State-of-the-art manufacturing technologies will be used to produce new Mazda2 and Ford
Fiesta for domestic and export markets
RAYONG, Thailand – July 13, 2009 – Ford Motor Company and Mazda Motor Corporation
today celebrated the official opening of a new US$500 million passenger car plant at their
joint-venture manufacturing facility, AutoAlliance Thailand (AAT). The inauguration represents the culmination of an additional investment and expansion program of this global
manufacturing hub, which was announced in 2007.
To celebrate the new plant’s opening, Thailand’s Crown Princess, HRH Maha Chakri
Sirindhorn, was joined by U.S. Ambassador, Eric John, Japan Ambassador, Kyoji Komachi,
and senior executives from Ford, Mazda and AAT in a formal ceremony at the new state-ofthe-art facility in Rayong’s Eastern Seaboard Industrial Estate.
The completed expansion increases the total annual production capacity at AAT to 275,000
units. The new passenger car facility will produce the Mazda2 and Ford Fiesta compact cars
for sale in Thailand, and export throughout the ASEAN region, as well as Australia, New
Zealand and South Africa. AAT already exports Ford and Mazda pickup trucks to more than
130 markets around the world.
“The completion of this investment underscores the significance of AAT for our regional
operations and its strategic role as a global manufacturing and export hub,” said David Alden, president, Ford ASEAN. “The ASEAN region is a critical component of our overall growth strategy in Asia, and the further diversification of products manufactured at AAT will be a fundamental driver of this growth.”
The completion of this new investment increases Ford and Mazda’s total joint investment in
the vast AAT facility to more than US$1.5 billion since 1995.
“The new passenger car plant at AutoAlliance Thailand will play an important role as a
production base in Mazda’s global strategy. The new plant employs the industry’s latest
flexible manufacturing technologies, ensuring world-class quality, safety and environmental
friendliness,” said Masaharu Yamaki, executive vice president, Mazda Motor Corporation.
“AAT continues to be a global success story in terms of the superb cooperation between
Mazda, Ford and AAT employees who constantly strive to achieve a shared vision of success. I have every confidence this teamwork will enable us to overcome the current market challenges and lead us to further business growth,” added Yamaki.
The new highly-flexible passenger car plant utilizes the latest auto manufacturing technologies, automated systems and process, and includes a new stamping line and body shop, trim and final process area. Warehouse storage has also been expanded to handle the increased production volume and a new cafeteria has been built.
The completed paint shop can now accommodate both pickup trucks and passenger cars, and uses the world-class and environmentally-friendly Three Layer Wet Paint System, which
dramatically reduces VOC and CO2 emissions and waste, and improves painting quality.
“The completion of the new AAT passenger car plant represents a tremendous achievement
that is shared by all of our stakeholders – Ford, Mazda, the Thai government, and in particular, the Board of Investment, our suppliers, and certainly our dedicated AAT employees,” said Kiyotaka Shobuda, president of AutoAlliance Thailand.
AAT is already one of the largest and most modern automotive manufacturing facilities in
Southeast Asia, and has helped set standards for auto manufacturing in the ASEAN region
through an ongoing commitment to world-class quality, standards and procedures.
“The world-class passenger cars we’ll produce will further solidify AAT’s continued role in both Ford and Mazda’s global strategy, and supports the further expansion and growth of
Thailand’s auto industry and its leading role in the ASEAN region as a global automotive production hub,” added Shobuda.
Ford Motor Company
Ford Motor Company, a global automotive industry leader based in Dearborn, Mich., manufactures or
distributes automobiles across six continents. With about 205,000 employees and about 90 plants
worldwide, the company’s wholly owned brands include Ford, Lincoln, Mercury and Volvo. The
company provides financial services through Ford Motor Credit Company. For more information
regarding Ford’s products, please visit www.ford.com.
Mazda Motor Corporation
Established in 1920, Mazda Motor Corporation is headquartered in Hiroshima, Japan. Mazda is a global company supported by a following of admiring customers in more than 140 countries. Mazda’s
international success is also founded on a global production network comprising two main plants in
Japan and 14 overseas facilities. For more information about Mazda, please visit www.mazda.com
AutoAlliance Thailand
AutoAlliance Thailand Co., Ltd. (AAT) was established in November 1995 as a joint venture between
Mazda Motor Corporation and Ford Motor Company to produce vehicles for both domestic and
international export markets. Ford Motor Company and Mazda Motor Corporation are equal equity
partners in this jointly managed facility.
———————————-
ฟอร์ด-มาสด้าเปิดโรงงานผลิตรถยนต์นั่งแห่งใหม่
มูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาทที่เอเอที จ.ระยอง
ประกาศพร้อมเปิดสายการผลิตเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อผลิตมาสด้า2 และฟอร์ด เฟียสต้า
ป้อนตลาดในประเทศและส่งออก
จังหวัดระยอง, ประเทศไทย – 13 กรกฎาคม 2552 – ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า คอร์ปอเรชั่นฉลองเปิดโรงงานผลิตรถยนต์นั่งของฟอร์ดและมาสด้าแห่งใหม่มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า17,000 ล้านบาทอย่างเป็นทางการที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือ เอเอที จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างฟอร์ดและมาสด้า การเปิดโรงงานแห่งใหม่เป็นผลสำเร็จจากการขยายการลงทุนในศูนย์การผลิตรถยนต์ระดับโลกของสองบริษัทยานยนต์ชั้นนำของโลกซึ่งได้ประกาศโครงการลงทุนนี้เมื่อปี 2550
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีเปิดโรงงงานรถยนต์นั่งเอเอที โดยมี ฯพณฯ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายเอริค จี.จอห์น ฯพณฯ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายเคียวจิ โคะมะจิ รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงของฟอร์ด มาสด้า และเอเอที ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการ ณ โรงงานเอเอที ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง
โรงงานรถยนต์นั่งแห่งใหม่ที่เสร็จสมบูรณ์นี้ จะเพิ่มการผลิตรถยนต์ของเอเอทีเป็น 275,000 คันต่อปี โรงงานนี้จะผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาสด้า2 และฟอร์ด เฟียสต้า เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และแอฟริกาใต้ ปัจจุบัน เอเอทีผลิตรถกระบะฟอร์ดและมาสด้าเพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังกว่า 130 ประเทศทั่วโลก
นายเดวิด อัลเดน ประธานฟอร์ด อาเซียน เปิดเผยว่า “การลงทุนก่อสร้างโรงงานเอเอทีแห่งใหม่ที่เสร็จ
สมบูรณ์ ตอกย้ำถึงความสำคัญของเอเอทีต่อการดำเนินงานของเราในภูมิภาคนี้ และมีบทบาทเชิงกลยุทธ์
ที่สำคัญในฐานะศูนย์กลางการผลิตและส่งออกระดับโลก ทั้งนี้ ภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดที่มีความสำคัญ
ต่อกลยุทธ์การเติบโตของฟอร์ดในเอเชีย การที่เอเอทีสามารถผลิตรถได้หลากหลายประเภทมากขึ้น
จะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโตของธุรกิจของเรา”
การลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานเอเอทีนี้ ทำให้มูลค่าการลงทุนรวมของฟอร์ดและมาสด้านับตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา มีมูลค่ารวมถึงกว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 51,000 ล้านบาท
นายมาซาฮารุ ยามากิ รองประธานบริหาร มาสด้า คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “โรงงานผลิตรถยนต์นั่งแห่งใหม่ของเอเอทีจะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญตามกลยุทธ์การขยายธุรกิจของมาสด้าทั่วโลก โรงงานแห่งนี้จะใช้
เทคโนโลยีการผลิตที่มีความยืดหยุ่นสูงที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งจะทำให้เราสามารถผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพระดับ
โลก และโดดเด่นด้วยมาตฐานความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
“โรงงานเอเอทีเป็นตัวอย่างที่สำคัญของความสำเร็จ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างพนักงานมาสด้า ฟอร์ด
และเอเอทีที่ได้ทุ่มเทเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ผมมั่นใจว่าการทำงานร่วมกันเป็นทีมที่แข็งแกร่งจะทำให้เราฝ่าฟันอุปสรรคความท้าทายต่างๆ และนำพาเราไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจได้ต่อไป” นายยามากิกล่าว
เสริม
โรงงานแห่งใหม่นี้ติดตั้งระบบการผลิตรถยนต์นั่งที่มีความยืดหยุ่นสูงโดยใช้เทคโนโลยีที่มีระบบและ
กระบวนการผลิตรถยนต์อัตโนมัติ รวมถึงมีสายการขึ้นรูปตัวถัง การประกอบรถยนต์ขั้นสุดท้าย รวมทั้งการ
เพิ่มพื้นที่คลังอะไหล่เพื่อรองรับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนมีการก่อสร้างห้องอาหารใหมสำหรับพนักงานอีกด้วย
โรงพ่นสีที่เสร็จสมบูรณ์จะสามารถรองรับการพ่นสีได้ทั้งรถกระบะและรถยนต์นั่ง ด้วยเทคโนโลยีการพ่นสีแบบซ้อนทับ 3 ชั้นแล้วอบสีเพียงครั้งเดียว (Three Layer Wet Paint System) ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีคุณภาพระดับโลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถลดปริมาณสารอินทรีย์ไอระเหยและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมทั้งของเสียจากการผลิตได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็ให้คุณภาพสีที่ดียิ่งขึ้นด้วย
นายคิโยทากะ โชบุดะ ประธานบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความสำเร็จ
ของโรงงานผลิตรถยนต์นั่งแห่งใหม่ของเอเอที คือความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ไม่ว่าจะเป็นฟอร์ด มาสด้า รัฐบาลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และพนักงานของเอเอทีที่ทุ่มเททุกคน”
เอเอทีเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตรถยนต์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพระดับโลกในภูมิภาคอาเซียน ด้วยความมุ่งมั่น
ที่จะผลิตรถยนต์ระดับโลกที่เป็นเลิศทั้งคุณภาพ มาตรฐาน และกระบวนการผลิต
“รถยนต์นั่งคุณภาพระดับโลกที่เราจะผลิตขึ้นนี้ จะยิ่งตอกย้ำบทบาทสำคัญของเอเอทีทั้งต่อกลยุทธ์ระดับโลกของฟอร์ดและมาสด้า การสนับสนุนการขยายตัวและความเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยรวมทั้งความสำคัญของเอเอทีในภูมิภาคอาเซียนในฐานะศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของโลกในภูมิภาค
อาเซียน” นายโชบุดะกล่าวสรุป
ตามรายงานข่าว ทราบว่า AAT จะผลิตรถยนต์มาสด้า 2 ออกมาพร้อมสำหรับส่งออกสู่ตลาดในราวเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ และสำหรับฟอร์ด ฟีเอสต้า จะพร้อมส่งมอบในเดือนเมษายน พ.ศ.2553 หรือ ค.ศ.2010 เป็นต้นไป
ราคาของรถยนต์ทั้งสองยี่ห้อและสองรุ่น จะอยู่ในระดับไล่เลี่ยกับคู่แข่ง อันได้แก่โตโยต้า ยาริส และฮอนด้า แจส
ส่วนการตลาดของมาสด้า และฟอร์ด จะแยกกันดำเนินการโดยเด็ดขาด ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกัน
หมายเหตุ:
ฟอร์ดและมาสด้าได้ประกาศร่วมกันเมื่อปี 2538 ที่จะให้ประเทศไทยเป็นฐานใหญ่ในการลงทุนของทั้งสองบริษัท เพื่อ
สนับสนุนการขยายธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งได้เริ่มก่อสร้างโรงงานเอเอทีเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต
รถยนต์เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หลังจากได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในปีเดียวกัน เอเอทีก็ได้ลงทุนกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 17,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย โรงงานเอเอทีประกอบด้วยขั้นตอนการผลิตต่างๆ ตั้งแต่ การขึ้นรูปรถยนต์ การประกอบตัวถัง การพ่นสี การประกอบเครื่องยนต์ การประกอบรถยนต์ขั้นสุดท้าย นอกจากนี้ยังมีบริเวณบรรจุชิ้นส่วนรถยนต์ (CKD) โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 529 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ในจังหวัดระยอง
นอกจากความสำเร็จด้านการผลิตแล้ว เอเอทีและพนักงานของบริษัท ยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนรอบๆ โรงงาน จัด
กิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ อาทิ การบริจาคและสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนการศึกษา การร่วมเป็นอาสาสมัครใน
กิจกรรมบรรเทาสาธารณภัย และกิจกรรมรักษาสิ่งแวดล้อม
# # #
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
ฟอร์ด มอเตอร์คัมปะนี เป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเดียร์บอร์น มลรัฐมิชิแกนประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใน 6 ทวีปทั่วโลก มีพนักงานประมาณ 205,000 คน และมีโรงงานประมาณ 90 แห่งทั่วโลก บริษัทฯ มีรถยนต์แบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่รู้จักมากมาย ได้แก่ ฟอร์ด ลินคอล์น เมอร์คิวรี และวอลโว่นอกจากนี้ ยังให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด ได้ที่ www.ford.com
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2463 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น มาสด้า
เป็นบริษัทระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้าในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ รวมทั้งมีเครือข่ายการผลิตทั่วโลก ซึ่งได้แก่โรงงานผลิตหลัก 2 แห่งในประเทศญี่ปุ่น และโรงงานผลิตอื่น อีก 14 แห่งทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาสด้าได้ที่ www.media.mazda.com
บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอเอที ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2538 โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ดำเนินธุรกิจการผลิตยานยนต์เพื่อป้อนตลาดภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้ลงทุนในสัดส่วนเท่าๆ กันในศูนย์การผลิตแห่งนี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอเอทีได้ที่ www.autoalliance.co.th
——————————————
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…