุนุ่มด้วย (Soft pad )
สีภายในที่ใช้สีเบาะเป็นสีเบจ เป็นเบาะหนัง ตกแต่งด้วยสีน้ำตาลที่ดูเหมือนลายไม้ทั้งที่เป็นพลาสติก ก็ดูสวยดี
พวงมาลัยหุ้มหนังปรับได้ 4 ทิศทาง เป็นพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) มีสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงและหน้าจอ MID ที่พวงมาลัย และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย ( Bluetooth)
ระบบกุญแจแบบ Intelligent Key พร้อมปุ่มเปิดท้ายระบบ Immobilizer และ Panic Alam ปุ่มเปิดท้ายในรถก็มีแต่ไปอยู่ใต้พวงมาลัย
ปุ่มสตาร์รถแบบไม่ต้องใช้กุญแจ ใช้มือกดเอา แต่กุญแจต้องอยู่ใกล้ตัว ซึ่งเดี๋ยวนี้รถหลายๆรุ่นก็เป็นแบบนี้กันแล้ว
แผงหน้าปัดเรืองแสงขนาดใหญ่พร้อมจอแสดงข้อมูล เพื่อแสดงข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน มาตรวัดระยะทาง
ชุดเล่นเครื่องเสียงแบบ Build-in ลำโพง 6 ตัว เล่นซีดีได้ 1 แผ่น และเครื่องเล่น MP 3 และช่องต่อ AUX และอุปกรณ์เชื่อมต่อ USB บริเวณช่องเก็บของตรงคอนโซลกลาง
ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ แยกปรับอุณหภูมิซ้ายขวา
ช่องเก็บของหน้ารถฝั่งคนโดยสารกว้างและลึกมาก ชดเชยในส่วนช่องเก็บของที่คอนโซลกลางที่เล็กไปหน่อยเพราะติดแอร์หลัง ใส่ IPad เข้าไปแล้วยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะ
แผงคอนโซลตรงกลางรถ ตกแต่งด้วยลายไม้ มีที่วางแก้ว มีฝาสไลด์ เปิด -ปิดได้ ถัดไปเป็นที่เก็บของซึ่งจะเล็กและแคบ เพราะมีแอร์ตัวหลังติดอยู่ ตรงคอนโซลกลาง
ภายในกว้างขวาง เบาะหลังนั่งสบายทีเดียว มีแอร์สำหรับคนนั่งเบาะหลังด้วย คนข้างหลังจะได้ไม่บ่นร้อนเมื่อคนข้างหน้าหนาวและหรี่แอร์ มีพนักเท้าแขนพร้อมช่องเก็บของมีฝาสไลด์ปิด มีที่วางแก้วน้ำ พนักพิงศีรษะปรับได้ ประตูด้านหลังทั้งสองบานมีที่วางแก้วและใส่ของ
พื้นที่เก็บของด้านหลังกว้างมากมีขนาดความจุ 510 ลิตร ท่านที่จะติดแก๊สคงไม่ต้องห่วงเรื่องที่เก็บสัมภาระแล้วละคะ เผื่อเดินทางไกลหลายคนที่เก็บของก็ยังจุได้เยอะ
การขับรถครั้งนี้ดิฉันได้ขับเป็นคันที่ 9 ซึ่งรถมีทั้งหมด 10 คันคันละ 2 คน ได้มองท้ายรถนิสสันซิลฟี่คันอื่นอยู่ตลอดเวลา เพราะเราวิ่งเป็นขบวน รู้สึกว่าท้ายดูใหญ่อาจจะเพราะการออกแบบไฟแบบสี่เหลี่ยมคางหมูที่เหมือนยื่นออกไปนอกตัวรถ ทำให้ดูใหญ่ขึ้นด้วยค่ะ
มาเรื่องเครื่องยนต์ 1.8 V ได้พัฒนาไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มช่วงชักกระบอกสูบให้กลมกลืนไปกับการทำงานของระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C – VTC (Twin Continuously- Variable Timing Control) เพิ่มระยะชักกระบอกสูบให้ยาวขึ้นทั้งฝั่งดีและไอเสีย เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แรงม้า 131 แรงม้าที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 174 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ
เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว Double Overhead Camshaft (DOHC)
มองดูท่อไอเสียท้ายรถปกติท่อไอเสียรถญี่ปุ่นจะอยู่ด้านขวา แต่ของนิสสันซิลฟี่อยู่ด้านซ้ายสเปคเดียวกับจีน เพียงแต่พวงมาลัยอยู่กันคนละด้าน ของไทยพวงมาลัยขวา ของจีนพวงมาลัยซ้าย
เราก็พักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านโป่งแยงแอ่งดอย ซึ่งมาเชียงใหม่หลายครั้งแล้วเพิ่งมาร้านนี้เป็นครั้งแรก อาหารรสชาติกลางๆ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย
แต่ที่อร่อยและติดใจก็คือ ไอศครีมที่อยู่ในสับปะรด มีเนื้อสับปะรดผสมพร้อมรัมแอนด์เรซิน รสชาติกลมกล่อมไม่หวานจนเกินไป
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ถึงคิวดิฉันเป็นคนขับแล้ว เนื่องจากคุณโก้ จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ที่ขับมือแรกเป็นคนสูงน่าจะซัก 180 ซม. ที่นั่งก็เลยต่ำ พอถึงดิฉันก็ต้องปรับเก้าอี้เป็นการใหญ่ ให้เก้าอี้สูงขึ้น
ก็โดยวิธีใช้มือโยกขึ้น เก้าอี้ของนิสสันซิลฟี่เป็นแบบเรียบง่าย นั่งสบายเบาะกว้าง เป็นเบาะหนัง
กระจกปรับไฟฟ้า กดเปิดปิดได้ด้วยไฟฟ้าเช่นกัน เมื่อเวลาดับเครื่องกระจกจะพับปิดโดยอัตโนมัติค่ะ
พวงมาลัยแม้จะเบาไปบ้างก็ยังใช้ได้ค่ะสำหรับตัวดิฉัน แต่บางคนบอกว่าทำให้ไม่ค่อยมั่นใจเวลาเข้าโค้งระยะทางที่ขับ 50กิโลเมตร จากร้านอาหารโป่งแยงแอ่งดอย ไปที่เขื่อนแม่งัด เส้นทางที่ขับ 14 กิโลเมตรแรกเป็นทางลงเขา การควบคุมพวงมาลัยและการเกาะถนนดีทีเดียวแม้ตอนแรกจะรู้สึกว่าพวงมาลัยเบาไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหา และก็เริ่มสนุกกับการขับรถลงเขา และการเกาะถนนของรถ
ระบบกันสะเทือนนั่งตอนแรกรู้สึกว่าค่อนข้างกระเทือน ปรากฏว่าขึ้นอยู่กับผิวถนนโดยเฉพาะที่เป็นคอนกรีต ถนนบางช่วงก็รู้สึกรถนุ่มนวลขึ้นอย่างถนนยางมะตอย ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับยางรถยนต์ทีใช้หรือเปล่าหรือเพราะลมยางทีเติมมา เพราะไม่ได้เช็คดูว่าเติมลมยางมาเท่าไหร่ เพราะช่วงคุณโก้เป็นคนขับ ดิฉันก็เอารูปที่ถ่ายไว้อัพขึ้น เฟซบุ๊ค จะ Tag คุณธเนศร์ ปรากฏว่ามือจิ้มไป Tag คุณ วัชระ ธรรมศรี ที่อยู่ถัดไปอีกสามสี่ชื่อ คุณวัชระคงงงว่า Tag ทำไม เล่าให้คุณโก้ที่เป็นคนขับฟังก็เลยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
ระบบส่งกำลัง การเปลี่ยนเกียร์ CVT กำลังของเกียร์มาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ถนนที่ขับบางช่วงก็ต้องเข้าไปในเมืองติดไฟแดงและการจราจรค่อนข้างหนาแน่น บางครั้งเจอรถวิ่งช้าขวางทางอยู่ทำให้ทำความเร็วได้ไม่เต็มที่ ต้องชะงักเป็นช่วงๆ เมื่อชะงักต้องลดความเร็วลง แล้วต้องเหยียบคันเร่งเพื่อทำความเร็วอีก ก็ต้องใจเย็นๆหน่อย เพราะกำลังจะทยอยมาอย่างต่อเนื่อง ตามแรงเท้าที่เหยียบลงไป
แต่ถ้ากำลังยังไม่มาคือตอนเพิ่งออกตัวใหม่ๆอย่าเพิ่งแซงใคร ต้องกะระยะให้ดีก่อน แต่ถ้าติดลมบนแล้วละก็วิ่งฉิวเลย แถมยังเกาะถนนอีกด้วยหมายถึงวิ่งซัก ตั้งแต่ความเร็ว 80 เป็นต้นไป นะคะ
ซึ่งอันนี้ดิฉันก็ได้คุยกับเพื่อนช่างของรายการ CAR ON LINE ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพื่อนช่างตอบว่า ก็เพราะว่าเครื่องยนต์ได้ เพิ่มระยะช่วงชักกระบอกสูบให้ยาวขึ้นทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์จะไม่จี๊ดจ๊าดในรอบต้นๆหรือที่เราเรียกกันว่าตีนต้น จะดีในรอบกลางๆและรอบปลายๆ คือตั้งแน่ 80-100 เป็นต้นไป กำลังจะมาอย่างต่อเนื่อง
ลักษณะแบบนี้ก็เป็นรถที่ขับง่ายๆสบายๆ พวกใจร้อนอาจจะไม่ชอบ
เมื่อต้องหยุด เบรกก็ให้ความมั่นใจว่าหยุดได้ดั่งใจ
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ยางขนาด195/60R16 ดิสท์เบรกทั้ง4 ล้อ
ช่วงล่างหน้า แบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง หลังแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง
รัศมีวงเลี้ยว 5.2
ส่วนอัตราการกินน้ำมัน 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร ทั้งทางขึ้นเขาลงเขา ทางเรียบซึ่งทำความเร็วได้ประมาณ 130 ในบางช่วง และรถติดบ้าง
ท่านผู้อ่านอยากให้สรุปตอนท้ายด้วยว่ารถน่าใช้มั้ย
ก็ขอบอกว่าเป็นรถที่น่าใช้อีกคันหนึ่ง สำหรับท่านที่ชอบรถขับง่ายๆ สบายๆ ไม่ปรู๊ดปร๊าดนัก
ข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์บริการมีทั่วประเทศ
ราคาก็ต้องอยู่ที่ท่านผู้ซื้อละคะว่าพอใจในราคาระดับนี้หรือไม่
ส่วนการรับประกันรถยนต์ก็ 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตรอยู่ที่อันไหนถึงก่อน
น้ำมันเติมได้ตั้งแต่น้ำมันออกเทน 91,95 แก๊สโซฮอล์ 91.95 และ E 20
ในคู่มือที่นิสสันให้มา มีข้อแนะนำว่า สำหรับตัวนิสสันซิลฟี่เครื่อยนต์ 1.6 แนะนำให้เติมน้ำมันเบนซินออกเทน 95 หนือ แก๊สโซฮอล์95 เพื่อสมรรถนะสูงสุดของเครื่องยนต์
มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง ให้แก้เจ้าของรถยนต์ใหม่เป็นเวลา 3 ปี
ลองไปขับดูก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ ทุกโชว์รูมมีรถให้ลองขับค่ะ
นี่คืออีกหนึ่งความเห็นของผู้หญิงใช้รถและขับรถค่ะ
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา