Review :Test drive ทดสอบ ทดลองขับ : CHEVROLET Spin : เชพโรเลต สปิน
หากจะพูดถึงรถในกลุ่ม MPV ในสมัยปัจจุบันนั้นต้องย้อนนึกไปถึงการเปิดตัวซาฟิร่าในประเทศไทยเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ผู้ที่นำเข้ามาเปิดตลาดนั้นคือทางเชพโรเลตเอง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในบ้านเราจนทำให้คู่แข่งต้องมีการนำเข้ารถประเภทเดียวกันเข้ามาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งกันอย่างสนุกสนาน
จนเมื่อตลาดวายลงรถขนาด MPV นั้นย่อส่วนกลายกันเป็น MINI MPV กันไปหมดไม่เว้นแม้กระทั่ง เชพโรเลตเองก็ได้เปิดตัว เชพโรเลต สปิน กับเขาบ้าง มาครั้งนี้ทางเชพโรเลตก็ได้เชิญให้เข้าทดสอบกัน. บนเส้นทางกรุงเทพฯ – ระยอง
การทดสอบขับในครั้งนี้มีการขนอุปกรณ์กีฬาทางน้ำซึ่งจะถูกใช้ในกิจกรรมระหว่างเส้นทางการทดสอบในครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเก็บสัมภาระในห้องโดยสารของสปินว่ากว้างขวางเพียงใด โดยเมื่อพับเบาะที่นั่งแถวที่สามลงก็สามารถยัดเซิร์ฟลงไปได้อย่างสบายๆ
สปิน นั้นได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมดโดยทีมนักออกแบบของเจนเนอรัล มอเตอร์ส บราซิล โดยมิติตัวถังที่มีขนาดกว้างและยาวที่สุดของรถประเภทนี้ สปิน มีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,620 มม. มิติตัวถังยาว 4,360 มม. กว้าง 1,953 มม.และสูง 1,683 มม. มีน้ำหนักตัวถัง 1,277 กก. ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร มาพร้อมยางขนาด 195/65 R15 ส่วนสูงจากพื้นถึงตัวรถ 191 มม.
ห้องโดยสารของสปิน ยังมาพร้อมเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต นั่นคือดีไซน์แบบดูอัล-ค็อกพิท แผงคอนโซลแบบทูโทน มาตรวัดความเร็วของสปิน เป็นแบบดิจิตอล ส่วนมาตรวัดรอบเครื่องยนต์เป็นแบบเข็มอนาล็อกช่วยเพิ่มความสปอร์ต หากเข้าในที่มืดแผงมาตรวัดของเชฟโรเลต เรืองแสงโทนสีฟ้าไอซ์บลู
สปินสามารถรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่งอย่างสะดวกสบาย พร้อมกับคงความยืดหยุ่นสูงในการใช้งาน การออกแบบภายในมีความอเนกประสงค์ พื้นที่ในห้องโดยสารของสปิน ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ เบาะที่นั่งที่สามารถพับได้ 23 รูปแบบแล้ว สปินยังมีช่องเก็บของในห้องโดยสารมากถึง 32 ช่อง มีเนื้อที่ความจุอยู่ที่ 162 ลิตรเมื่อใช้เบาะ 7 ที่นั่ง โดยจะเพิ่มเป็น 864 ลิตรหากพับเบาะแถวหลังลงและจะมีเนื้อที่สูงถึง 1,608 ลิตรหากพับเบาะแถวกลางลง
เมื่อก้าวเข้าสู่ตัวรถแล้วสิ่งแรกที่สัมผัสและรู้สึกนั้นคือเบาะในตำแหน่งของผู้ขับนั้นอยู่สูงทำให้เหมือนว่านั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วขับแม้ว่าจะปรับเบาะที่นั่งให้ต่ำสุดแล้วก็ตาม จัดที่นั่งให้เข้าที่เข้าทางแล้วก็เดินทางมุ่งหน้าสู่ระยองโดยใช้ทางด่วนบางนาแล้วมาลงเส้นมอเตอร์เวย์ที่ด่านบางวัว
เครื่องยนต์ของสปิน เป็นแบบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร (DOHC – Double Overhead Camshafts) 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (DCVC – Double Continuous Variable Camphasing) และหัวฉีดเชื้อเพลิงมัลติพอยท์ ให้พละกำลังสูงสุด 107 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมระบบ Driver Shift Control ให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดา การตอบสนองนั้นหากเป็นคนเท้าหนักต้องการความเร็วปลายหรือการเร่งแซงนั้นคงจะไม่ทันอกทันใจผู้ขับขี่สักเท่าไร เสียงเครื่องครางดังเหมือนจะบอกว่าอย่าเค้นผมมากซิผมจะไม่ไหวแล้วเพราะเครื่องกับเกียร์ที่ให้มานั้นเน้นเรื่องของความประหยัดมากกว่า
ส่วนช่วงล่างสปินนั้น ด้านหน้าใช้แบบอิสระแม็กเฟอร์สัน สตรัทพร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคานแข็งกึ่งอิสระ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ให้ความรู้สึกมั่นคงช่วงล่างนั้นแน่นหนึบหนับเข้าโค้งนั้นให้ความมั่นใจเหมาะกับคนที่ชอบช่วงล่างแบบสปอร์ตซึ่งออกจะแข็งๆหากเป็นคุณสุภาพสตรีนั้นออกจะมีบ่นเล็กน้อยว่ากระด้างไปซะหน่อย ทางทีมวิศวกรนั้นได้พัฒนาให้ช่วงล่างนั้นมีความเงียบ รองรับการใช้งานทั้งการขับขี่ในเมืองและเสถียรภาพมั่นคงในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง
ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าผ่อนแรง แร็กแอนด์พีเนียนแบบอิเลกโทร-ไฮโดรลิก มีน้ำหนักกำลังดีมีความแม่นยำแต่ไม่ถึงขั้นคมกริบไว้ใจได้ไม่มีอาการหน้าไวแม้จะใช้ความเร็วสูง ระบบเบรกหน้าเป็นแบบจานดิสก์พร้อมระบบระบายความร้อน ส่วนเบรกหลังเป็นแบบดรัมเบรก
การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารนั้นเข้าขั้นดีเนื่องจากการใช้ฉนวนบุกันเสียงเทคโนโลยีใหม่และใช้วัสดุที่ช่วยลดระดับเสียงที่เล็ดลอดเข้าสู่ในห้องโดยสาร จึงแทบไม่เสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ เสียงจากถนนและเสียงรบกวนอื่นๆ ภายนอกตัวรถ
สปิน มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานอย่างระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน (หน้า/หลัง) เครื่องเสียงซีดี/เอ็มพี3 ลำโพงสี่ตัว พร้อมระบบเชื่อมต่อยูเอสบีและบลูทูธ ช่องเสียบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยไฟหน้าส่องสว่าง Follow-Me-Home และระบบกันขโมย นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติและราวหลังคา
หลังจากการขับบนระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตรนั้นจุดเด่นของ สปิน นั้นคือช่วงล่างที่โดดเด่นมากสำหรับผมส่วนเครื่องยนต์นั้นการตอบสนองยังไม่เป็นที่น่าพอใจซะเท่าไรแล้วอีกส่วนนั้นคือเบาะนั่งคนขับที่สูงหากขับไกลๆแล้วนั่งไม่สบายเอาซะเลย ส่วนอีกเรื่องที่น่าเสียดายนั้นคือไม่มีเครื่องดีเซลเข้ามาในบ้านเราหากได้เครื่องดีเซลเข้ามานั้นน่าจะขับได้สนุกกว่า
สปินนั้น ขึ้นสายการผลิตที่ศูนย์การผลิตเบกาซีของจีเอ็ม อินโดนีเซีย โดยนอกจากการจำหน่ายในประเทศไทยและอินโดนีเซียแล้ว สปินยังถูกส่งออกไปทำตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ด้วย โดยมาราคาค่าตัวอยู่ที่ 762,000 บาทและมีอยู่รุ่นเดียวคือ LTZ เท่านั้น
###########################################
premsak@caronline.net