ผมเดินทางไปงาน เอ๊ะ ช กระเชยหายไปไหนหว่า เมื่อกี้ก็เห็นอยู่หลัดหลัด อ้อ เจอแล้ว ไปงานฌาปนกิจ พลตรี สุทัศน์ สักการะเวช ลูกชายของคุณป้าแท้แท้ผม ก็ต้องเป็นพี่ผมแน่นอนอยู่แล้ว ด้วยว่าอายุก็มากกว่าผมถึงสิบปี ที่เชียงใหม่ วันที่ 6 กรกฏาคมศกนี้
ไปด้วยเที่ยวบิน DD8306 ออกเวลา 09:05 กำหนดถึง 10:15 ผมออกเดินทางจากบ้านสวนสยาม เวลา 07:15 วกลงไปวงแหวนตะวันออก ผ่านด่านทับช้าง เข้ามอเตอร์เวย์
มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนศรีรัช พอถึงต้นทางด่วน การจราจรก็ติดขัดทันทีครับ ผมกะเอาเองว่า ถ้าไปถึงดินแดงได้ในเวลา 08:00 ก็ทันถมเถไปละน่า
แล้วก็ปรากฏว่า ไปถึงดินแดงประมาณ 07:50 ครับ ก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อทาง 1318 กด 4 ต่อไปขอเช็กอินล่วงหน้าก่อนเลย ก็สำเร็จเสร็จสมอารมณ์หมาย
ไปถึงสนามบิน จอดรถในลานจอดของผู้โดยสารในประเทศได้ เวลา 08:10 พอดี ก็คว้าเสื้อนอกกับไทท์ดำ ติดมือลงจากรถ ไม่ได้ลืมล็อกหรอก แต่คงไม่ต้องบอกนะว่าล็อกแล้ว
เข้าไปในสนาม มองหาห้องจำหน่ายบัตรนกแอร์ ก็เข้าไปแล้วยื่นเอกสารประจำตัว ของผมกับภริยา และบอกเลขที่การจอง ก็ได้รับแผ่นใบเสร็จชำระเงินฟูดแลนด์มาสองชุด
ไปได้แล้วครับ เครื่องออกที่ประตูหมายเลข 67 ไกลลิบโลกเลยละ
เครื่องออกตรงเวลาครับ ปู่สีหพันธ์
น้องนกเอาแซนด์วิสกับกาแฟมาเสริฟให้ถึงตักเลยทีเดียว
อ้าว ก็ผมกางโต๊ะออกบนตักไม่ใช่หรือ จะบอกว่าอย่างไรล่ะ ไม่ได้เสริฟถึงตักหรือนั่น ไม่ได้น่า คนเราต้องพูดความจริงกันจริงไหม พี่เลจาย
เครื่องลงที่เชียงใหม่ก็ตามเวลาครับ เผอิญผมไม่ได้ดูเวลาเสียด้วย ถือว่าตามก็แล้วกัน เทียบงวง เดินเข้าไปแล้วลงข้างล่าง ออกประตูเลย เป็นคู่แรก เพราะไม่ต้องเอากระเป๋า
เจอคนมาถือป้ายรับ ก็เข้าไปแสดงตัว เขาให้ไปรอข้างนอกตัวเขาเองไปเอารถมารับผมกับภริยา เพื่อเดินทางไปวัดพระสิงห์
ผมก็เดินไปผูกไทท์ไป ถึงข้างนอกก็รอนิดเดียว รถตู้หลังคาสูง ติดต่อเช่าจากนอร์ทวีล ก็มารับ
ไม่นานก็ไปถึงวัดพระสิงห์ กำลังงงดูศาลาว่าศาลาไหน แต่เห็นมีศาลาหนึ่งที่มีทหารเต็มไปหมด คงที่นั่นแหละใช่แล้ว
เพราะพี่ชายผมเป็นทหารระดับนายพลท่านเดียว ของค่ายกาวิละ ที่มีพื้นเพอยู่เชียงใหม่ และเพิ่งถึงแก่กรรม ทางกองพลที่ 3 หรือค่ายกาวิละจึงจัดส่งทหารมาช่วยงานเต็มที่
เข้าไปนั่งฟังพระสวด กับญาติพี่น้องอยู่จนเพล พระลงไปฉันเพล เสร็จแล้วพวกเราก็รับประทานอาหารกัน จากนั้นก็เคลื่อนศพไปที่สุสานหายยา ออกทางประตูผี เขาเรียกภาษาดีดีว่าประตูอะไรผมจำไม่ได้
คือในเมืองเชียงใหม่ ไม่มีการเผาศพกัน ต้องไปเผานอกเมืองครับ
ไปถึงสุสานหายยา มีกองทหารเกียรติยศมาตั้งแถว รอรับ และแตรวงทหารเตรียมบรรเลงเพลง
มีทหารชั้นผู้ใหญ่ จปร. รุ่น 6 ระดับพลเอก มากันหลายท่าน
ตั้งศพเรียบร้อยก็มีการทอดผ้าบังสุกุลกันอีกครั้ง สำหรับมิตรสหายอาวุโสของพี่ ส่วนพวกผมนั่น ทอดไปแล้วที่ตอนตั้งศพอยู่ที่วัดพระสิงห์
เสร็จแล้วก็มีทหารกองพิธีการของวัง อัญเชิญกล่องไฟพระราชทาน ไม่ได้มาเป็นไฟหลวงอย่างที่เราเห็นในกรุงเทพฯนะครับ มาเป็นกล่องไฟ ผมไม่ทันเห็นชัดเจนนัก แต่ห่อผ้าโปร่งมา
จำได้ว่ามีท่านพลเอกสีมา อดีตรองผู้บัญชาการทหารบกมาเป็นประธานจุดกล่องไฟพระราชทานเพลิงศพ และตอนนั้น มีการเป่าแตรนอนสองจบ
นายทหารนอกราชการอีกท่านหนึ่ง บ่นให้พวกผมแอบได้ยินว่า แหม อยากถูกย้ายมาอยู่ที่นี่ แล้วตายที่นี่เลย จะได้มีงานใหญ่โตอย่างนี้บ้าง
แฮะ แฮะ ท่านครับ พี่ผมเป็นเขยเชียงใหม่ และอยู่ประจำที่ค่ายนี้มาเกือบสามสิบปีครับ
ได้ยศนายพล ก็เพราะบิ๊กเสือนั่นเอง หาไม่ ก็คงดองเค็มเป็นพันเอกพิเศษอยู่นั่นแล้ว
นายทหารหน่วยรบ ผ่าถูกย้ายไปเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีอยู่ได้ ตั้งหลายปี
ขนาดเป็นพลตรี เสนาธิการค่าย ยังต้องเป็นอยู่ได้ตั้งเจ็ดแปดปี
เพื่อนผมเอง เป็นพลตรีปีเดียว ก็เป็นพลโท อีกสองปีต่อมา ปัจจุบันเป็นพลเอกไปแล้ว เฮ้ออออ!!
จากนั้นก็เป็นการวางดอกไม้จันทน์ของญาติมิตร พวกผมขึ้นไปเป็นกลุ่มสุดท้าย ให้เกียรติแขกผู้ใหญ่และผู้ที่นับถือก่อน
จนเผาจริง ถึงได้ทราบว่า ที่จิตตระการอันเป็นเมรุที่สองนั้น เขาวางศพไว้ข้างบน พอเวลาเผาจริง จะลดศพลงด้วยลิฟท์ สู่ด้านล่างใต้พื้นเมรุ เพื่อเผากันข้างใต้
ตอนแรก ก็มองหากันวุ่นวาย ว่าจะเผาอย่างไร หรือจะต้องย้ายอีกที ทันสมัยดีจริง
พอเผาจริงเสร็จ พวกผมก็ร่ำลาพี่สะใภ้ หรือพี่นาย ที่เป็นอาจารย์อยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลับกรุงเทพฯ
โดยผมยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมง ก็ชวนพี่สาว กับพี่ชายอีกท่านหนึ่ง ที่จะกลับรถไฟเที่ยว 17:55 ไปรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารจีน ที่คุณยุ่งชะมัดฯแนะนำไว้
รับประทานอาหารกันจนใกล้ห้าโมง ก็เอาตัวพี่สาวสามท่านไปส่งขึ้นรถไฟ
พี่ชายอีกคนหนึ่ง ไปรถทัวร์ เพราะไปแค่ลำปาง คนนี้เอาพระสมเด็จมาอวดผม ผมเลยหักคอ ขอเช่ามาด้วยราคาญาติมิตรเสียเลย เสร็จผม ไปคราวนี้ โชคดีมาก
แล้วผมก็ไปตลาด ซื้อของกิน เอากลับมากรุงเทพฯ จากนั้น ก็ให้รถไปส่งที่สนามบิน เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะไปไหน กลับมาที่สนามบินดีกว่า
เช็กอินเสร็จ ก็ขึ้นไปนั่งในภัตตาคารการบินไทย ง่ายดี สบายดีด้วย
เครื่องบินนกแอร์ มาถึงตามเวลา ขึ้นเครื่องบินตามเวลา
แต่ออกก่อนเวลา 10 นาทีครับ ปู่สีห์ เพราะไม่มีใครให้รอแล้วนี่ ไปก่อนก็ได้ ดีเสียอีก จะได้บินสบายสบาย
เปล่าครับ กัปตันท่านประกาศหลังขึ้นถึงระดับเพดานบินแล้ว ว่าจะถึงกรุงเทพฯเวลาประมาณ 22:40
เร็วกว่ากำหนดอีกมากทีเดียว
ผมก็ว่าดีเหมือนกันแฮะ ออกไปจะได้จัดรายการได้เองเลย โดยโทรศัพท์เข้าไปจากในรถก็ได้
ตอนลดระดับจะลงสู่สนามบิน ผมดูเวลา เป็น 22:33
แต่ภายในสองสามนาทีนั้นเอง ก็รู้สึกว่า การลดระดับนานเหลือเกิน ล้อก็ยังไม่กาง แถมเครื่องบินมีเอียงนิดนิดทางด้านซ้าย
เอาแล้วไง เจอ 360 เข้าให้แล้ว
แล้วก็จริงครับ เจอ 360 เข้าไปราวสามรอบเห็นจะได้ อยู่เหนือทุ่งรังสิตนั่นแหละ กัปตันก็อุตส่าห์เลี้ยวอย่างนิ่มนวล วงกว้างมากมาก แบบไม่อยากให้ผู้โดยสารรู้สึกละกระมัง
มาลงได้เอาตอน 22:55 ครับผม
เร็วนะเร็วหรอกปู่สีหพันธุ์ แต่เสียดายน้ำมันที่กัปตันเร่งบินมาหมายจะให้ผู้โดยสารถึงบ้านเร็ว แต่ดอนเมืองกลับจับให้บินวนเล่นเสียอย่างนั้นแหละ
ขอบคุณครับ สำหรับบริการที่ดี ของชาวนกแอร์ทุกท่าน ไม่มีอะไรน่าบ่นแม้แต่อย่างเดียว
————————