Car Review By Real User รีวิวรถยนต์จากผู้ใช้รถยนต์จริง มิตซูบิชิไทรทัน ดับเบิ้ลแคป โดย: คุณชาญวิทย์ ทรัพย์สุทธิ
Car Review By Real User รีวิวรถยนต์จากผู้ใช้รถยนต์จริง มิตซูบิชิไทรทัน ดับเบิ้ลแคป
ท่านผุ้อ่านได้อ่านเจ้าไทรทัน คันนี้ เกี่ยวกับ รูปลักษณ์ ภายนอก ภายใน กันมาพอสมควรแล้ว ในตอนที่ 1 http://www.caronline.net/ArticleDetail.aspx?ArticleID=848 ตอนที่ 2 นี้ ผมจะว่ากันถึงสมรรถนะกันบ้าง
ตามที่เขียนไว้ในตอนที่ 1 ไปแล้ว ว่า ไทรทัน ดับเบิ้ลแคป 4X2 ตัวนี้ เป็นเครื่อง 2,500 ซีซี . กำลังสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 247 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ซึ่งคันนี้นั้น เป็นรถปี 2006 ขณะนี้มีการปรับโฉมหน้าตากันไปแล้ว โดยสเปคเครื่องยนต์ยังคงเดิม เครื่องยนต์ มีเวอร์ชั่น ECU ให้เล่นกัน หลายเวอร์ชั่น แล้วแต่ลูกค้าพึงพอใจ สามารถนำรถมาทำการอัพเกรด เวอร์ชั่น ECU ได้ตามต้องการ ตอนที่ใช้อยู่ ใช้เวอร์ชั่นที่ 7 แล้ว สำหรับการอัพเกรด ECU แต่เหมือนกับยังไม่มีความลงตัว ที่ชัดเจน ในความต้องการของลูกค้า จะรู้สึกว่า ประหยัดน้ำมันขึ้นบ้างแต่ก็ทำให้เสียงเครื่องยนต์ดังจนสะท้าน หรือถ้าเอาเงียบ กลับกลายเป็นกินน้ำมันขึ้นอย่างผิดตาอีก ผมจึงสรุปเรื่องนี้ว่า ทาง มิตซูบิชิ ยังไม่มีความลงตัว สำหรับ ตัวเครื่องยนต์ 116 แรงม้า ตัวนี้ และยัง ไม่สร้างความประทับใจลูกค้ามากเท่าไหร่นัก
เครื่องตัวนี้ กับเกียร์ 5 สปีด แบบธรรมดา ถ้าวิ่งตัวเปล่า ถือว่าทันใจพอสมควร ออกตัวลากเกียร์ได้ และสามารถสั่งงานที่เกียร์ในการควบคุมความต้องการของความเร็วได้ตามใจสั่งของผู้ขับขี่ ตามสไตล์เกียร์ธรรมดา แต่ถ้าต้องบรรทุกของ ย้ำว่า ต้องหนักเต็มปริมาตรความจุท้ายกระบะจริงๆ กำลัง 116 แรงม้า คงไม่พอเพียงสำหรับการใช้งานนัก ผมเคยบรรทุกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เป็นกระเบื้องปูพื้น เป็นจำนวน หลายร้อยแผ่น แต่ละแผ่นหนักประมาณร่วม ข้าวสารเกิน 1 ถุง เล่นเอาท้ายห้อย หน้าเชิด ขับไปต้องใช้คำว่าคลานเลยล่ะ ต้องวิ่งซ้ายอย่างเดียว จึงพูดได้เลยว่า เครื่องยนต์ตัวนี้ ไม่เหมาะถ้าจะใช้สำหรับการบรรทุกคงต้องเลือกที่ตัว 2 ประตู มากกว่า เพราะน้ำหนักเฟืองท้าย ระยะทด น้ำหนักตัวรถ ที่น้อยกว่าน่าจะสามารถส่งกำลังผ่านเกียร์ 5 จังหวะได้สบายกว่านี้อยู่มาก ถ้าจะเน้นบรรทุกและชอบสูงชอบเอนกประสงค์คงต้องข้ามไป เล่นรุ่น พลัส กันล่ะ เวลานี้ ค่ายมิตซูบิชิ ก็ออกตัวใหม่มากำลังเหลือเฟือ แรงม้าสูงถึง 178 แรงม้า กันไปเลย
การทำความเร็วนั้น ความเร็วมาต่อเนื่องดีจนถึง 120 กม./ชม. ในแบบตัวรถเปล่า พอเริ่มเกินนั้นแล้ว รู้สึกเริ่มตื้อ ต้องเค้นกันหนักหนาสาหัสกันพอสมควร เรียกว่าถ้าต้องเร่งแซง หรือขึ้นเขา ลำบากใจกันล่ะ น่าจะวิ่งถึง 140 กม./ชม. เกินจากนั้นแล้ว รอกันนาน จนถึงนานมาก ซึ่งตรงนี้ คงเอาผมมาวัดมาตรฐานไม่ได้นัก เพราะขึ้นอยู่กับ การขับขี่ของแต่ละคน การเล่นเกียร์ การลากรอบ แต่ที่เขียนนี้ ต้องขอออกตัวว่า เป็นการขับขี่ในแบบปกติ ธรรมดารอบไม่สูงนัก และเปลี่ยนเกียร์ที่รอบปกติ เน้นที่ความประหยัดเป็นหลัก
พวงมาลัย อย่างที่เคยเขียนไว้ ตอนแรกว่า มีระยะฟรีค่อนข้างมาก ทำให้ความคล่องตัวลดถอยตาม แม้รัศมีวงเลี้ยวจะแคบพอสมควรในแบบรถกระบะ ท้ายยาว แต่หากแก้ไขตรงนี้น่าจะขับได้สนุกมากขึ้น ระบบเบรก รวมทั้งช่วงล่าง ถือเป็นจุดเด่น เพราะเบรกมีความมั่นคง มั่นใจสูง ยกเว้น บรรทุกกันขนาดหนักอันนี้เบรกจะรู้สึกว่าไม่จับ เบรกลื่น คงเพราะ โหลดน้ำหนักบรรทุกมากเกินไปก็เป็นได้ ทั่วไปแล้ว ถือว่าดี ยิ่งวิ่งตัวเปล่า มั่นใจได้เทียบเคียงรถเก๋ง สมรรถนะสูงได้กันเลย ช่วงล่างบอกได้ว่า ยอดเยี่ยม โดดเด่น มั่นใจยามเข้าโค้งที่มีทั้งลึกและตื้นได้อย่างดี ตัวรถไม่มีอาการส่าย และสามารถใช้ความเร็วในโค้งได้มาก แม้จะไปดัดแปลงยกสูง ก็ไม่ได้ด้อยลงสำหรับช่วงล่าง รวมทั้งความมั่นคงในการทำความเร็ว เพียงแต่ มีเสียงเข้ามาใต้ท้องมากขึ้นเพราะตัวรถสูง เสียงจากยางขนาดใหญ่ นอกนั้นก็ยามโดนลมปะทะรอบด้าน หรือ มีรถขนาดใหญ่ วิ่งผ่าน จะมีอาการโยน และโคลงของตัวรถให้พอรู้สึกได้บ้าง แต่หากตัวรถเดิมๆจะลดอาการเหล่านี้ไปได้มาก
สำหรับคันนี้ ผมได้ดัดแปลง ทำการยกสูง เนื่องจากหลงในรูปลักษณะของตัว ยกสูงที่มาจากโรงงาน ไทรทัน พลัสไปแล้ว ทำการอัพเกรด ช่วงล่างใหม่หมด เป็นชุดยกสูง และเปลี่ยนยางในแบบ 31 นิ้ว ขอบ 16 แต่ไม่ได้เปลี่ยนล้อแมกส์แต่อย่างใด ยิ่งทำให้อัตร่าเร่งต่างๆลดลงไปมากขึ้น เนื่องจาก น้ำหนักตัวรถมากขึ้นตาม ยางก็ใหญ่มากกว่าเดิมที่ติดมากับรถอยู่มาก หากขับกันแบบ สบายไปเรื่อยๆก็ถือว่า ตั้งลำแล้ว กินลมชมวิว รับกับธรรมชาติข้างทางได้อย่างสบายๆ ยังคงพอใจกับการวิ่งที่ไม่เกิน 130 กม./ชม. ไม่มุ่งแข่งกับใคร ใช้กันทั่วไปก็ยังพอรับได้ แต่ถ้าออกต่างจังหวัดแซงรถใหญ่กันบ่อยๆ ต้องมั่นใจรถสวนมา หรือต้องเปลี่ยนเกียร์ต่ำเข้าช่วย ก็สามารถเรียกกำลังมาทันท่วงทีได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จะต้องทิ้งระยะห่าง ดูช่องระยะของรถที่จะสวนทางมา ให้มีพื้นที่เปิดมากขึ้น เพื่อความมั่นใจ แต่ได้มาด้วยสวยขึ้น และแข็งแกร่งด้วยช่วงล่างแข็งแรงและมีขนาดใหญ่ จึงมั่นใจเพิ่มขึ้นในการพารถลุยอุปสรรคต่างๆ ทั้งก้อนหิน หรือดิน ขนาดใหญ่ หลุมบ่อ ที่ไม่ต้องกลัวว่า จะติดหรือเป็นอุปสรรค ยกเว้นหลุมลึกจริงๆอันนี้ คงต้องลากกันแล้วล่ะ เพราะ ไม่ใช่ประเภท รถขับเคลื่อน 4 ล้อ
มิตซูบิชิ ไทรทัน ตัว 116 แรงม้า นี้ น่าจะเหมาะสำหรับ การใช้งานครอบครัว ที่ไม่เน้นการบรรทุกมากมาย และไม่ควรนำรถไปดัดแปลง ยกสูง จะยิ่งสร้างปัญหาตามมาทั้งในเรื่องการประหยัดน้ำมัน รวมทั้งการบบูรณะที่มากขึ้น อีกทั้ง เป็นการลดทอนกำลังที่อาจทำให้พละกำลังอัตราเร่งที่เคยเป็นอยู่ยิ่งลดถอยลงไปอีก
สิ่งที่อยากชมเชย ค่ายมิตซูบิชิ นอกจากตัวรถ แล้วนั้น การบริการหลังการขาย ยกระดับมากขึ้นผิดตา มิตซูบิชิ มอเตอร์ สามารถให้ลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว มิตซูบิชิได้อย่างไม่ยากด้วย ทีมงานฝ่ายเทคนิคสามารถลงมาแก้ปัญหาให้ลูกค้าในทันที หากติดขัดปัญหาใดใด โดยที่ดีลเลอร์ หรือ ศุนย์บริการนั้นๆไม่สามารถแก้ไขได้ สร้างความประทับใจได้อย่างยิ่ง ผมจึงเชื่อมั่นเหลือเกินว่า เวลานี้ ค่ายรถต่างๆ ต้องพยายามช่วงชิงกลยุทธในการดึงดูดลูกค้า ฉะนั้น ต้องแข่งขันเพื่อพยายามให้ลูกค้าเป็นส่วนหนึ่ง และส่วนสำคัญของ บริษัทรถยนต์กันอย่างแน่นอน ลูกค้าจึงกลายเป็นส่วนที่ได้รับประโยชน์จากการแข่งขับของตลาด และผลดีต่างๆเหล่านี้นั้นจะต้องตกอยู่กับลูกค้า อย่างไม่ต้องสงสัย บริษัทรถค่ายใด ละเลยเรื่องนี้ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่บั่นทอนการแข่งขันกันเองในตลาดรถยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่ค่ายรถยนต์ไม่ควรละเลย
ผมหวังใจว่า เรื่องราวของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ตัวนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ท่านผู้อ่านได้รับประโยชน์พอสมควรครับ