เอาไงดี คือมันคิดไม่ออกว่าจะเริ่มเขียนเรื่องที่ไปทดสอบยางตัวใหม่ของมิชลินแบบไหนดี ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองอันร้อนแรงไม่แพ้ไปกันกับอุณหภูมิที่ทะลุไปเกินกว่า40องศาในระหว่างการรอทดสอบที่สนามแก่งกระจาน ตอนแรกก็ว่าจะกลับมาแล้วรีบเขียนลงโดยไวมิเช่นนั้นแล้วต้องรอไปอีกซักพัก กว่าจะได้เริ่มก็ล่วงเลยมาถึงสัปดาห์เพราะมีงานอื่นเข้ามาก่อนไม่ว่างานราษฎร์งานหลวงหรือจะงานไหนโดยเฉพาะงานมอเตอร์โชว์ แต่ไม่เป็นไรครับผมกับคุณโอได้เล่าเรื่องราวที่ไปทดสอบแล้วทางเอฟ.เอ็ม.89.5ในวันศุกร์ช่วงเวลา23.00-24.00น. คราวนี้ก็เหลือแต่ทางเว็บไซท์แห่งนี้เท่านั้น อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าผมได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ที่ให้ผมได้ไปร่วมทดสอบต่างๆในวงการยานยนต์ หรือการมาจัดรายการวิทยุนั้นผมก็ตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไร ไม่เหมือนบางคนที่ชอบเอาผู้ที่เคยมีพระคุณไปด่าลับหลังคิดเองเออเองว่าเขาจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ก็เพราะมีคนแบบนี้ไงครับที่ไม่ลืมตามองดูความเป็นจริงว่าเขาทำอะไรเมื่อไรแล้วตัวเองเป็นยังไง ขนาดที่ว่าเคยประกาศว่าจะเลิกเข้าเว็บนั้นเลิกเล่นเว็บนี้แล้วเป็นไงครับ ก็กลับมาเล่นทุกครั้งจนหรือบางทีก็บอกว่าไม่ได้เข้ามามีคนส่งลิ้งค์ไปให้อ่าน โถ่!อย่ามาพูดเลยดีกว่า ตั้งกฎอย่างนั้นอย่างนี้ในบ้านตัวเองแล้วไปโพสลิ้งค์ตัวเองในบ้านคนอื่นในตอนแรก เฮ้อเหนื่อยใจกับคนที่เรียกร้องว่าไม่ยุติธรรมจะอย่างนั้นอย่างนี้ จะฟ้องก็ไม่ฟ้องผมว่าเอาซะทีซิครับจะได้รู้เรื่องรู้ราวจบๆกันไป คุณก็บอกว่าคุณเป็นสื่อแต่ข่าวที่ไปเอาของเขามาลงแม้ว่าลงเครคิตก็เถอะเพื่อนพ้องน้องพี่กันทั้งนั้นกว่าเขาจะได้มามันก็เหนื่อยหรือต้องใช้ความสามารถมาถึงจะได้ข่าวมา คุณเคยบอกหรือไปขอเขาบ้างรึเปล่า ข่าวเมืองนอกนี่ไม่ว่าแต่ข่าวในนี่แหละทีมงานก็มีไปเอาของเขามาทำไม หรือไม่มีปัญญาทำข่าวในประเทศเก่งนักเก่งหนาไม่ใช่เหรอ พอพอพอเดี๋ยวจะยาวหยุดพาดพิงหรือกล่าวถึงซะที่เถอะ ครั้งสุดท้ายที่ผมกล่าวถึงนี่มันนานแล้วนะ ใครกันแน่ที่ควรหยุด หลายคนก็บอกอย่าไปยุ่งเลยผมหยุดและปล่อยมานานแล้วครั้งนี้ขอซะทีหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่กล่าวถึง มิเช่นนั้นแล้วคราวหน้าจะแฉให้หมดว่าอะไรเป็นยังไงมายังไง
หลังจากครั้งสุดท้ายที่ได้ไปทดสอบยางมิชลินคือตัว Primacy LC http://www.caronline.net/ArticleDetail.aspx?ArticleID=354 นั้นก็เกือบจะครบปีพอดี คราวนี้ทางมิชลินก็ส่งเทียบเชิญให้ไปทดสอบยางตัวใหม่ของเขานั้นก็คือ มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นยางประเภทไหนซึ่งมีความแตกต่างและจุดเด่นที่ไม่เหมือนกับตัวเดิมแน่นอน การทดสอบก็ไม่ได้เป็นแบบเดิมด้วย ยางสปอร์ตก็ต้องทดสอบแบบสปอร์ต ครั้งนี้เลยจัดให้มาทดสอบกันถึงแก่งกระจานเซอร์กิต เรามาดูกำหนดการกันดีกว่า
ทีแรกนึกว่าจะมีแค่สามสถานีแต่ที่ไหนได้มีข้างหลังอีก
สรุปว่ามี 6 สถานี เป็นการทดสอบประสิทธิภาพซะ 3 อีก 3 เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต ผมกับคุณโออยู่ในกลุ่ม A สีเขียว ไปเริ่มการทดสอบเลยดีกว่า
สถานีที่ 1 การทดสอบประสิทธิภาพการเข้าโค้งและเบรกบนพื้นเปียก
ในการทดสอบจะมีรถอยู่สองคันเป็นรุ่นเดียวกันโดยให้ขับเปรียบเทียบกันคันละสองรอบ โดยคันแรกใส่ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 อีกคันใส่ของคู่แข่งและให้ขับแบบใกล้เคียงกันมากที่สุด
โดยจะมีทางโค้งที่ราดน้ำไว้กับขับผ่านบนพื้นเปียกหลังจากพ้นทางโค้งมาแล้วจะเจอทางตรงให้กดคันเร่งเต็มที่ เมื่อถึงจุดที่กำหนดให้เบรกเต็มแรงจนรถหยุดโดยใช้ความเร็วประมาณ70 กม./ชม.เพื่อวัดทางระยะเบรกเปรียบเทียบกัน
ผลออกมาปรากฏว่า ในการเข้าโค้งนั้น มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 ทำได้ดีกว่าสามารถควบคุมพวงมาลัยได้ดีไม่มีการดื้อโค้ง ส่วนระยะเบรกก็ทำได้สั้นกว่า
สถานีที่ 2 การขับขี่ในชีวิตจริง
สถานีนี้จะเป็นการขับรถออกไปตามทางที่ทางทีมงานจัดไว้บริเวณเขื่อนแก่งกระจาน ระยะทางประมาณ 40กิโลเมตร โดยจะมีรถสมรรถนะสูงได้แก่ ซูบารุ มินิ และ บีเอ็บดับเบิ้ลยู รวมแปดคัน โดยผมกับคุณโอได้ BMW Z4 sDrive 2.3 เราตั้งเป็นขบวนขับเรียงกันไปทั้งแปดคัน เส้นทางที่เราขับผ่านเรียกได้ว่ามีทั้งทางคดเคี้ยว ขุรขระ ทางลาดยาง ทางชัน เรียกได้ว่าเกือบครบทุกสภาพเลยก็ว่าได้ เท่าที่ได้ลองนั้นคงบอกได้ว่า การยึดเกาะนั้นทำได้ดีให้ความมั่นใจกับประสิทธิภาพของยาง
เสียงยางนั้นมีรบกวนอยู่เหมือนกันในช่วงการขับแบบเรื่อยๆแต่คงไม่น่าห่วงเพราะยางประเภทนี้เน้นในเรื่องสมรรถนะในการยึดเกาะมากกว่า ก็ต้องแลกกันหรือไม่แน่ในอนาคตทางมิชลินคงจะทำมาในแบบที่เงียบและมีสมรรถนะสูงก็เป็นได้หลังจากถึงจุดพักรถแล้วเปลี่ยนให้คุณโอขับต่อ ผมก็มานั่งบ้างนั่งไปนั่งมาก็กลับเข้ามาสู่สนามอีกครั้งเพื่อพักรับประทานอาหารเที่ยง แล้วรอทดสอบต่อในรอบบ่าย
สถานีที่ 3 การขับขี่ในสไตล์สปอร์ต
โดยในสถานีจะมีรถให้ลองขับอยู่สองคันโดยใส่ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3กับของอีกยี่ห้อ โดยวิธีการนั้นเน้นอยู่ที่การควบคุมพวงมาลัย โดยให้เปรียบเทียบว่าอันไหนควบคุมได้ดีกว่ากัน โดยจะให้ขับแบบขึ้นและลงเนินที่เป็นทางโค้งโดยไม่ต้องใช้เบรกเลย
ให้ใช้เร่งไปถึงความเร็วประมาณ 60 กม. / ชม.แล้วปล่อยคันเร่งให้รถไหลเข้าโค้งไป ซึ่งเท่าที่ได้ลองนั้นเจ้ามิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3ทำวงเลี้ยวได้แคบกว่าและรู้สึกว่าสามารถหมุนพวงมาลัยเพิ่มเข้าไปอีก ให้ความรู้สึกที่เป็นสปอร์ตมาก
หลังจากนี้ก็จะเป็นสถานีที่ผมเรียกว่าสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตอีกสามสถานีคือ การขับรถแข่ง GT-5 คันสีน้ำเงินนี่แหละครับ ทางมิชลินบอกว่าอยากให้ได้อารมณ์แบบการขับรถแข่งจริงๆจึงจัดคันนี้มา แต่ก่อนจะขับนั้นก็ต้องมีการเตรียมตัวกันเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นการใส่ชุดแข่งจริงๆหรือแม้กระทั่งรองเท้าสำหรับการขับรถแข่งซึ่งจะมีเฉพาะเลย ชุดนี้ก็ต้องกันไฟได้ระดับนึงเลยทีเดียว เปลี่ยนชุดเสร็จก่อนขับนี่ก็ต้องใส่หมวกกันน็อคด้วย
ถึงอยากจะบอกว่าร้อนมากครับทั้งอากาศที่ร้อนอยู่แล้วและยังชุดเข้าไปอีกไม่ไหวครับ การขับนั้นขับค่อนข้างยากทีเดียวและยังไม่ชินกับรถ แต่พอเริ่มคล่องแล้วและกำลังสนุกก็หมดรอบซะแล้ว ฮ่าฮ่า ได้ความรู้สึกแปลกดีไปอีกแบบทั้งการปีนเข้าปีนออกจากรถเพราะมันไม่มีประตูครับท่านผู้อ่าน
ต่อจากนั้นก็มาสู่สถานี PIT CHALLENGE เป็นการจำลองการเปลี่ยนยางของรถ F1 กันว่าใครจะทำได้เร็วกว่าโดยจะมีอุปกรณ์คือปืนลม ให้ยิงน็อตล้อออกถอดยางเก่าเปลี่ยนยางใหม่ใส่เข้าไปแล้วใช้ปืนลมยิงน็อตเข้าไปให้แน่นใครทำได้เร็วกว่าถือว่าชนะ เล่นกันสนุกๆพอขำๆ ผลออกมาผมกับคุณโอทำได้ดีเกินคาดครับ เป็นผู้ชนะของกลุ่มครับ 555
สถานีสุดท้าย ไม่รู้ว่าเป็นธรรมเนียมของการทดสอบยางไปแล้วรึเปล่าว่าจะต้องมีการนั่ง HOT LAB ในสนาม โดยมีนักขับมืออาชีพขับให้นั่งวนรอบสนามโดยมีรถสองคันขับไล่กันสนุกไปอีกแบบ ใครไม่เคยมีโอกาสก็ไปลองนั่งดูนะครับว่านักขับมืออาชีพเขาขับกันยังไง
ทีนี้เรามาดูข้อมูลที่ได้ให้มาแล้วกันครับ ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 นั้น เป็นยางที่เกาะถนนเป็นเยี่ยม สามารถยึดเกาะได้ดีกว่าแม้ขับขี่บนทางโค้งที่เปียกลื่น และสามารถเบรกได้ระยะสั้นกว่ายางรุ่นก่อนถึง 1.1 เมตร ยางรุ่นใหม่นี้ยังสามารถให้การบังคับควบคุมที่แม่นยำสูงสุด เพื่อความสนุกและมั่นใจในทุกการขับขี่ ยางสมรรถนะสูงรุ่นใหม่นี้ให้ “สนุกขึ้นทุกเส้นทาง แม่นยำกว่าในทุกโค้ง” ยางรุ่นนี้ยังแตกต่างจากยางสปอร์ตทั่วๆ ไป ตรงที่สามารถพัฒนาคุณสมบัติในการประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วย มิชลินใช้เทคโนโลยี่ขั้นสูงสุดในการพัฒนารูปแบบและคุณภาพของยาง เช่น การใช้เนื้อยางพิเศษแบบ Sport Power Compound, the Anti Surf System และหน้ายางอัจฉริยะแบบแปรผัน (Programmed Distortion tire architecture) ซึ่งเทคโนโลยี่ทั้งหมดนี้ ได้รับการพัฒนาโดยศูนย์เทคโนโลยี่ของมิชลิน
ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 นั้นได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ดีขึ้น โดยคงไว้ซึ่งสมรรถนะด้านความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งประโยชน์ที่ได้จะไม่เพียงแต่สำหรับผู้ขับที่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะยางรุ่นนี้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อีกด้วย ในขณะเดียวกัน นอกจากการประหยัดพลังงานแล้ว ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 ยังมีอายุการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นอีกถึง 10% เมื่อเทียบกับยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต พีเอส 2 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยางที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดรุ่นหนึ่งในยางประเภทเดียวกัน** ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ช่วยลดการใช้วัตถุดิบ ซึ่งหมายความว่าเราสามารถผลิตยางในจำนวนที่น้อยลง แต่ยังได้ระยะทางการใช้งานเท่าเดิม ส่งผลให้มีจำนวนยางที่จะต้องถูกเปลี่ยนใหม่ และทิ้งไปในที่สุดน้อยลงเพื่อให้ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 รุ่นใหม่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้นบนถนนเปียกลื่น และมีความแม่นยำทุกการบังคับบนถนนแห้ง และอายุการใช้งานนานกว่า ทีมวิจัยและพัฒนาของมิชลินจึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่รวมความสุดยอดแห่งเทคโนโลยี่ทุกด้านไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านวัสดุ รูปทรง และโครงสร้างของยาง
อันดับแรก มิชลินได้พัฒนาสูตรเนื้อยางพิเศษ Sport Power Compound ซึ่งเป็นนวัตกรรมแรกในโลกที่สามารถรวมคุณสมบัติสามประการที่กล่าวมาแล้วได้ในหนึ่งเดียว ซึ่งเนื้อยางชนิดนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถเกาะถนนได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้บนสภาพถนนที่เปียกลื่น
ต่อมา มิชลินได้คิดค้นระบบ Anti Surf System ที่เพิ่มมุมโค้งบริเวณไหล่ยาง ซึ่งช่วยระบายน้ำออกด้านข้าง ได้มากยิ่งขึ้น ท้ายสุด มิชลินได้คิดค้น หน้ายางอัจฉริยะแบบแปรผัน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำในการบังคับ และยืดอายุการใช้งานของดอกยางในเวลาเดียวกัน
ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 นั้นมิชลินวางอยู่ไหนกลุ่มไหนตามรูปเลยครับ
สุดท้ายก่อนจากจะบอกว่าใครหายางสำหรับสมรรถนะสูงก็ไปลองดูกันตามร้านยาง โดย ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 จะวางจำหน่ายทั้งหมด 24 ขนาด ตั้งแต่ 15-19 นิ้ว ภายในปี 2553
ซีรี่ส์ ขนาด
35 255/35 ZR 18
265/35 ZR 18
275/35 ZR 18
40 245/40 ZR 17
225/40 ZR 18
235/40 ZR 18
245/40 ZR 18
245/40 ZR 19
45 205/45 ZR 17
215/45 ZR 17
225/45 ZR 17
235/45 ZR 17
245/45 ZR 17
225/45 ZR 18
50 195/50 R 15
205/50 ZR 16
225/50 ZR 16
205/50 ZR 17
215/50 ZR 17
55 185/55 R 15
195/55 R 15
205/55 ZR 16
215/55 ZR 16
225/55 ZR 16
คงจะจบเรื่องไว้เท่านี้ แล้วเราก็ไป”ขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดีกว่า”กับมิชลิน พบกันใหม่ครั้งหน้าครับ
########################################################################################เรื่อง เปรมศักดิ์ เพียรพานิชย์
ภาพ สารฑูล สักการเวช
มาสด้า เซลส์ ปร…
มูลนิธิกลุ่มอีซ…
“มหกรรมยานยนต์ …