Bangkok International Motor Show 2011


มอเตอร์โชว์ 2011 ซึ่งเป็นครั้งที่32 เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้วแน่นอนครับ ผมและคุณโอก็ไม่พลาดงานในครั้งนี้อย่างแน่นอนงานนี้จัดขึ้นที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานีนะครับ อย่าหลงไปที่ไบเทคเชียวนะเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาดูรถเด่นๆกันว่าในงานมอเตอร์โชว์ 2011 ครั้งนี้ดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง

BMW X3
เปิดตัวครั้งแรกกันภายในงานมอเตอร์โชว์ 2011 นี้ โดย BMW X3 xDrive20d ใหม่ ออกมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบในรถสไตล์อเนกประสงค์ ที่ได้รับการขยายมิติในทุกด้าน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในให้มากขึ้น
ระบบพวงมาลัยแบบ EPS Electric Power Steering ที่สามารถบังคับควบคุมทิศทางได้อย่างเฉียบคม ด้านของระบบช่วงล่างพัฒนาใหม่ ใช้ระบบปีกนกแบบ Double-joint สำหรับด้านหน้า และระบบมัลติลิงค์สำหรับด้านหลัง
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ xDrive ที่สามารถแปรผันกำลังขับเคลื่อนไปสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มศักยภาพการเกาะถนนในทุกสถานการณ์การขับขี่
เครื่องยนต์ Advanced Diesel แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน สามารถผลิตกำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,750 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8HP 8 สปีด สร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 8.5 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 147 กรัมต่อกิโลเมตร

CITROEN DS3
ซีตรอง นำรถรุ่นใหม่ล่าสุด All-New DS3 ที่เปิดตัวในต่างประเทศ เมื่อปีที่ผ่านมา DS3 ถูกวางไว้ในตลาดระดับบนเพื่อเจาะกลุ่มในตลาดรถหรูมากยิ่งขึ้น โดยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดุดัน แต่ก็ตกแต่งลวดลายให้ดูหรูหรามีสไตล์มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ดูกลมกลืนเข้ากับภายในของตัวรถที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี
DS3 ที่จะมีเพียงรุ่นแฮตช์แบ็ค 3 ประตูให้เลือกเท่านั้น จะใช้โครงสร้างเดียวกันกับรุ่น C3 ใหม่ โดยมีความยาว 3.95 เมตร กว้าง 1.71 เมตร และสูง 1.46 เมตร ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที
ระบบกำลังส่งใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมระบบ Tiptronic ควบคุมด้วยพวงมาลัยแบบ แร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมปั๊มไฟฟ้า ระบบเบรก ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังเป็นดิสก์เบรก พร้อม ABS
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นคอยล์สปริง โช้คอัพ พร้อมคานหลัง ล้อเป็นอัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ลายสวยงาม


HYUNDAI
ฮุนได โซนาต้า สปอร์ต ใหม่ ที่มาด้วยรูปลักษณ์สวยงามสะดุดตา หรูหรากว่าเดิมหลายเท่าตัวถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Fluidic Sculpture Design ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮุนได เพื่อให้เป็นรถสปอร์ต 4 ประตู สไตล์คูเป้ ที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่น โดยจะมีสองรุ่นให้เลือก ได้แก่ รุ่น S และรุ่น G ซึ่งนำเข้าทั้งคันจากประเทศเกาหลี
เครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซี.ซี. 165 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 198 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Paddle Shifts เปลี่ยนเกียร์ได้ทุกระดับความเร็วที่พวงมาลัย ช่วงล่างแบบ Sport Suspension ให้ความมั่นใจได้ทุกระดับความเร็ว
ส่วนดีไซน์ถูกออกแบบให้มีหลังคาแก้ว (Panoramic Sunroof) สวยสะดุดตา ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหราแต่ให้อารมณ์สปอร์ต พร้อมฟังก์ชั่นที่ทันสมัยเพื่อความสะดวกสบายของทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร มาตรวัดแบบ Super Vision สวยสะดุดตา มองเห็นได้ชัดเจน และคอมพิวเตอร์แสดงข้อมูลการเดินทางในรูปแบบต่างๆ
ไฟหน้าแบบ HID ปรับตั้งระดับอัตโนมัติ (รุ่น G) และไฟท้าย LED ล้ำสมัย
แถมด้วย H-1โมเดล 2011และยังมี ฮุนไดทูซอนอีกด้วย


ISUZU
มิว-เซเว่น ช้อยส์ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์รุ่นพิเศษ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ทำการตกแต่งห้องโดยสารใหม่ ด้วยโทนสีเทา-ดำสุดเท่ สปอร์ตหรูทุกมิติ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ แบบ Red Stitch ให้อารมณ์สปอร์ตพร้อมพวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้สีเทาดำ
พร้อมชุดแต่งลายไม้ Black Wood Grain ที่คอนโทรลหน้าและแผงประตู ชุดกันชนหน้าพร้อมสปอยเลอร์ด้านหลังและหน้า ดีไซน์สปอร์ตเร้าใจ เพิ่มสีสันสคูปฝากระโปรงด้านหน้า บันไดหน้า Roof Garnish สปอยเลอร์หลังคาสไตล์ Metro Life สุดเท่
นอกจากนั้นยังมีระบบบมองภาพ Titanium Vision ระบบกล้องมองภาพด้านหน้าและด้านหลังขณะถอยจอด เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ และไฟหน้าส่องสว่างแบบโปรเจคเตอร์ ปลอดภัยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่


KIA
นำ All new Picanto รถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ล่าสุด โดยการนำมาเปิดตัวที่ประเทศไทยในครั้งนี้ นับเป็นประเทศแรกในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และเป็นประเทศที่ 3 ของโลก ที่ได้สัมผัสกับรถยนต์รุ่นนี้
Picanto k1 รุ่นที่จะใช้ทำตลาดในบ้านเรา จะเป็นเวอร์ชั่น 5 ประตู ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร มีแรงม้าถึง 85 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 121 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังมีให้เลือกเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด สำหรับทุกรุ่น ส่วนอัตราการปล่อย CO2 อยู่ระหว่าง 95-105 กรัม/กิโลเมตร แต่ถ้ามีระบบ start-stop อัตราการปล่อยไอพิษจะอยู่ที่ 90 และ 100 กรัม/กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถ


LEXUS
ค่ายรถหรูอีกค่ายที่เปิดตัวรถใหม่ กับไฮบริดแฮตช์แบ็คคันแรกของโลก อย่าง LEXUS CT200h ที่มากไปด้วยความน่าสนใจ ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานความสปอร์ตเข้ากับความหรูหราได้อย่างลงตัว ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.29 ฝากระโปรงหน้าและประตูท้ายทำจากอะลูมิเนียมเพื่อลดอาการบาดเจ็บของคนเดินเท้ายามเกิดอุบัติเหตุ
เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง แบบ Atkinson Cycle ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมระบบหัวฉีด EFI และระบบปรับองศาวาล์วแปรผัน VVT-i ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับกำลังสูง 650V พร้อมด้วยแบตเตอรี่ Sealed Ni-MH ส่งผลให้รถมีกำลังเสมือน 2.0 ลิตร แต่ค่าไอเสียต่ำเพียง 94 กรัม/กม. เลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 รูปแบบ Eco, Normal เน้นการขับขี่แบบประหยัด, Sport เน้นการขับขี่แบบเร้าใจ และ EV คือการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าอย่างเดียว
ตามมาด้วยรถไฮบริดอีกคัน LS600hL ซึ่งจะเป็นตัวท็อปสุดของแบรนด์


MAZDA
มาสด้า 3 2.0 ถูกพัฒนาและเน้นการออกแบบอย่างมีพลัง แสดงออกด้วยอารมณ์อย่างชัดเจนว่าสมรรถนะต้องเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน และที่สำคัญ ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเป็นเลิศ เป็นการผสมผสานสไตล์สปอร์ตและฟังก์ชั่นการใช้งานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ภายในยึดแนวทางการออกแบบให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางของทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน แผงมาตรวัดออกแบบสไตล์ Hoodless design เพิ่มความสปอร์ตและความรู้สึกโปร่งโล่งมากขึ้น คอนโซลหน้าออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยรูปทรงโค้งมลโฉบเฉี่ยว ลดรอยต่อของชิ้นส่วน และเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร “Welcome Light System” ที่ช่วยสร้างอารมณ์สปอร์ตและบรรยากาศในการขับขี่ที่หรูหรากว่าเดิม
มาสด้า 3 ใหม่ ใช้ระบบบังคับเลี้ยว Electro-Hydraulic Power Assist Steering System (EHPAS) พร้อมออกแบบให้มีตำแหน่งยึดชุดเฟืองบังคับเลี้ยวถึง 3 จุด ทำให้เพิ่มความสมดุลในการบังคับเลี้ยว ปรับการยึดของชุดเกียร์ระบบส่งกำลังให้เกิดความนุ่มนวลมากขึ้น ทำให้ช่วยลดการสั่นสะเทือนจากระบบส่งกำลังไปยังพวงมาลัยในการขับขี่ทางตรง
เครื่องยนต์ MZR 2.0 สำหรับรถมาสด้า 3 ใหม่ ขนาด 2,000 ซี.ซี. 4 สูบแถวเรียง ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว ให้แรงบิดสูงสุดที่ 182 Nm ที่ 4,000 รอบ และให้กำลังสูงสุดที่ 108 kw ที่ 6,500 รอบ ระบบการทำ งานใหม่ของการรับอากาศไอดีหรือ Front Air Pickup Air Induction System (FAPAIS) ที่รับอากาศไอดีบริสุทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อุณหภูมิสูง ความพยายามในการพัฒนาค่าแรง G ในระดับที่พอใจที่ช่วยเสริมสมรรถนะของเครื่องยนต์ในการเร่งแซงด้วยการตอบสนองทันทีและมีความแม่นยำสูง


VOLVO
วอลโว่ S80 D3 เครื่องยนต์ดีเซล เข้ามาเสริมไลน์ S80 ที่มีเครื่องยนต์ E85 อยู่แล้ว โดย S80 D3 วางเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นปรับปรุงใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นล่าสุด ทำให้เครื่องยนต์เดินเงียบ เพิ่มเทอร์โบชาร์จเข้าไปเพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ดีเซลมีสมรรถนะที่สูงขึ้นด้วยหัวฉีดที่ถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้น ทั้งยังปล่อยไอเสียน้อยลงอีกด้วย เครื่องยนต์ดีเซลประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซินประมาณ 30%
เครื่องยนต์เป็นขนาด 2 ลิตร ให้พลังสูงสุด 163 hp ที่ 3,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 400 Nm ในช่วง 1,400-2,850 รอบต่อนาที ติดตั้งเกียร์ออโตเมติก 6 สปีดพร้อมโหมดเกียร์ทรอนิกส์ที่ให้ผู้ขับขี่เลือกเปลี่ยนเกียร์เองได้เพื่อความสนุกสนานสูงสุดในการขับขี่ ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ให้บรรยากาศอบอุ่นสบาย ด้วยไม้วอลนัท พวงมาลัยไม้และหนังในโทนสีเข้ม หัวเกียร์หุ้มหนัง ขลิบวัสดุสีเงินด้าน
ด้านนวัตกรรมความปลอดภัย S80 D3 ก็มาพร้อมระบบสัญญาณเตือนมุมอับสายตา ระบบเตือนก่อนการชนพร้อมฟังก์ชั่นช่วยในการหยุดรถ เพื่อช่วยผ่อนแรงผู้ขับขี่ในการเหยียบเบรกให้รถหยุดทันท่วงที หากผู้ขับไม่เหยียบเบรก ฟังก์ชั่น Auto Brake จะหยุดรถโดยทันที และเปิดสัญญาณไฟกะพริบฉุกเฉินเพื่อเตือนรถคันที่ตามหลังมาให้ระวังตัว
ระบบควบคุมความเร็วรถแบบแปรผันพร้อมระบบเตือนเมื่อเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไปและไม่ปลอดภัย (Adaptive Cruise Control with Auto Brake) ระบบแจ้งเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า (Distance Alert) ซึ่งจะเริ่มทำงานเมื่อความเร็วตั้งแต่ 30 กม./ชม. เมื่อระบบ Adaptive Cruise Control อยู่ในโหมดสแตนด์บายหรือไม่ได้ทำงาน


SsangYong
ซันยอง นำ New Korando พวงมาลัยขวาคันแรก ซึ่งเป็นรถแบบ CUV (Classic Utility Vehicle) ขนาดคอมแพ็กต์ มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และในแบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
โดยจะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรลขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังม้าสูงสุดถึง 175 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที และให้กำลังแรงบิดที่มหาศาลถึง 360 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 2,000-3,000 รอบต่อนาที มาพร้อมกับชุดส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะที่ได้รับการรังสรรค์ใหม่ให้ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ชุดนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม และตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองที่ต้องการความคล่องตัวและให้อัตราเร่งที่ปราดเปรียวแต่ยังคงให้ความประหยัดอย่างดีเยี่ยมในยามที่ต้องใช้งานในการเดินทางไกล


HONDA
ฮอนด้า บริโอ้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC ขนาด 1.2 ลิตร 90 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที โดยจะมีระบบควบคุมการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ DBW ระบบเกียร์มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ เกียร์ธรรมดา ซินโครแมท 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบใหม่ พวงมาลัยแร็ค แอนด์ พิเนี่ยนแบบไฟฟ้า EPS
ช่วงล่างระบบกันสะเทือนด้านหน้า เป็นแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม แบบ H-shape ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์ ด้านหลังเป็นดรัมเบรก
ภายในห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ สีเบจ หน้าปัดเป็นมาตรวัดแบบสปอร์ตพร้อมไฟแสดงผลการขับแบบ ECO สีเบาะนั่งแบบทูโทน เบาะด้านหลังพับได้แบบ 100% พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ กระจกมองหลังแบบตัดแสงได้ ระบบเครื่องเสียงแบบ 2 DIN พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX
ระบบความปลอดภัยครบครัน ถุงลมนิรภัยทั้งด้านคนขับและผู้โดยสาร ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ ระบบสัญญาณกันขโมย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED


FORD All-New Ranger
ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในทวีปเอเชีย มีรูปโฉมโดดเด่น เน้นประโยชน์ใช้สอยรอบด้าน ด้วยการออกแบบตัวถังภายนอกใหม่ที่ดูทันสมัย สะท้อนความเป็นกระบะพันธุ์แกร่ง
รถคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ 3 รุ่น ที่จะวางจำหน่ายทั่วโลก ประกอบไปด้วย เครื่องยนต์ดีเซล ฟอร์ด ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ I4 ขนาด 2.2 ลิตรใหม่ ที่ให้แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร และให้กำลัง 150 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซล ฟอร์ด ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ I5 ขนาด 3.2 ลิตร ให้การตอบสนองและประสิทธิภาพดีเยี่ยม ด้วยแรงบิด 470 นิวตันเมตร ให้กำลัง 200 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน ฟอร์ด ดูราเทค I4 ขนาด 2.5 ลิตร ให้พละกำลังมากขึ้นที่ 166 แรงม้า
ระบบกำลังส่งมีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ฟอร์ด 6R80 ใหม่ ที่ได้รับการปรับจูนได้อย่างแนบเนียนและรวดเร็วจนผู้ขับแทบจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ และระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ฟอร์ด MT82 ที่ได้รับการออกแบบมาให้ตอบสนองต่อสรีระของผู้ขับขี่ มอบการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและแม่นยำ
นอกจากนี้ เรนเจอร์ใหม่ ยังเป็นรถที่มีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดคันหนึ่งเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน นับเป็นความสำเร็จจากการพัฒนาโครงสร้างตัวถังรถกระบะขนาดคอมแพ็คระดับโลก ที่เกิดขึ้นจากการทำงานภายใต้แนวคิดแบบ One Ford ของฟอร์ด


Skoda
แม้ในปีนี้จะมีรถใหม่เข้ามาให้เห็นอยู่หลายรุ่น ซึ่ง Skoda Yeti 1.2 TSI คือหนึ่งในนั้น SKODA เป็นรถยนต์สัญชาติเช็ก ที่ชื่ออาจไม่เป็นที่คุ้นหูคนไทยมากนัก โดยตัว Yeti จัดเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่มีความแข็งแกร่งและปลอดภัย โดยเป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัว
รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ Turbo SI ขนาด 1.2 ลิตร ผลิตกำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 5,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 175 นิวตัน-เมตร ที่ 1,550-4,100 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด DSG สร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 12 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 173 กม./ชม.
นอกจาก Yeti แล้ว ทาง Skoda ยังนำรุ่น Superb 1.8 TSI มาร่วมในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งนับเป็นรถเก๋งขนาดกลางที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เครื่องยนต์ใน Superb เป็นแบบ Turbo SI ขนาด 1.8 ลิตร ผลิตกำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 6,200 รอบ และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,550- 4,500 รอบ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด DSG สร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 8.5 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 220 กม./ชม.


Chery Big D
Chery Big D รถตู้เอนกประสงค์ ที่ เป็นรถขนาด 14 ที่นั่ง พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อมด้วยระบบความปลอดภัย มากับเครื่องยนต์ เบนซิน ติดตั้ง CNG ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง พร้อมเทอร์โบชาร์ทเจอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 168 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที มาตรฐานไอเสียยูโร 4 ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก ด้านหลังเป็นดรัมเบรก พร้อม ABS และ EBD ระบบกันสะเทือนช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นทอร์ชั่นบาร์ ด้านหลังเป็นแหนบสปริงโช๊คอัพ


นิสสัน
ในงานมอเตอร์ โชว์ ปีนี้ นิสสัน เน้นแนวคิดและภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนอกจากการจัดแสดงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายในตลาดมวลชนรุ่นแรกของโลกมาจัดแสดงให้ชมด้วยพร้อมด้วยการแนะนำรถยนต์นิสสัน มาร์ช รถยนต์
อีโค คาร์รุ่นแรกในประเทศไทย ทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่นล่าสุด สปอร์ตเวอร์ชั่น และรถยนต์รุ่นอื่นๆ ครบไลน์แล้วยังได้นำเทคโนโลยี Pure Drive ที่ได้พัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ของนิสสันให้มีคุณสมบัติด้านประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมและปล่อยไอเสียต่ำ

การจัดแสดง นิสสัน ลีฟ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อตลาดมวลชน
คันแรกของโลก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย นิสสัน ลีฟ คือ สัญลักษณ์ของวิสัยทัศน์ใหม่ คือ ก้าวแรกแห่งความยั่งยืนด้านยานยนต์ และรถยนต์แห่งยุคที่เพิ่มคุณค่า และสร้างวิถีการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่ในอนาคต


Proton
นำรถต้นแบบ Proton Lekir (โปรตอน เลอเค้) มาอวดโฉมในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในงาน Bangkok International Motor Show ในปีนี้ Proton Lekir ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนักรบผู้กล้า ในการทำสงครามของอาณาจักรมะละกาที่โด่งดังในประวัติศาสตร์ชนชาติมาเลเซีย สู่แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ยนตกรรมที่ตื่นตาตื่นใจ ผสมผสานระหว่างความปราดเปรียวแข็งแกร่งและสง่างาม Proton Lekir ยานยนต์ในฝัน ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1,600 ซีซี ขุมพลัง 220 แรงม้า พร้อมช่วงล่างเทคโนโลยีรถ Lotus ประเทศอังกฤษ


มิตซูบิชิ
มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล จะเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นใหม่ในกลุ่มรถขนาดเล็กที่ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับประเทศเศรษฐกิจใหม่และประเทศที่พัฒนาแล้วจาก 3 แนวคิดหลักคือ “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”, “มีความคุ้มค่า” และ “ ใช้งานได้อย่างสะดวก” นอกจากนี้ด้วยความยาวตลอดคันเพียง 3.7 เมตร จึงทำให้มีความโดดเด่นทั้งในด้านความคล่องตัวและง่ายต่อการขับขี่พร้อมการออกแบบจัดวางพื้นที่ให้สามารถรองรับผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ได้ 5 ที่นั่ง ในขณะเดียวกันยังให้การประหยัดน้ำมันในระดับสูง ด้วยระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 90 กรัมต่อกิโลเมตร จากเครื่องยนต์ขนาด 1 ลิตร สำหรับตลาดยุโรป ซึ่งตรงกับคุณลักษณะของโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโค คาร์ ของรัฐบาลไทย ที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ และลดปริมาณการใช้น้ำมันตลอดจนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศโลก โดยบริษัทฯ จะกำหนดราคาขายไว้ต่ำกว่า 400,000 บาท


เชฟโรเลต
รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด ต้นแบบคันนี้ มาพร้อมกับรูปทรงที่แข็งแกร่งบึกบึน ตัวถังแบบเอ็กซ์เทนเดด-แค็บ หรือแบบ 2 ประตูพร้อมแค็บและที่นั่งด้านหลังคนขับ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ยกสูง สะดุดตาด้วยล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้วและยางแบบออฟโรด พร้อมสมรรถนะแห่งความแรงอันยอดเยี่ยมด้วยขุมพลังดีเซลเทอร์โบขนาด 2.8 ลิตร ให้แรงบิดต่อเนื่องตอบสนองทุกการใช้งาน และประหยัดเหนือชั้น
โคโลราโด ได้รับการสร้างสรรค์จากหน่วยงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกของจีเอ็ม โดยฝีมือทีมวิศวกรที่ทำงานอย่างพิถีพิถัน พร้อมกับการเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองไทยนานหลายเดือนของทีมหัวหน้าวิศวกร ที่เฝ้าสังเกตภาวะตลาดรถเมืองไทย และการใช้งานรถกระบะของลูกค้าชาวไทย ตลอดจนสำรวจคุณภาพท้องถนนเกือบทั่วประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่ารถกระบะรุ่นใหม่นี้จะตรงกับความต้องการของลูกค้าชาวไทยมากที่สุด
นอกจากกระบวนการพัฒนาโคโลราโด ในประเทศไทยเช่นนี้แล้ว ทีมวิศวกรของจีเอ็ม ยังศึกษาแนวทางการตลาดของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้เหมาะสมลงตัวกับการความต้องการลูกค้าอีกด้วย


Audi
Audi ได้นำเทคโนโลยี TFSI ซึ่งเป็น 1 ในเทคโนโลยีสำคัญที่ทำให้แบรนด์ Audi ประสบผลสำเร็จในด้านยอดขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขสูงสุดถึง 1,092,400 คัน และทำให้ Audi ครองตำแหน่งรถพรีเมียมที่มียอดขายรถดีที่สุดในยุโรป ดังนั้นในงานนี้ทางบริษัทฯ จึงได้นำรถยนต์ 3 รุ่นหลักของ Audi ได้แก่รถซาลูน Audi A4 1.8 TFSI , รถสปอร์ตคูเป้ Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro และรถเอสยูวี Audi Q5 2.0 TFSI quattro ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนี้เน้นใช้เทคโนโลยี TFSI(Turbo Fuel Stratified Injection) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเครื่องยนต์เบนซินระบบฉีดจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์โดยตรง ที่ให้ทั้งสมรรถนะยอดเยี่ยม ให้ความสนุกเร้าใจในการขับขี่ และให้ความประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ระดับเดียวกันถึง 15% ซึ่งแนวคิดในเรื่องการประหยัดน้ำมัน เป็นนโยบายสำคัญที่ทาง Audi ให้ความใส่ใจมาโดยตลอด นอกจากเทคโนโลยี TFSI แล้ว Audi ยังมีเทคโนโลยี quattro ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ตลอดเวลาที่ Audi เป็นผู้บุกเบิกในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์โลกเป็นรายแรก พัฒนาขึ้นมานานถึง 30 ปี โดย quattro รุ่นปัจจุบันนี้สามารถตอบสนองการทำงานได้ดีและรวดเร็ว ให้การทรงตัวที่ดีมาก ทำให้สนุกกับการขับขี่อย่างเต็มที่ในทุกสภาพถนน ด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด


โตโยต้า
FT-EV II รถไฟฟ้าต้นแบบขนาดเล็กสำหรับเดินทางในเมือง จากจินตนาการการเดินทางในโลกอนาคต บังคับด้วย Joy stick และขับขี่ได้ถึง 90 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็มที่
พร้อมด้วย FT-86 หรือ Hachi Roku รถสปอร์ตต้นแบบขนาดเล็กที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


เก็บตกรถและบรรยากาศในงาน


MERCEDES-BENZ
บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นอกจากจะเป็นการฉลองครบรอบ 125 ปี แห่งนวัตกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ แล้ว ยังได้เปิดตัว The new SLK 350 BlueEFFICIENCY Roadster สปอร์ตระดับไฮคลาสรุ่นใหม่ ที่นับเป็นรุ่นที่ 3 ของตระกูล SLK
รูปลักษณ์ภายนอกบริเวณด้านหน้าปรับปรุงใหม่หมดที่ให้ความสปอร์ตและคลาสสิกขึ้น โดยได้รับอิทธิพลมาจากรุ่นซุปเปอร์สปอร์ตคาร์ย้อนยุค SLS AMG ประตูปีกนก ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้
เครื่องยนต์ V6 ความจุกระบอกสูบ 3,498 ซี.ซี. กำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์/306 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ภายในระยะเวลา 5.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. มาพร้อมกับหลังคาแบบใหม่ล่าสุด panoramic vario-roof แบบ MAGIC SKY CONTROL ที่สามารถปรับระดับความสว่างได้
ระบบช่วงล่าง มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น รวมถึงเบรกแบบ Torque Vectoring ที่ช่วยลดอาการดื้อโค้ง เกาะถนนมากขึ้น และเข้าโค้งได้คมยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ จาก Mercedes เช่น ระบบหยุดลม Air guide ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของบริษัทฯ ที่ช่วยควบคุมการไหลของอากาศและควบคุมเสียงรบกวนในห้องโดยสารในขณะที่มีการเปิดประทุนอีกด้วย
Sent via BlackBerry® from AIS

##################################
เรื่อง&เรียบเรียง premsak@caronline.net
ภาพ สารฑูล สักการเวช

Facebook Comments