คุณคงเคยเห็นนะครับ สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่หลายแบบในบ้านเรา ที่มีรูเล็กเล็กเจาะอยู่บริเวณแอร์แดม หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า กันชน
รูเหล่านั้น เป็นที่ตั้งของตัวจับสัญญาณที่จะส่งคลื่น หรือแสง แล้วแต่แบบ ไปยังด้านถัดออกไป จะเป็นหน้าหรือหลังรถก็แล้วแต่ เมื่อคลื่นหรือแสงไปกระทบกับวัตถุขวางทางอยู่ ก็จะสะท้อนกลับและแจ้งไปยังคอมพิวเตอร์ เพื่อบอกตำแหน่งสิ่งกีดขวางให้กับผู้ขับขี่ทราบ อาจจะเป็นบนจอแสดงภาพที่บอกระยะ หรือเป็นสัญญาณเสียงเตือนให้รู้ตัวก่อนเกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างรถ กับสิ่งกีดขวางดังกล่าว
ตัวจับสัญญาณที่เราเรียกกันว่า Parking Sensor เพิ่งมีให้เห็นในรถยนต์ใหม่ไม่กี่ปีมานี้เอง
ยังไม่เป็นที่คุ้นเคยกันนัก กับผู้ใช้รถยนต์ทั่วไป แต่พัฒนาการของยานยนต์ก็ก้าวรุดหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ขณะนี้ ระบบเตือนระยะการจอดรถใหม่ ก็ออกสู่ตลาดแล้ว และรถยนต์ยุโรป น่าจะเป็นรายแรกแรกของโลก ที่จะนำมาใช้กับรถยนต์ใหม่ของตน
ระบบ Parking Sensor ใหม่นี้ ไม่มีการเจาะรูให้เห็นตัวจับสัญญาณแล้วละครับ
เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาโดย AB Automotive Electronics อันเป็นบริษัทในเครือของ TT Electronics
เขาเรียกระบบการจับสัญญาณเพื่อช่วยในการจอดรถใหม่นี้ว่า E-Park-system ทำหน้าที่ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถในที่คับแคบ เฉพาะตัว ได้ดีกว่ารถที่ไม่มี และเมื่อติดตั้ง ก็จะอยู่ด้านในของแอร์แดมหรือกันชนของรถยนต์ ทำให้ไม่ต้องเจาะรูกันอีกแล้ว
ทุกผู้ผลิตรถยนต์ ก็สามารถจะเลือกติดตั้ง E-Park ให้กับรถของตนได้อย่างง่ายดาย และเป็นการติดตั้งแบบ เอ ผมจะเรียกแบบไหนดีล่ะ อ้อ แบบเฟอร์นิเจอร์ชนิดบิลด์อินก็น่าจะเป็นที่เข้าใจกันดีในสมัยนี้นะครับ
ระบบบิลด์อินนี้ จะทำงานเมื่อคุณเข้าเกียร์ถอยหลัง หรือหากมีชุดที่ติดตั้งอยู่ทางหน้ารถด้วย ก็จะทำงานเมื่อคุณขับรถด้วยความเร็วต่ำ
ต่ำระดับไหน? ก็ต่ำแบบขนาดที่คุณจะเข้าที่จอดรถนั่นแหละครับ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า จะเร็วประมาณไหนสำหรับการเดินหน้าถอยหลังของผู้ขับขี่แต่ละคน แม้จะเชื่อว่า ไม่น่าจะเกินห้ากิโลเมตรต่อชั่วโมงไปเท่าไรก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตบอกว่า สามารถจะให้ชุดจับสัญญาณส่วนหน้าทำงานได้ทันทีที่คุณเข้าเกียร์ถอยหลังด้วย
ทั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งบริเวณหน้ารถ ขณะที่คุณกำลังถอยหลัง เพราะเวลาถอยหลังนี่ หน้ารถจะเบนไปเหมือนเป็นคนละทางกับการเบนทิศทางของส่วนท้าย นึกออกไหมครับ
ที่เหนือกว่าระบบจับสัญญาณทั่วไปที่เราเห็นติดกันอยู่ตามกันชนรถยนต์ใหม่ ก็คือความต่อเนื่อง หรือการไม่มีจุดบอดในการจับสัญญาณเหมือนตัวจับสัญญาณเป็นจุดของ E-Park น่ะครับ
คือตัวจับสัญญาณแบบปัจจุบัน ไม่ว่าจะใช้กันสามตัว หรือถึงห้าตัวก็แล้วแต่ แต่ละตัวก็จะจับสัญญาณได้เฉพาะจุด ในขณะที่ E-Park นั้น ตัวจับสัญญาณจะเป็นแนวยาวไปตลอดบริเวณหน้า และหลังรถเต็มตัว จึงจับสัญญาณได้โดยไร้จุดบอด
และยังทนทานกับการกระทบกระทั่ง ไม่มีการเสี่ยงต่อความเสียหายง่ายเหมือนระบบปัจจุบัน อันบางชนิดเป็นปุ่มยื่นออกมานอกผิวกันชนหรือแอร์แดม หากแต่ติดแบบแฝงอยู่ภายใต้กันชนไปเลยทีเดียว ดังนั้น จึงน่าจะเข้าไปอยู่ในกลุ่มค่าประกันภัยต่ำลงกว่าแบบเป็นตัวจับสัญญาณทั่วไปได้
E-Park ประกอบด้วยตัวจับสัญญาณพลาสติกแบนแบน ติดตั้งอยู่หลังแอร์แดมพลาสติก หรือกันชน และมีชุดโมดุลอีเล็กทรอนิกเล็กเล็ก ที่จะติดตั้งไว้กับกันชนเลยก็ได้ หรือจะแยกออกไปติดตั้งต่างหากในที่อื่นของรถ ก็ได้อีกเช่นกัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในบริเวณติดตั้ง คือพูดง่ายง่ายว่าตามสะดวกน่ะครับ
การทำงานของชุด E-Park นี้ ก็คือการจับสัญญาณสภาพความหนาแน่นของอากาศ หรือบรรยากาศหน้าตัวจับสัญญาณไปถึงขอบเขตของการจับสัญญาณ ว่ามีความหนาแน่นปานไหนเมื่อคุณบิดสวิทช์กุญแจติดเครื่องยนต์ขึ้น จากนั้น ก็จะจับสัญญาณความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศภายในขอบเขต หากมีความเปลี่ยนแปลง ก็ถือว่านั่นแหละครับ มีอะไรเข้ามากีดขวางแล้ว
ในส่วนของขอบเขต หรือ Bubble ที่ตัวจับสัญญาณแบบ E-park นี้จับได้นั้น ไม่มีช่องว่าง เพราะเป็นแบบแผงยาวตลอดความกว้างของหน้าและหลังรถไปเลยทีเดียว ตรงนี้แหละครับ ที่ผมบอกว่า ดีกว่าแบบตัวจับสัญญาณเป็นตัวตัวแยกกันไป อันอาจจะมีวัตถุแปลกปลอมขนาดเล็กเข้ามาขวางทางถอยหลังของคุณได้ เช่นเสาโลหะเล็กเล็ก ที่ปักขวางอยู่ และอยู่ในช่องว่างของตัวจับสัญญาณพอดี คุณก็จะไม่รู้ตัวหากใช้ระบบเดิม แต่จะไม่เกิดขึ้นหากใช้ E-Park
ใน Bubble หรือวงหรือขอบเขตการจับสัญญาณของ E-Park ที่ไม่มีช่องว่างนี้ ยังแบ่งออกเป็นสามเขต หรือสามโซนด้วยกัน เขตรอบนอกจะจับสัญญาณออกไปได้ถึง 1 เมตร 20 เซนติเมตร เอาง่ายง่ายก็คือ 1,200 มิลลิเมตร หรือ มม. ซึ่งเมื่อมีวัตถุกีดขวางอยู่ในระยะนี้ ระบบจะส่งเสียงเตือนในระดับพอได้ยิน ความถี่ในการเตือนยังต่ำอยู่หน่อยครับ
แต่เมื่อเข้าไปถึงโซนกลาง ความถี่และความดังของเสียงเตือนจะสูงขึ้น และเริ่มสูงขึ้นไปจนเข้าใกล้โซน”หยุด”ได้แล้ว อันเป็นโซนใกล้ที่สุด
การตั้งโซน Zones นี้ทำได้นะครับ แต่ปกติจะตั้งมาให้จากโรงงานแล้ว ส่วนนอกสุดนี่ตั้งไม่ได้ คืออยู่ตายตัวที่ 1,200 มม. แต่ส่วนที่ตั้งได้ อันเป็นส่วนกลาง และส่วนใกล้สุดนั้น เขาตั้งมาให้จากโรงงานด้วยระยะส่วนกลางประมาณ 600-700 มม. และส่วนใกล้สุดก็คือ 300 มม หรือราวหนึ่งฟุต
ไม่ว่าจะอย่างไร ทุกส่วนของหน้ารถ และหลังรถ ก็จะได้รับการตรวจสอบจับสัญญาณเต็มพื้นที่ครับ
แผ่นพลาสติกอันเป็นตัวจับสัญญาณนั้น ด้านในของแผ่นจะทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันเพื่อขวางการทำงานของตัวจับสัญญาณ ไม่ให้จับกลับไปยังตัวรถ และส่วนด้านนอกก็จะทำหน้าที่เป็นตัวจับสัญญาณ แล้วต่อเชื่อมกับโมดุลโดยการใช้สายแบบ Co-Axial เพื่อให้ติดตั้งโมดุลรับสัญญาณได้ในพื้นที่อื่นนอกเหนือจากกันชน หรือกับตัวจับสัญญาณโดยตรง
เชื่อกันว่า จากความมีราคาไม่แพง และติดตั้งกับกันชนหรือแอร์แดมได้ง่าย และทุกรูปแบบของ E-Park นี้ ผู้ผลิตรถยนต์คงให้ความสนใจ
เท่าที่ทราบนั้น ขณะนี้ AE Automotive ผลิตออกมาผ่านขั้นทดลอง ถึงระดับผลิตจริงแล้ว และค่อนข้างมั่นใจว่า รถยนต์ยุโรปจะนำมาใช้ก่อนผู้ผลิตรายอื่น
ผมไม่แน่ใจ ว่าจะมีชุด E-Park ออกมาขายในแบบอุปกรณ์หลังการขายของรถยนต์หรือไม่นะครับ
— ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา —
มาสด้า เซลส์ ปร…
“มหกรรมยานยนต์ …