หลังจากที่เคยได้บินข้ามประเทศ ไปร่วมกิจกรรม Michelin Pilot Sport Experience เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ที่ประเทศมาเลเซีย(http://www.caronline.net/ArticleDetail.aspx?ArticleID=782) ล่าสุด มิชลิน จัดกิจกรรมทดสอบยางหลากรุ่นทั้งทางเรียบและทางฝุ่น ณ สนาม โบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ที่เขาใหญ่ โดยใช้เต็มสนามความยาวประมาณ 2กิโลเมตร โดยแบ่งเป็นสถานีต่างๆ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับทดสอบยางออฟโรด ปิดท้ายด้วยการขับรถแข่งอย่างเจ้า Renault Clio เครื่องยนต์ 220 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 4 วินาที น้ำหนักรถ 1,000 กิโลกรัม ใส่ยาง มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 3 อีกด้วย
การทดสอบแรก เริ่มจากการประหยัดน้ำมันกันก่อนเลย ด้วยการทดสอบเรื่องการลดแรงต้านการหมุนของยาง มิชลิน ทั้งยางเก๋ง Primacy LC, ยางปิกอัพ Latitude Cross และยางเอสยูวี Latitude Tour HP เปรียบเทียบด้วยการใช้รถรุ่นเดียวกัน ใส่ยาง มิชลิน และยางยี่ห้ออื่น จากนั้นปล่อยให้รถไหลลงเนินโดยไม่สตาร์ทเครื่องยนต์และไม่เหยียบเบรก ปล่อยให้รถหยุดนิ่งไปเอง รถรุ่นเดียวกัน น้ำหนักเท่ากัน เติมลมยางเท่ากัน พบว่ารถที่ใส่ยางมิชลินทั้งสามรุ่น สามารถที่จะไหลไปได้ไกลกว่าก่อนที่จะหยุด แสดงถึงประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานได้ดีกว่านั่นเอง
การทดสอบที่สอง เป็นการทดสอบกับรถเก๋ง ที่ใส่ยาง Michelin รุ่น Primacy LC และรถประเภท SUV ที่ใส่ยาง Michelin รุ่น Latitude Tour HP โดยทำการวิ่งแบบเต็มๆสนาม ความยาวของสนามประมาณ 2กิโลเมตร โดยมีสถานีทดสอบต่างๆที่ในสนามนั้น ถูกสร้างสถานการณ์ไว้ต่างๆกัน ได้แก่ โค้งแห้ง และโค้งเปียกที่ราดน้ำไว้พอประมาณ เพื่อดูประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง พื้นทางที่ไม่เรียบโดยมีการเอาเชือกมากันในแนวขวาง เพื่อทดสอบเรื่องเสียง และสุดท้ายระยะเบรกบนพื้นทางที่เปียกเปียก
สำหรับ Primarcy LC นั้นเป็นยางที่ออกจะมีนิสัยที่นุ่มนวล เกาะถนน ทั้งตอนเปียกและตอนแห้งได้ดีอยู่แล้ว แต่ด้วยแก้มยางที่สูง จึงทำให้เกิดการให้ตัวของยางได้มากเวลาเขาโค้งแรงๆ แต่ก็ยังควบคุมได้ดีอยู่ เช่นเดียวกับยาง suv อย่าง Latitude Tour HP ก็ทำได้ดีกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควรตามความรู้สึก แต่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คงจะเป็นตัวเลขที่ได้จากวัดระยะเบรกในถนนเปียกนั่นเอง
การทดสอบที่สาม หรือ Latitude Cross Experience อันนี้อย่าเรียกว่าเป็นการทดสอบเลยครับ เพราะไม่ได้มีการเปรียบเทียบกับยางอื่นๆแต่จะให้สื่อมวลชนได้สนุกสนาน ในการขับรถกระบะแข่งขันกัน ในรูปแบบคล้ายๆกับสนาม Gymkhana แต่จะใช้การขับขี่บนทางฝุ่นผสมหญ้าเล็กน้อยแทน โดยจะเรียกว่า Grasskhana เพื่อจับเวลาหาอันดับกัน และจะมีด่านที่ให้นำรถขึ้นไปทรงตัวบนไม้กระดกว่าได้ระยะเวลาเท่าไหร่ แล้วเอาไปลบออกจากเวลาที่วิ่งได้ ก็จะได้ผู้ที่ทำเวลาได้ดีที่สุด โดยจะแบ่งเป็นประเภทด้วยกันคือ ขับเคลื่อนสองล้อ และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนยางที่ใช้นั่นก็คือ Michelin Latitude Cross ครับ นานๆจะได้ขับกันแบบนี้สักที ก็สนุกดีครับ
การทดสอบสุดท้าย หรือ Sport Experience การทดสอบที่ไม่ได้เป็นการทดสอบจริงๆอีกนั่นแหละครับ แต่จะเป็นช่วงเวลาของความสนุกและเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมากๆครั้งหนึ่งของหลายๆคน ส่วนของผมนั้น ครั้งที่สองแล้วครับกับยาง Michelin Pilot Sport 3 ในรถแข่งจริงๆตัวเป็นๆ ในสนามแข่ง กับชุดที่ใครใส่ผมก็ว่าหล่อนะครับสำหรับชุดแข่งที่ทางมิชลินจัดเอาไว้ให้
รถแข่งจริงๆที่ว่านั้นก็คือเจ้า Renault Clio ที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตากันมาแล้วที่ สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย ไหนๆก็มาแล้ว มาดูสเป๊กของเจ้าตัวนี้กันครับ น้ำหนักรถ 1,000 กิโลกรัม มีแรงม้าทั้งหมด 220 แรงม้า ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 220 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-100 ภายใน 4 วินาทีครับ ที่จะแตกต่างจากรถที่เราๆขับนั้นก็คือระบบเกียร์ครับ เพราะเป็นเกียร์แบบ Sequential gear box (dog type) 6 Speed หรือบางคนอยากจะเรียกว่าเกียร์ DogBox นั่นเองครับ โดยจะได้ขับคนละแค่ประมาณ 3 รอบสนามเองครับ กำลังมันเลย ไว้คราวหน้า หากได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมดีๆอย่างนี้อีก แล้วจะมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งนะครับ
******************************************************************************
สารฑูล สักการเวช
sarathun@caronline.net
นายศุภกร รัตนวร…