ปัจจุบันตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจากการที่มีแบรนด์รถยนต์ค่ายต่างๆ ทยอยนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ เอ็มจี แบรนด์รถยนต์ที่เข้ามานำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ให้กับประเทศไทย และเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ผู้บริโภคชาวไทย ได้รู้จักและเข้าถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้จริง โดยเอ็มจีนำเสนอรถยนต์ในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 2 รุ่น คือ รถเอสยูวีไฟฟ้า MG ZS EV และล่าสุดคือรถประเภทสเตชั่นแวกอน MG EP
จากความสำเร็จของ MG ZS EV ที่เข้ามาทำตลาดทำให้ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
เอ็มจีจึงตัดสินใจเปิดตัว MG EP โดยตอกย้ำแนวคิดที่ว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของผู้บริโภค ชาวไทยอีกต่อไป และต้องการนำเสนอรถยนต์พลังงานทางเลือกที่ตอบโจทย์ของผู้บริโภคอย่างครบถ้วนทั้งเรื่องของระยะทางการขับขี่ ความประหยัด สมรรถนะ ฟังก์ชั่น พื้นที่ใช้สอย รวมไปถึงราคาที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับสิ่งที่ผู้บริโภคได้รับในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท
ความโดดเด่นของ MG EP รถยนต์สเตชั่นแวกอนพลังงานไฟฟ้า เอ็มจี ได้สรุปองค์ประกอบหลัก 4 ส่วน
ที่ทำให้รู้ว่ารถยนต์รุ่นนี้เหมาะสมกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน สามารถรองรับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย และเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับผู้บริโภคที่สนใจในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่นในด้าน มิติตัวถังและพื้นที่การใช้งาน (Dimension) ขนาดใหญ่และภายในกว้างขวางสามารถบรรทุกได้ทั้งคนและของ ได้อย่างเต็มความสามารถ กับจุดเด่นของการเป็นรถประเภทสเตชั่นแวกอน ที่มีพื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,456 ลิตร ในด้านความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัย (Convenience & Safety) ที่นอกจากจะไม่ถูกลดทอนในเรื่องของฟังก์ชั่น
และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ยังเพิ่มเติมในเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งรูปแบบ Active
และ Passive Safety รวมไปถึง สมรรถนะของ EV ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ (EV Performance) ชูจุดเด่นของการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า กับแรงบิดสูงสุดที่มาตั้งแต่ต้น ทำให้เร่งได้แบบทันใจ ไม่ต้องรอรอบ สามารถทำอัตราเร่ง
0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาไม่ถึง 8 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร
ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตัดปัญหาความกังวลเรื่องระยะทางการขับขี่ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
และอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ MG EP ก็คือ ให้ความประหยัด (Low cost of ownership) ในราคาจำหน่ายอยู่ที่ 988,000 บาท และทำให้ผู้ใช้งานประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น ในยุคที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นแบบไม่หยุดหย่อน ด้วยการที่ MG EP
เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน จึงมีค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟฟ้าตั้งแต่ 0-100% เฉลี่ยเพียง 200 บาท หรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 บาท ต่อกิโลเมตร จึงทำให้ประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมัน กว่า 2-3 เท่า และในเรื่องของการดูแลรักษา
ที่ผู้บริโภคบางส่วนยังมีความกังวล เอ็มจีก็ได้เผยค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร
อยู่ที่ประมาณ 7,828 บาทเท่านั้น นอกจากจุดเด่นที่กล่าวมาข้างต้น MG EP ยังถือเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่มีมาตรฐานระดับสากล ที่วางจำหน่ายในประเทศโซนยุโรปหลายประเทศ
ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป จะไปที่ไหน ไกล–ใกล้ ก็วางใจได้ เพราะเอ็มจี คิดมาให้ครบ
ปัจจุบันมีผู้ที่ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเอ็มจีกว่า 2,600 คัน และเอ็มจีก็ครองส่วนแบ่งทางการของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าถึง 90% และเพื่อให้ผู้บริโภคใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้แบบไร้กังวล ตอบโจทย์ทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นขับขี่ในเมือง หรือขับขี่ออกไปต่างจังหวัดในสถานที่ไกลๆ เอ็มจีจึงได้ลงทุนสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าหรือเรียกง่ายๆ
ในชื่อ MG Super Charge ที่รองรับจากชาร์จแบบกระแสตรงหรือ DC Charge ซึ่งหากอ้างอิงในรุ่น MG EP ที่สามารถรองรับการชาร์จกระแสไฟได้สูงสุด 50 kW จะทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ตั้งแต่ 0-80% ได้ภายในระยะเวลาเฉลี่ยเพียง 40 นาที เท่านั้น โดย MG Super Charge มีการติดตั้งไปแล้วกว่า 115 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนที่จะขยายสถานีเพิ่มเติม ร่วมกับ บางจาก อีกกว่า 50 แห่งภายในปีนี้ นอกจากนี้ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเอ็มจีมีการติดตั้งหัวชาร์จแบบ Type II สำหรับการชาร์จแบบ AC Charge และหัวชาร์จแบบ CCS สำหรับการชาร์จไฟเร็ว หรือ DC Charge ทั้งรุ่น MG ZS EV และ MG EP จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถไปชาร์จไฟฟ้าที่สถานีบริการอื่นๆ นอกจาก MG Super Charge ได้ เพื่อความสะดวกสบายและตัวเลือกที่หลากหลายตอบโจทย์ในทุกสถานการณ์ของผู้บริโภค โดยปัจจุบันมีสถานีชาร์จรวมทั่วประเทศแล้วกว่า 800 แห่งทั้งของจากภาครัฐและภาคเอกชน
ชาร์จไฟที่ MG Super Charge ง่ายๆ พร้อมประหยัดเข้าไปอีก กับ โปรสุดคุ้ม
นอกจากการชาร์จไฟง่ายๆ ได้ที่บ้าน ผ่าน MG Home Charger แล้ว ยังสามารถชาร์จผ่านสถานีชาร์จ MG Super Chargeที่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ประหยัดเวลาและสร้างความสะดวกสบายในวันที่จำเป็นต้องขับขี่รถด้วยระยะทางที่ไกลกว่าปกติ โดยวิธีการชาร์จก็สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น i-SMART
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…