Mitsubishi Motors launches Mitsubishi Lancer EX มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัว มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์
15 กันยายน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดงานเแถลงข่าวแนะนำรถเก๋งรุ่นใหม่ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ เปิดรับจองที่โชว์รูมทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้ ก่อนเปิดขายทางการ 16 ตุลาคม เป็นต้นไป แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มาพร้อมแนวคิด “Sensational Intelligence” ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 รุ่น ได้แก่ขนาด 1.8 ลิตร เป็นรถแบบ Flexible Fuel Vehicle หรือ FFV รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้หลากหลายตั้งแต่เบนซินจนถึงแก๊สโซฮอล์ อี 85 และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รองรับถึงแก๊สโซฮอล์ อี 20 พร้อมตั้งราคาขายอยู่ที่ 831,000 บาท ถึง 1,034,000 บาท
มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวแนะนำมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ซึ่งจะเปิดรับจองล่วงหน้าตั้งแต่ 16 กันยายนนี้ ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ 16 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 9 ของมิตซูบิชิ แลนเซอร์ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยมาพร้อมแนวคิด “Sensational Intelligence” ที่ให้ลูกค้าได้มากกว่าทั้งในเรื่องของความทันสมัยและอัจฉริยะในการขับขี่ โดยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 ขนาด ที่ให้ทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม ได้แก่ เครื่องยนต์ Flexible Fuel Vehicle หรือ FFV ขนาด 1.8 ลิตร จำนวน 3 รุ่น รองรับการใช้น้ำมันได้หลากหลายตั้งแต่เบนซินธรรมดาไปจนถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 และเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร รองรับถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 พร้อมตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 831,000 บาท ถึง 1,034,000 บาท ทั้งนี้เพื่อสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจให้กับลูกค้า บริษัทฯ ยังได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับทุกส่วนของการดำเนินงานทั้งด้าน การขาย การบริการ และอะไหล่ รวมทั้งจัดกิจกรรมการขายและกิจกรรมทางการตลาด ตลอดจนการใช้กลยุทธ์การสื่อสารที่ตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไปพร้อมๆ กัน โดยมั่นใจว่าจะมียอดจองรถมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ เกินเป้าการขายที่ตั้งไว้จำนวน 4,000 คัน ภายใน 6 เดือนแรกอย่างแน่นอน
“แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ เจนเนอเรชั่นที่ 9 เป็นรถคุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับโลกทั้งในเรื่องระบบความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังให้สมรรถนะที่เป็นเยี่ยมตามแบบฉบับรถเก๋งของมิตซูบิชิ เราพัฒนารถรุ่นนี้ขึ้นเพื่อให้เป็นรถเก๋งรุ่นใหม่ที่ให้คุณค่าทั้งในแง่ของการใช้งานและความรู้สึก โดดเด่นด้วยการออกแบบที่สะท้อนตัวตนของรถเก๋งสไตล์มิตซูบิชิที่ให้ความประทับใจทั้งในแง่ความรู้สึก การใช้งานสำหรับทุกความต้องการ และความปลอดภัยในการขับขี่ซึ่งสอดคล้องกับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต รวมทั้งประสิทธิภาพในการควบคุมและตอบสนองโดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์ในขณะขับขี่ที่สะท้อนความเป็นมิตซูบิชิ จากสิ่งเหล่านี้ทำให้ผมมั่นใจอย่างยิ่งว่า มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ที่พรั่งพร้อมไปด้วยนวัตกรรมรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์กลุ่มนี้ได้อย่างแน่นอน “ มร.มูราฮาชิ กล่าว
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ได้รับการออกแบบที่สานต่อภาพลักษณ์ของรถเก๋งสไตล์สปอร์ตของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดย ประกอบไปด้วยรุ่น GT ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ช่วยเสริม “คุณค่าด้านอารมน์” สำหรับลูกค้าผู้ชาญฉลาดที่ให้ความสำคัญทั้งกับความทันสมัย สมรรถนะ และความอัจฉริยะในการขับขี่ ในขณะที่รุ่น GLS-Ltd. รุ่น GLS และ GLX ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้หญิงเป็นหลัก โดยสะท้อนให้เห็นถึง “คุณค่าด้านเหตุผล” ด้วยรูปลักษณ์สวยงาม เพราะบริษัทฯ เชื่อว่าผู้หญิงจะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของรถยนต์กลุ่มนี้
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่เร้าใจ และสะท้อนความแข็งแกร่ง ด้วยการผสมผสานระหว่างห้องโดยสารขนาดใหญ่สไตล์สปอร์ตและตัวถังที่กว้างขึ้น ร่วมกับการออกแบบด้านหน้าตัวรถให้ลาดเอียงลงรับกับกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ในขณะที่การออกแบบภายในเน้นการผสมผสานระหว่างฟังก์ชั่นการใช้งานและความทันสมัยในทุกๆส่วนของตัวรถ แผงคอนโซลหน้าทรงโค้งให้ความรู้สึกกว้างสบายที่สุดในรถระดับเดียวกันพร้อมการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ เพิ่มความสะดวกสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ทั้งในเรื่องของการใช้งาน ทัศนวิสัย และการมองเห็น นอกจากนี้ระยะฐานล้อรถที่กว้างขึ้น ทำให้ได้การทรงตัวและการตอบสนองของรถที่ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ออกแบบให้มีรัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุดในรถระดับเดียวกันเพียง 5.0 เมตร
เครื่องยนต์ใหม่ ของมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มีขนาด 1.8 ลิตร FFV และ 2.0 ลิตร DOHC MIVEC พร้อมเสื้อสูบอลูมิเนียม ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ทำงานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT INVECS-III สปอร์ตโหมด 6 จังหวะ ของมิตซูบิชิ ที่ให้สมรรถนะพร้อมการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น 1.8 ลิตร ที่ถือเป็นรถ FFV รุ่นแรกที่ผลิตเป็นจำนวนมากเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยซึ่งรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ทุกประเภทตั้งแต่เบนซินธรรมดาไปจนถึงแก๊สโซฮอล์ อี 85 ในขณะที่รุ่น 2.0 ลิตร รองรับได้ถึงแก๊สโซฮอล์ อี 20
ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้พัฒนาเครื่องยนต์ขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรถแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ FFV โดยได้มีการปรับโครงสร้างทางวิศวกรรมทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งอี 85 ที่มีปริมาณการกัดกร่อนสูง โดยการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สัมผัสกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 ไม่ว่าจะเป็น ถังน้ำมัน ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง วาล์วและบ่าวาล์ว ท่อส่งน้ำมัน และหัวฉีด ซึ่งทำจากโลหะ ยาง และพลาสติก เพื่อให้สามารถทนต่อการกัดกร่อนดังกล่าวได้ ในขณะที่สมองกลอัจฉริยะของเครื่องยนต์ INTELLIGENT ECU จะทำการตรวจสอบและปรับอัตราการฉีดจ่ายน้ำมันและระยะเวลาในการจุดระเบิดเชื้อเพลิงโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะที่ดีที่สุดในทุกครั้งที่เติมน้ำมันไม่ว่าจะเป็นเบนซิน หรือแก๊สโซฮอล์ อี 10 ไปจนถึง อี 85 ก็ตาม
จากโครงสร้างที่แข็งแกร่งพร้อมระบบความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสียหายเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่เป็นเยี่ยม รวมไปถึงระบบช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาใหม่ มีส่วนช่วยทำให้การทรงตัวและการตอบสนองของรถ รวมไปถึงความปลอดภัยที่เหนือกว่า การปรับปรุงความปลอดภัยจากการรับแรงกระแทก รวมทั้งตัวถังนิรภัย RISE Body ระบบถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า รวมไปถึงระบบเพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (AFS)* ที่ช่วยเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน ถือเป็นระบบที่ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและลดผลกระทบเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้อย่างทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
* เฉพาะรุ่น GT
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
1. การออกแบบ …โดดเด่นสะท้อนภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ตของมิตซูบิชิ
(1) โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ….สะท้อนความปราดเปรียวและหรูหรา
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ของรถเก๋งจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จากการออกแบบโฉมหน้าใหม่ โดดเด่นด้วยเส้นสายที่สะท้อนความปราดเปรียว สมรรถนะ และความล้ำสมัย บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของมิตซูบิชิได้เป็นอย่างดี ด้วยส่วนหน้าที่ลาดเอียงลงตามแบบฉบับรถเก๋งของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกอบกับเส้นสายเรียบง่ายของฝากระโปรงรถ ที่ยังให้ความปลอดภัยไปถึงคนเดินถนน พร้อมกระจังหน้าใหม่ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูช่วยเสริมให้รถดูปราดเปรียวและล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น
ด้วยรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต ทำให้มิตซูบิชิ แลนซอร์ อีเอ็กซ์ เหนือกว่าในเรื่องอากาศพลศาสตร์ (โดยให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน เพียง 0.29) โดยรุ่น GT GLS-Ltd. และ GLS มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียม ไฟตัดหมอกหน้า และปลายท่อสเตนเลส พร้อมเสริมอารมณ์สปอร์ตให้กับรุ่น GT ยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน และสปอยเลอร์หลัง
เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นด้วยไฟหน้า 2 สไตล์ รูปทรงใหม่ ดุดัน ที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ได้แก่ ไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ แบบฮาโลเจน สำหรับรุ่น GLS-Ltd. รุ่น GLS และ รุ่น GLX และไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ แบบไบซีนอน (Bi-Xenon) พร้อมระบบปรับระดับลำแสงไฟหน้าและระบบเพิ่มความส่องสว่างด้านข้างขณะเข้าโค้ง (AFS) สำหรับรุ่น GT ในขณะที่ด้านหลังตัวรถออกแบบให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่กว้างขึ้น พร้อมจัดวางแนวเฉียงขึ้นช่วยให้เห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม และยังช่วยเสริมให้มีดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัยยิ่งขึ้น
โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยด์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ สะท้อนภาพลักษณ์ของสมรรถนะที่แข็งแกร่งและการทรงตัวที่เป็นเยี่ยม โดยในเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร FFV รุ่น GLS-Ltd. รุ่น GLS และรุ่น GLX ใช้ล้ออัลลอยล์ขนาด 16 นิ้ว ในขณะที่เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รุ่น GT มาพร้อมล้ออัลลอยด์ ขนาด 18 นิ้ว ใหญ่สุดในรถระดับเดียวกัน
(2) การออกแบบภายใน ….เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบาย ผ่อนคลายตลอดการเดินทาง
จากการออกแบบที่ยึดความต้องการของผู้ใช้รถเป็นหลัก ทำให้ได้มาซึ่งห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้น รับกับฟังก์ชั่นการใช้ งานที่ให้ความรู้สึกที่เหนือกว่าในทุกๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งคนโดยสารหรือคนขับ
ห้องโดยสารกว้างที่สุดในรถระดับเดียวกันถึง 1,985 มม. ถูกออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ ในขณะที่ความสูงของห้องโดยสารตอนหน้าอยู่ที่ 905 มม. ให้ความโอ่โถงสบายเทียบเท่ารถยนต์ซีดานขนาดใหญ่
แผงคอนโซลหน้าทรงโค้งให้ความรู้สึกกว้างสบาย ผนวกกับการออกแบบในส่วนรายละเอียดเพื่อให้ความสะดวกสูงสุด ทั้งในด้านการขับขี่ ทัศนวิสัย และการมองเห็น เพิ่มอารมณ์สปอร์ตและเสริมความโดดเด่นของห้องโดยสารยิ่งขึ้นด้วยชุดอุปกรณ์หุ้มหนัง** แอร์อัตโนมัติ** และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น *
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มาพร้อมห้องโดยสาร 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่ ห้องโดยสารโมโนโทนสีดำสไตล์สปอร์ตในรุ่น GT และ GLS-Ltd. และห้องโดยสารแบบทูโทน สีดำ-เบจในรุ่น GLS และ GLX ให้ความรู้สึกหรูหราและผ่อนคลาย
เพิ่มความเท่ และสบายยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังแบบสปอร์ตใน รุ่น GT และ GLS-Ltd. และเบาะผ้าสีเบจสองสไตล์ ในรุ่น GLS และ GLX พร้อมความพิถีพิถันในการออกแบบเบาะนั่งด้านหน้าใหม่ เพื่อความรู้สึกกระชับและสบายกว่าในขณะนั่ง รวมทั้งช่วยในการลดแรงกระแทก ในขณะที่เบาะหลังมีขนาดใหญ่ พร้อมพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่งในรุ่น GT และ GLS-Ltd. เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังสามารถปรับพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มความสะดวกในการบรรทุกสัมภาระ
จอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ทันสมัย ด้วยจอแสดงผลเรืองแสงสีแดงแบบ LED ง่ายต่อการอ่านและการใช้งานขณะขับขี่รถ ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา อุณหภูมิเครื่องยนต์ อุณหภูมิภายนอกตัวรถ รวมไปถึงการเตือนต่างๆเมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ
2. เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก…เพื่ออรรถประโยชน์สูงสุดในการขับขี่
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รุ่น GT ใช้ระบบพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น เทคโนโลยีที่ตอบสนองทุกการเดินทาง สามารถเลือกปรับการใช้งานหลากหลายได้โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยเพื่อการควบคุมที่ดีกว่า ทั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงที่ง่ายต่อการปรับ เลือกเพลงและระบบเสียง ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เพื่อการควบคุมความเร็วให้คงที่เพิ่มความสะดวกสบาย และช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการขับขี่ระยะทางไกลๆ
เพิ่มประโยชน์ใช้สอยในทุกตารางนิ้วด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บของขนาดใหญ่ พร้อมช่องวางขวดน้ำบริเวณข้างประตู ถาดเก็บของและกล่องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่แบบมีฝาปิดที่คอนโซลกลาง ในขณะที่เบาะหลังมาพร้อมที่พักแขน ที่วางแก้ว และช่องเก็บข้องบริเวณประตูหลัง
เพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยระบบเครื่องเสียงวิทยุซีดี MP3 แบบ 6 แผ่น พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่งในรุ่น GT รุ่น GLS-Ltd. และ GLS ในขณะที่รุ่น GLX มาพร้อม วิทยุซีดี MP3 แบบ 1 แผ่น พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง
เพิ่มความสะดวก และปลอดภัยมากขึ้นด้วยระบบกุญแจรีโมท พร้อมระบบควบคุมการปลดล็อกฝากระโปรงท้าย
นอกจากนี้รถทุกรุ่นยังติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยอัจฉริยะ Mitsubishi Motors ETACS (Electric Total Automobile Control System) ซึ่งควบคุมระบบไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบปิดไฟหน้าและไฟในห้องโดยสารอัตโนมัติ ระบบสัญญาณกันขโมย** ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม (immobilizer) และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ภายในรถ
3. ระบบขับเคลื่อน …เทคโนโลยีล้ำสมัย ให้ทั้งสมรรถนะที่โดดเด่น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ขนาดเล็กและเบา บล็อก 4B10 ขนาด 1.8 ลิตร FFV และ 4B11 ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC MIVEC
ล้ำหน้ากับเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ ด้วยเสื้อสูบอลูมิเนียม ฝาครอบวาล์วแบบพลาสติกพิเศษ พร้อมโครงสร้างการวางท่อร่วมไอเสียไว้ด้านหลัง และการติดตั้งแผ่นสแตนเลสครอบท่อร่วมไอเสียโดยรอบเพื่อป้องกันความร้อน มาพร้อม MIVEC ระบบวาล์วแปรผันที่ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วทั้งไอดีและไอเสียให้แปรผันสัมพันธ์กับอัตราเร่งในทุกๆรอบเครื่องยนต์และทุกสภาพการขับขี่ จึงให้ทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมัน
ระบบเกียร์อัจฉริยะ CVT พร้อมติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III แบบ 6 จังหวะ เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต และเร้าใจยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชั่น Sport Mode ให้การปรับเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและแม่นยำ เหมาะสมในทุกรอบความเร็วของเครื่องยนต์ เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อน ตอบสนองทุกอัตราเร่ง พร้อมการประหยัดน้ำมัน
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รุ่น 1.8 ลิตร ถือเป็นรถยนต์ FFV รุ่นแรกที่ผลิตจำนวนมากเพื่อการจำหน่ายในประเทศไทยติดตั้งเครื่องยนต์ทันสมัยรองรับได้ทั้งน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลล์ทุกชนิดจนถึง E85 ทั้งนี้เพื่อตอบสนองนโยบายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลในฐานะวาระแห่งชาติ รวมทั้งสนับสนุนเกษตรกรไทยและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
มั่นใจในสมรรถนะแม้เติมน้ำมันที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเบนซิน 100 % ไปจนถึงน้ำมันเบนซินที่ผสมเอทานอล (แก๊สโซฮอลล์) ได้ทุกสัดส่วนตั้งแต่ E0 ถึง E85 เพราะด้วยสมองกลอัจฉริยะของเครื่องยนต์ “INTELLIGNET ECU” ระบบจะทำการตรวจวิเคราะห์และคำนวณสัดส่วนของเอทานอลที่มีอยู่ในถังน้ำมันเชื้อเพลิง และปรับการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศที่เหมาะสมที่สุดในทุกสภาวะของเครื่องยนต์ โดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะที่ดีที่สุด
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ FFV 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงที่ 139 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ในขณะที่รุ่น 2.0 ลิตร ซึ่งรองรับทั้งเบนซิน 91 95 แก๊สโซฮอล์ E10 และ E20 ให้กำลังสูงสุด 154 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 198 นิวตัน-เมตร ที่ 4,250 รอบต่อนาที
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ทุกรุ่นผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4
4. ระบบช่วงล่าง…ใหม่ แข็งแกร่ง อีกระดับของการควบคุมและเสถียรภาพในการขับขี่
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ติดตั้งระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยส์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงค์พร้อมคอยส์สปริง และเหล็กกันโคลง ช่วยให้รถมีการทรงตัวเป็นเยี่ยมและง่ายต่อการควบคุม ยิ่งไปกว่านั้นในรุ่น GT ยังมีการติดตั้งเหล็กค้ำโช้คหน้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งเมื่อใช้ความเร็วสูง
เพื่อให้ได้กำลังสูงสุดและการควบคุมที่ดีที่สุด รวมไปถึงการทรงตัวและความสะดวกสบายในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ จึงมาพร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้วและ 18 นิ้ว โดยในรุ่น GT มาพร้อมล้ออัลลอยล์ขนาดใหญ่สุดในรถระดับเดียวกัน แบบ 10 ก้านขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/45R18 เพิ่มการยึดเกาะถนนและการเข้าโค้งพร้อมสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม ในขณะที่รุ่น GLS-Ltd. GLS และ GLX มาพร้อมล้ออัลลอยล์ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางแบบ 205/60 R16 เพื่อความแม่นยำในการเข้าโค้งและสะดวกสบายในการขับขี่
โดดเด่นด้วยรัศมีวงเลี้ยวที่แคบที่สุดในรถระดับเดียวกันเพียง 5.0 เมตร เพิ่มความสะดวกในการขับขี่มากยิ่งขึ้น แม้จะมีห้องโดยสารที่กว้างที่สุดในรถระดับเดียวกันก็ตาม
5. มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย…ได้มาตรฐานโลก
ตัวถังของรถมิตซูบิชิแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ RISE body เอกสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส พร้อมคานเหล็กนิรภัยในประตู นอกจากนี้ยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยส่วนรับแรงกระแทกด้านข้างแบบ Ultra High Tensile Steel จึงทำให้สามารถปกป้องแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม (immobilizer) ระบบสัญญานกันขโมย** และมั่นใจยิ่งกว่าด้วยระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า** และระบบเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติพร้อมระบบผ่อนแรง** อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกด้วยดิสก์เบรกขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับล้อขนาด15 นิ้วขึ้นไป สำหรับรุ่น GLS-Ltd. รุ่น GLS และ GLX พร้อมรองรับล้อขนาด 16 นิ้วขึ้นไปสำหรับรุ่น GT
ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ตที่ได้รับการออกแบบเฉพาะช่วยปกป้องอันตรายที่จะเกิดกับคอ ในขณะที่ฝาประโปรงและกันชนหน้ามาพร้อมโครงสร้างที่จะช่วยซึมซับแรงกระแทกเพื่อลดการบาดเจ็บรวมทั้งปกป้องคนเดินถนน
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระแทกจากการชนเพื่อความปลอดภัยเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า รวมทั้งลดอาการบาดเจ็บที่หน้าอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รุ่น GT มาพร้อมไฟหน้าติดตั้งระบบเพิ่มความสว่างขณะเข้าโค้ง (AFS) ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการมองเห็นสำหรับการขับขี่ยามค่ำคืน
* เฉพาะรุ่น GT
2. กิจกรรมการตลาด
เปิดรับจองล่วงหน้า ตั้งแต่ 16 กันยายน เป็นต้นไป
เปิดขายอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ 16 ตุลาคม เป็นต้นไป
งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 16-18 ตุลาคม (10:00-21:00)
กิจกรรมโรดโชว์ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตุลาคม 2552- มีนาคม 2553
3. เปิดขายอย่างเป็นทางการ
ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 129 แห่งทั่วประเทศ
4. ข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว
ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง “ไดมอนด์ อินชัวรันส์”
มั่นใจเต็มที่กับคุณภาพของการบริการหลังการขาย และอะไหล่แท้ของมิตซูบิชิ
ความพร้อมของการบริการหลังการขาย ภายใต้แนวคิด DIAMOND ถือเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญสูงสุด ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงเน้นคุณภาพสูงสุดของศูนย์บริการทั้ง 129 แห่ง ให้มีความพร้อมทั้งด้านการบริการ การขาย และอะไหล่ ด้วยการสร้างบุคลากรให้มีทักษะ เชี่ยวชาญในทุกด้าน ทั้งด้านความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ของรถมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ โดยการจัดอบรมพนักงานขาย พนักงานช่างศูนย์บริการ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังจัดสำรองอะไหล่สิ้นเปลืองไว้ เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการได้ทันท่วงที พร้อมการกำหนดราคาของอะไหล่ มิตซูบิชิ แลนเซฮร์ อีเอ็กซ์ ให้สามารถแข่งขันได้
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มี 4 รุ่นให้เลือก เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยมี 5 สีให้เลือก ประกอบด้วย สีแดง สีบรอนซ์เงิน สีบรอนซ์ทอง สีเทาดำ และสีดำ พร้อมราคาขาย:
1. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 1.8 MIVEC GLX ราคา 831,000 บาท
2. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 1.8 MIVEC GLS ราคา 886,000 บาท
3. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 1.8 MIVEC GLS-Ltd. ราคา 899,000 บาท
4. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 2.0 MIVEC GT ราคา 1,034,000 บาท
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่ให้ทั้งสมรรถนะและความอัจฉริยะในการขับขี่ ที่สะท้อนความเป็นตัวตนและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้ขับขี่ สามารถชมและทดลองขับ “มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” Sensational Intelligence ได้ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศตั้งแต่ 16 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009 หรือที่เว็บไซต์ www. mitsubishi-motors.co.th
Bangkok-15 September 2009 — Mitsubishi Motors Thailand today announces the debut of “Lancer EX”, a new style sedan by starting to accept pre-booking at its affiliated dealerships nationwide from September 16 before going on sales officially on October 16. Lancer EX will come with praise on the “Sensational Intelligence” concept and is powered by 1.8-liter engine for the Flexible Fuel Vehicle (FFV), compatible with all types of benzene up to E85 and 2.0-liter engine compatible up to E20 with a price tag ranging from 831,000 to 1,034,000 baht.
Mr. Nobuyuki Murahashi, President of Mitsubishi Motors (Thailand) Company Limited today arranges a press conference to introduce the new Lancer EX which will start pre-booking from September 16 and officially release to Thai market from October 16 onwards. The 9th Generation, Mitsubishi Lancer EX, has been developed to meet customer needs and comes with the concept of “Sensational Intelligence” that provides customer a sense of both stylish and intelligence of driving. The car is powered by a choice of two engines that deliver outstanding motive performance and fuel economy: There will be total 3 models of Flexible Fuel Vehicle (FFV) 1.8 Liter engine is compatible with all types gasoline up to E85 while 2.0 Liter engine is compatible with gasohol E20 and offers attractive price starting from 831,000 baht to 1,034,000 baht. Besides, to establish trust and enhance customers’ confidence, the company has strengthened its 3S; Sales, Service and Spare Parts together with doing sales and marketing activities at the same time of using the right communication to target groups. Mitsubishi Motors is positive that the orders for the new Lancer EX will exceed 4,000 in the first 6 months easily.
“The 9th generation, Lancer EX brings global standard levels of safety, comfort & convenience and environmental performance together with sporty sedan’s road performance in the tradition of the Mitsubishi Motors brand. Development was aimed to create a new sedan provide both functional and emotional value which distinguished by: a design that immediately identifies it as a Mitsubishi Motors sedan and gives expression to the feel, the purposefulness and the stable road stance associated with the sedan body style; and by a quality of handling and response and the particular flavor of ride that define the Mitsubishi Motors brand. With all of these, I am very confident that Lancer EX which is rich in ingenuity and loaded with new technologies will satisfy the needs and aspiration of sedan drivers” Mr. Murhashi said.
Lancer EX is designed to continue the sporty look tradition to Mitsubishi Motors sedan. GT, the highest model for Unisex enhancing “Emotional value“ for the smart persons who consider not only stylish, distinctive performance but also intelligent driving. GLS and GLX models have been developed to serve Female drivers’ desire reflecting “Rational value” with Elegant style because the company believe that Female customer is the key target especially in this segment.
The exterior design creates a body with vibrant looks and a strong road presence using proportions comprising a large cabin wrapped in sporty, wide-stance styling and by combining the Mitsubishi Motors sedan’s hallmark inverted-slant nose with a trapezoidal grille while the interior was designed to marry together with functionality and an uptown feel in every part of the car, evident whether sitting in using or driving the car. The bowed dashboard creates the Best in Class roominess while the detailing is designed for optimum driver operability, visibility and viewability. With its wider track the packaging reconciles the requirements of stable handling and response with its excellent maneuverability that stems from Best in Class minimum turning radius of 5.0 m.
This new generation‘s powertrain uses a new 1.8-liter and 2.0-liter DOHC MIVEC aluminum block engine, which earns EU emission standards step 4, mated to Mitsubishi’s INVECS-III 6-speed Sport Mode CVT that delivers responsive power transmission while returning excellent fuel economy. Especially for the 1.8-liter engine, which is the first mass production Flexible Fuel Vehicle (FFV here in Thai market that can run on all types of gasoline up to E85 while 2.0-liter engine can run on gasohol E20.
Mitsubishi has developed the engine for Lancer EX Flexible Fuel Vehicle (FFV] by improved all parts that involve with gasohol at all ratios. As gasohol especially E85 has very high corrosion therefore Mitsubishi Motors changed every part that touches with it to a high resistance quality material in order to resist to corrosion, e.g. fuel tank, valve, valve seat, pump, delivery pipe and injector which made from metal, rubber and plastic while the INTELLIGENT ECU will adjust the amounts of fuel injected and the ignition spark timing automatically in order to provide the best performance whenever fill up a different type of fuel, E0, E10 E20 up to E85.
A high-rigidity platform with excellent impact safety performance and a revamped suspension underpin and support high levels of handling and response and safety performance. Features enhancing passive and impact safety include RISE body; dual SRS airbags; adaptive front lighting (AFS)* that improves the driver’s field of vision at night.
* Only for GT model
Product Feature
1. Design : Sporty and Dynamic styling
(1) Exterior…for unisex with Dynamic and Elegant of driving
– Lancer EX is the first model to adopt the new Mitsubishi Motors sedan design identity in its front visage while distinguished by dynamic, powerful and progressive lines, identifies it immediately as a Mitsubishi sedan. The inverted-slant nose, traditional to Mitsubishi Motors sedans and incorporating a leisurely flowing engine hood line with good pedestrian protection, is combined with a trapezoidal grille to give the front end a dynamic and forcefully progressive appearance.
– The sporty image contributes to the Lancer advanced aerodynamics (cd = 0.29). Chrome line front grille, front fog lamps and stainless tail pipe are available as a factory-fitted option on GLS and GT models. Sporty bias with following as standard for GT model: Front and side airdams, rear spoiler that tweak up GT trim aggressive looks.
– Lancer EX range uses two types of high-performance headlamps that share a carefully crafted and crisp rectangular design: multi reflector headlamp with halogen for GLS and GLX trim level while Bi-Xenon Projector headlamp equipped with adaptive front lighting system (AFS) for GT trim level respectively. It is distinguished in its rear view by franks that wraparound into a neatly, chunks rear end and wide rear combination light units are set high up in the tail and bring together improves visibility and a stylish design.
– The alloy wheel that was designed exclusively for Lancer EX engenders an image of athletic road performance and handling. 1.8-Liter Engine trim features a set of 16” tires as standard for better cornering and overall performance while 2.0-Liter Engine trim features a set of Best in Class 18-inch alloy road wheels.
(2) Interior…brings a feel-good motoring and a relaxing ride
– The aim in developing the interior design for generously roomy Lancer EX was to marry together with functionality and an uptown feel in every part of the car, evident whether sitting in using or driving the car. Designed with drivers in mind, every aspect of the interior is made to enhance driver experience behind the wheel.
– The creatively designed cabin layout realizes the best in class legroom of 1,985 mm. and front headroom of 905 mm., on a par with a larger sedan.
– The bowed dashboard creates a sense of roominess while the detailing is designed for optimum driver operability, visibility and viewability. The use of leather accents in the instrumentation**, full auto A/C** and multi-function steering* wheel enhances the sporty and uptown look to the interior
– The Lancer EX series comes in two interior color schemes: a sporty black monotone in GT and GLS- Ltd. models and a classy and relaxing black / beige two-tone in GLX and GLS models.
– Leather sport type seat for GT and GLS- Ltd. and 2 type of Beige fabric for GLS and GLX trim, Lancer EX uses sculpted front seats with side supports and cushioning designed for optimum location and support while the rear seat uses large cushions with headrest 3 pieces in GLS-Ltd. and GT model that engender a sense of comfort. The 60:40-split rear seat back also features a truck-through mechanism that enhances truck compartment utility.
– Standard on all models is Multi-Information display that shows average speed, fuel consumption, distance until empty, maintenance schedule and outside temperature. The red backlit LEDs are stylish as well as easy to read and the driver can conveniently select from several different displays while driving.
2. Utility : Amenities designed for pure driving pleasure
– The Lancer EX 2.0-liter series is available with multi function steering which provide; audio switch for easy access for volume, track selection and sound mode controls; a paddle shifter that allows the driver to shift gears without taking his hand off the steering wheel along with cruise control which is built into the steering wheel for fully intuitive operation for optimized convenience on long drives.
– Lancer EX offers a generous variety items storage space designed for convenience ease of use. The front compartment has a large door pockets with bottle holders, a center tray for small items. A large floor console box with tray on lid while the rear passenger compartment storage is providing in the form of cup holder in the central armrest and door pockets.
– Unique audio type 6 CDs and 6 speaker for GLS and GT model and 1 CD with 4 speaker for GLX model
– All models are available as standard with a keyless entry system with truck lid electric release.
– Standard on all models is Mitsubishi Motors ETACS (Electric Time and Alarm Control System) system that controls the operating environment for the headlight and interior lamp auto-off, security alarm**, immobilizer and other electronic systems fitted to Lancer EX.
3. Powertrain : Weight reduction and advances technology yield brawny, clean performance
– Lancer EX comes with a new compact and lightweight engine 4B10 1.8 liter and 4B11 2.0-liter 4-cylinder 16 valve DOHC MIVEC.
– The die-cast aluminum cylinder block, plastic cylinder head cover, rearward exhaust layout and double-wall stainless steel exhaust manifold are just some of the advanced technologies employed in the new engine. The application of Mitsubishi’s MIVEC variable valve timing technology to both intake and exhaust valvetrains realizes optimum valve lift timing for all driving conditions and delivers high-performance and returns excellent fuel mileage.
– The engine is mated to Mitsubishi’s INVECS-III CVT transmission that optimally matches shift points to engine speed at all times to deliver responsive and smooth acceleration while returning excellent fuel economy.
– To align with Thai government’s environment and energy policies as the National Agenda and to support Thai agricultural, 1.8 liter engine model is the first mass production Flexible Fuel Vehicle (FFV) here in Thai market that adopt with an advanced technology engine which can be run on both gasoline and gasohol with a wide range of ethanol-gasoline fuel mixtures from E0 all the way up to E85.
– There is intelligent ECU in Flexible Fuel Vehicle (FFV) that will adjust automatically. Whenever fill up a different type of fuel, E0, E10 E20 up to E85, the INTELLIGENT ECU will analyze by utilizes oxygen concentration sensors to measure the concentration of oxygen in exhaust system to estimate what fuel blend is currently in the tank, then the INTELLIGENT ECU will automatically adjust the amounts of fuel injected and the ignition spark timing in order to provide the best performance.
– 1.8 liter engine generate maximum output 139 PS at 6,000 rpm with maximum torque of 172 N-m at 4,200 rpm while 2.0 liter engine can run on gasohol E20 and generate maximum output 154 PS at 6,000 rpm with maximum torque of 198 N-m at 4,250 rpm.
– All models in the series earn EU emission standards step 4.
4. Suspension : New-generation suspension underpin high level of handling and stability, supple ride
– Lancer EX uses the McPherson strut front and multi-link rear suspension with stabilizer bar that allow the auto designer the ability to incorporate both good ride quality and good car handling in the same vehicle. Moreover GT model provides the front strut tower bar for high speed stability when cornering.
– To manage the higher power output, handling performance, deliver a stable and comfortable ride, new Lancer EX rides on 16–inch and 18-inch alloy wheels and tires. For GT model rides as standard on 18-inch 10-spoke high-rigidity alloy road wheels shod with 215/45R18 tires for improved grip, cornering and overall performance while GLS-Ltd., GLS and GLX ride as standard on 16-inch alloy road wheels with 205/60 R16 tires for a better cornering and comfortable driving.
– Belying its size classification, the Lancer EX series boasts outstanding maneuverability with Best in Class minimum turning radius of 5.0 meters even Lancer EX achieved the Best in Class roominess.
5. Peace-of-mind safety specification: High-rigidity body underpins global standard safety
– Lancer EX‘s body has been revamped to realize higher levels of safety and on-demand handling and response. It uses Mitsubishi‘s own RISE body, side door impact bar along with ultra high tensile steel that brings dramatic advance in multi-directional impact performance.
– Lancer EX comes with an engine immobilizer ,security alarm** to deter theft , ABS, electronic brake-force distribution with Brake-assist, dual SRS airbags** along with pretensioner and load limiter front seatbelts. It also provides the better braking performance with bigger disc brake for alloy wheel size 15-inch up of GLS-Ltd., GLS and GLX model and for alloy wheel 16-inch up of GT model.
– The sporty-designed front seats are designed to mitigate injury to the neck while the engine hood, front fenders and front bumper all employ impact energy-absorbing structures to reduce injury to and protect pedestrians. 3-points ELR front seatbelt are fitted with pretensioners that take up any slack in the shoulder belt on detection of any strong impact force to secure more firmly in a frontal crash and force limiters that operates to slacken the belt and absorb the load acting on the occupant and thereby reduce impact force acting on the chest.
– Standard on GT model, the adaptive front lighting system (AFS) is fitted in which auxiliary lights turn to increase the area of road illuminated and improve driver visibility at night.
* Only for GT Mode
** Except GLX Model
Sales promotion activities;
– Start pre-booking September 16, 2009
– Official sales October 16, 2009
– Public Launch at Central world October 16-18, 2009 (10.00 – 21.00)
– Road Show in Bangkok and up-country October 2009-March 2010
Available at: 129 Mitsubishi affiliated dealerships throughout Thailand
Sales campaign during launch period; Free Diamond Insurance
Confident in After Sales Services and Mitsubishi Parts
Readiness of After-Sales Services under “Diamond “concept is always placed highly and continually on the agenda, therefore, all the 130 service centers are efficient and ready for the 3S area; Sales, Services, and Spare Parts. With many courses of training for all sales personnel and technicians emphasizing the skill proficiency in new applications of the equipment and innovative technologies in Lancer EX. At the same time Mitsubishi Motors Thailand has particularly reserved of Mitsubishi Lancer EX’s Parts to cater the number of customers coming for the service with the price listing that is competitive with those of other competitors
Attractive price
The new Mitsubishi Lancer EX offers 4 models to meet the entire customer’ needs and lifestyles and will be available in 5 colors; Medium Red, Platinum Beige, Cool Silver, Eisen Gray Mica and Pyreness Black with the attractive price;
1. Mitsubishi Lancer EX 1.8 MIVEC GLX Price 831,000 Baht
2. Mitsubishi Lancer EX 1.8 MIVEC GLS Price 886,000 Baht
3. Mitsubishi Lancer EX 1.8 MIVEC GLS-Ltd. Price 899,000 Baht
4. Mitsubishi Lancer EX 2.0 MIVEC GT Price 1,034,000 Baht
For the customers who are looking for the car which can provide both distinctive performance and intelligent driving which reflect not only your active personality but also your smart vision, please visit and test our Mitsubishi Lancer EX, the “Sensational Intelligence” vehicle at Mitsubishi dealer nationwide from this 16 October. For more detail, please call Mitsubishi Call Center 1800 900 009 or www.mitsubishi-motors.co.th
By;Thunyaluk Seniwongs