ไปชับMazda CX-3 เลือกเป็นในแบบที่เป็นคุณ Lady Trip หลายสไตล์แบบผู้หญิงขับรถ (มี Clip VDO)
Lady Trip เป็นทริปที่มาสด้าจัดให้สื่อมวลชนสาวสาวของวงการรถยนต์สวยหรือไม่สวยก็ดูจากรูปนะคะ ทริปนี้เป็นหญิงล้วนแต่มีชายบ้างเพื่อเป็นช่างภาพให้กับพวกเรา
โดยรถที่เราจะไปขับกันในครั้งนี้เป็น New Mazda CX-3 ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561ที่ผ่านมา
CX-3 เป็นรถแบบ Crossover 5 ประตู หลายท่านอาจจะสงสัยว่าอะไรคือ Crossover เอาเป็นว่าเป็นรถแบบเอนกประสงค์ขับสนุก ให้ประโยชน์ใช้สอยได้ครบถ้วนตามความต้องการของแต่ละคน
ซึ่งเช้าวันเดินทางพวกเราก็นัดพบกันที่ โชว์รูมแห่งใหม่ล่าสุดซิงซิงของมาสด้าเลยคือ Mazda JP อยู่เลียบทางด่วนรามอินทรา เนื้อที่กว้างใหญ่ โชว์รูมสวยงาม มีศูนย์บริการครบวงจร
ดิฉันขับรถมาเอารถมาจอดที่นี่ ต้องขับรถเข้าลิฟท์เพื่อไปจอดที่ชั้น 3 เดิ้นไม๊ละคะ
ก่อนออกเดินทางก็ต้องมีข้อมูลรายละเอียดของรถกันก่อนนะคะ โดยคุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้จัดการอาวุโสส่วนงานประชาสัมพันธ์ของมาสด้า เป็นผู้ให้รายละเอียด
พร้อมผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งท่านคือคุณวัชระ เจียรบุญ ผู้จัดการอาวุโส่วนงานผลิตภัณฑ์
แล้วพวกเราก็เตรียมตัวเดินทางแต่กว่าจะออกเดินทาง ก็ถ่ายรูปกันแทบทุกช็อตเลย ก็ผู้หญิงนี่นา
CX-3 ที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้มีสองรุ่นด้วยกับคือCX-3 ดีเซลและเบนซิน ดีเซลจะมีขายเพียงรุ่นเดียวคือรุ่น 1.5 XDL
แต่เบนซินจะมีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่น
รถที่พวกเราขับจะเป็นตัวท็อปคือ 2.0 SPเบนซิน และดีเซล 1.5 XDL
พร้อมเดินทางแล้ว เส้นทางที่จะไปในวันนี้ก็คือ กรุงเทพฯ- เกาะสีชัง – บางเสร่พัทยา
เดินทางด้วย CX-3 จำนวน 8 คัน เป็นดีเซล 4 คัน และเบนซิน 4 คัน
คันที่ดิฉันขับคันแรก Day 1 จะเป็นตัวดีเซล เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 XDL 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรที่ 1,600 -2,500 รอบต่อนาที ระบบไดเร็คอินเจ็คชั่น
เทอร์โบแปรผัน 4 สูบ 16 วาล์ว
พร้อมแล้วก็ออกเดินทาง คันของดิฉันไปกัน 4 สาว พร้อมสัมภาระใส่ด้านท้ายรถ เพราะเราไปค้างคืนหนึ่งคืน
ฝาท้ายมีสวิทช์ไฟเปิดปิดได้ด้วยนะ เผื่อเวลากลางคืนมองไม่เห็น ด้านบนฝาท้ายมีแผ่นปิดให้ด้วยนะคะ คนจากภายนอกจะได้มองไม่เห็นของภายใน แต่ถ้าเราจะบรรทุกเยอะก็เอาแผ่นวัสดุออก แล้วพับที่นั่งแถวหลังลงไป แบบ 60:40
ออกเดินทางโดยดิฉันเป็นผู้โดยสารด้านหลังไปก่อน ที่นั่งด้านหลังก็นั่งได้สบาย เพราะความสูงของทีมเราในรถคันนี้ไม่เกิน 160 ซม .ค่ะ ยังเหลือช่องว่างระหว่างเบาะหลังกับหน้าเยอะพอควร เบาะที่นั่งอาจจะสั้นไปนิดหน่อย แต่เราก็นั่งได้สบาย
ที่ชอบก็คือที่นั่งด้านหลังเขาจะยกขึ้นสูงทำให้เวลานั่งไม่จมลงไป และมองเห็นผ่านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าไปได้ไม่อึดอัด
ที่นั่งด้านหลังมีคอนโซลกลางเอาไว้ให้วางแขน หรือเปิดออกมาวางขวดหรือแก้วน้ำได้สองที่
ที่นั่งด้านหลังคนนั่งและคนขับมีกระเป๋าใส่เอกสารได้อีกด้วย
ด้านหลังที่นั่งซ้ายขวาตรงราวมือจับมีตะขอเกี่ยวสองด้านเลยนะ แขวนเสื้อผ้าได้ด้วยนะถ้าต้องไปงานต่างๆเลือกเอาว่าจะแขวนด้านไหน
แล้วเราก็ขับไปกินกาแฟกันที่ Bikepark Café X Totto Coffee ก่อนถึงศรีราชาเป็น ร้านเล็กๆน่ารัก
ออกจากร้านนี้ดิฉันก็เป็นคนขับนะคะ ปรับที่นั่งให้เข้าที่ ที่นั่งปรับมือทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสาร ปรับสูงต่ำโยกได้ตามต้องการ ที่นั่งเป็นเบาะหนังสีดำ
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แอร์ก็เป็นแบบกลมๆหมุนเหมือนรถยุโรปบางรุ่น แต่งด้วบขอบแดงดูสปอร์ตขึ้น
ระบบเบรกมือจะเป็นแบบไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold มีช่องเสียบ USB อยู่ตรงคอนโซลกลางซึ่งเพิ่มให้คอนโซลกลางมีเส้นสายที่ต่อเนื่องกับคอนโซลหน้าดูสวยขึ้น คอนโซลกลางก็เลยมีที่วางแขนพร้อมช่องเก็บของที่สามารถปรับเปลี่ยนหลายรูปแบบ
แถมยังมีหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้าให้ด้วยนะ
มีจอDisplay ขนาด 7 นิ้วจอแบบทัชสกรีนแสดงเมนูสั่งงานของระบบ MZD Connect และตั้งค่าการใช้งานอื่นๆหรือเรียกดูการใช้งานผ่านระบบการสั่งงานด้วยเสียง
ส่วนปุ่มที่อยู่ซ้ายมือด้านคนขับ ใช้ควบคุม MZD connect ใช้งานง่ายเพียงหมุนหาคำสั่งที่ปรากฎบนจออันกลางใช้ได้ทั้งตอนขับรถและตอนจอดรถ
ปรับทุกอย่างเข้าที่ พวงมาลัยกระชับมือ ไม่หนักและเบา จนเกินไป ออกตัวก็ตามแรงที่เหยียบลงไป การตอบสนองของเครื่องยนต์เมื่อเร่งแซงก็เป็นที่พอใจเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบสกายแอคทีฟไดร์ฟ พร้อมแมนนวลโหมด ไปได้อย่างนุ่มนวล ความเร็วมาอย่างต่อเนื่องเมื่อเร่งแซงเพราะมีเทอร์โบชาร์จเจอร์(เฉพาะดีเซล)ที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำให้ความสนุกในการขับขี่
การเกาะถนนให้ความมั่นใจเพราะมีให้ G-vectoring Control ซึ่งเป็นระบบควบคุมการขับขี่ให้แม่นยำยิ่งขึ้นและสมดุลมีทั้งรุ่นเบนซินและดีเซล
เมื่อขับไปมองไปด้านหน้ารถเราจะเห็นสกรีนใสเหนือพวงมาลัยในระดับสายตาผู้ขับ แสดงข้อมูลในการขับขี่ ว่าวิ่งอยู่ที่ความเร็วเท่าไหร่
นอกจากนั้นยังมีระบบ I-Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันเมื่อรถจอดนิ่ง ขณะที่ทุกอย่างในรถยังทำงานปกติ แต่บางท่านอาจจะไม่ชอบ เพราะพอได้ที่เครื่องยนต์ก็จะทำงาน ซึ่งเราสามารถกดปิดการทำงานนี้ได้ ปุ่มอยู่ขวามือข้างพวงมาลัย
ซึ่งอุปกรณ์ที่กล่าวมานี้ตัวเครื่องยนต์เบนซินก็มีนะคะ
ก่อนที่จะมาพูดถึงระบบต่างๆที่มีก็ขอแวะรับประทานอาหารกันก่อนนะคะ
เราขับไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารมุมอร่อยที่ศรีราชากันคะ
เมื่อออกจากร้านมุมอร่อย เราก็ขับรถกันต่อเพื่อไปลงเรือที่จะข้ามไปเกาะสีชัง เพื่อไปลงเรือที่ท่าเรือจรินทร์
และเราต้องฝากรถไว้ที่ร้านรับฝากรถ ซึ่งสถานที่ค่อนข้างแออัด ต้องจอดซ้อนคันแล้วต้องเข้าซองอีกด้วย
คราวนี้ก็เลยได้ใช้ประโยชน์ของกล้อง 360 องศาเลยช่วยให้เห็นรอบทิศทางที่จะเอารถเข้าจอด ผ่านจอแสดงผลภายในรถ โดยการใข้กล้อง 4 ตัวที่ติดตั้งบริเวณด้านหน้า ด้านซ้าย-ขวา และด้านหลังของตัวรถ เซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับรถจากด้านข้างและด้านหลังที่กำลังเข้าใกล้สิ่งกีดขวางและส่งสัญญาณเตือนเมื่อเข้าใกล้วัสดุนั้นจนเกินไป ยังช่วยในจุดบอดที่มองไม่เห็น พร้อมทั้งช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นจุดบอดของสิ่งกีดขวางขณะนำรถเข้าจอดหรือออกจากที่จอด
นอกจากนี้ระบบนี้ยังช่วยเตือนเมื่อวิ่งผ่านรถที่กำลังวิ่งมาบนถนนแคบๆ
หลังจากกล้องได้เปิดใช้งานภาพที่แสดงบนหน้าจอในแต่ละมุมสามารถควบคุมได้จากหน้าจอสัมผัสหรือจากปุ่มควบคุมจะปิดก็ได้
ออกจากที่ฝากรถ พวกเราก็ขึ้นสองแถวเพี่อไปที่ท่าเรือ จรืนทร์เพื่อขึ้นสปีดโบ๊ตไปยังเกาะสีชัง
สปีดโบ๊ตนั่งได้ลำละประมาณ 8 คน นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่ข้ามไปเกาะสีชังนั้งเรือไประมาณ 20 นาที คลื่นค่อนข้างแรงเป็นที่หวาดเสียวยิ่งนัก แต่พวกเราก็ไม่กลัวขึ้นเกาะปุ๊ปถ่ายรูปทันที
แล้วก็นั่งสามล้อสกายแล็ปเที่ยวรอบเกาะ แต่ไม่ได้ไปครบทุกสถานที่เพราะเวลาจำกัด
เกาะสีชังเป็นเกาะขนาดใหญ่มีพื้นที่โดยรวมประมาณ 7.9 ตารางกิโลเมตร มีการตั้งของชุมชนมานับร้อยปี
สถานที่ท่องเที่ยว
1.ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นศาสนสถานผสมผสานระหว่างไทยจีนซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ที่ชาวจีนทั้งในและต่างประเทศให้ความเคารพนับถือ และเป็นจุดชมทิวทัศน์
2.พระจุฑาธุชราชฐาน ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะ ที่ประทับฤดูร้อนในรัชกาลที่ 5 รายล้อมด้วยภูมิทัศน์สวยงาม ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง และเลยขึ้นไปคือพระตำหนักปั้นหยาที่สร้างขึ้นเป็นเรือนไม้ ลวดลายขนมปังขิง ตึกผ่องศรีหรือศาลาแปดเหลี่ยม ตึกอภิรมย์และวัดอัษฎางคนิมิตรบนยอดเขา ที่สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานไทย-ตะวันตก
3.ช่องอิศริยาภรณ์(ข่องเขาขาด)หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา แต่พวกเราไม่ได้ไปนะคะ
ออกจากเกาะสีขังก็เกือบจะ ห้าโมงเย็นแล้ว กลับขึ้นไปยังฝั่งศรีราชาอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ขับรถต่อไปยังที่พักที่บางเสร่เลยค่ะ
วันที่ 2
สบายสบายไม่ได้รีบเร่ง เช้าวันนี้ก็ได้มีการสลับรถ คันที่ขับวันนี้จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ แรงบิด 204 นิวตันเมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ระบบจ่ายน้ำมันแบบไดเร็คอินแจ็คชั่น เกียร์แบบ Skyactive-Drive 6 สปีดพร้อมแมนนวลโหมด
แล้วก็ไปรับประทานอาหารกลางวันกันต่อที่ร้านสีนวล ก็ยังชอบรสชาติอาหารร้านนี้อยู่นะคะ
เสร็จแล้วก็มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯกันเลย การขับขี่ระหว่าง ดีเซลและเบนซินก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เบนซินอาจะขับสนุกกว่าความแรงมาต่อเนื่องด้วยเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า แรงม้ามากกว่า แต่ดีเซลด้วยแรงบิดที่มากกว่าและมีเทอร์โบด้วยก็ได้ในอัตราเร่งแซงที่ดี แม้ตีนต้นจะด้อยกว่าเบนซินไปบ้างเล็กน้อย
ช่วงล่างต้องยอมรับเลยค่ะว่านุ่มนวลขึ้นเพราะดิฉันได้นั่งเบาะหลังทั้งสองคันเลย ภายในห้องโดยสารก็เงียบลงถ้าคุณอยู่ในความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนะคะ
ในส่วนของภายนอกรถก็ใส่ใจกับคุณภาพของวัสดุไม่ว่าจะเป็น กระจังไฟหน่า ไฟท้าย LED
และล้ออัลลอย ที่ได้รับการอกแบบใหม่ ขนาด 215/50/R15
กระจังหน้าเน้นถึงการออกแบบที่ดูมั่นคง ช่วนเน้นให้เห็นไฟหน้าและซิกเนเจอร์วิงมีความเด่นจากระยะไกล เส้นโครเมี่ยมที่ประดับอยู่บนกันชนหน้าให้ความรู้สึกว่าเชื่อมกับเส้นโครเมี่ยมบริเวณด้านข้างรถ
กรอบไฟตัดหมอกและวัสดุตกแต่งประตูด้านอกแบบสีดำเงาดูคมเข้มขึ้น ดูสปอร์ตขึ้น
โคมไฟท้ายเป็นแบบวงแหวนประกอบกับเส้นแนวนอนเหมือนของ CX-5 ไฟแบบ LED
ท้ายสุดนี้ขอเพิ่มเติมเทคโนโลยี่ I-ActiveSense ในมาสด้าซีเอ็กซ์ 3 ในส่วนที่ยังไม่ได้พูดถึง
ก็คือการ -คาดการ์ณการเบี่งอกนอกเลนของผู้ขับขี่ และเตือนผู้ขับขี่ผ่านทางเสียง
-ปรับการทำงานของไฟหน้าส่องลงพื้นเพื่อช่วยให้การขับขี่ที่ปลอดภัย
-ลดการเสี่ยงจาการเกิดอุบัติเหตุ โดยการแนะนำให้หยุดพักปรากฎบนหน้าจอ เมื่อตรวจพบว่าผู้ขับขี่เมื่อยล้าและเสียสมาธิ
-ช่วยปรับและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติเพื่อลดการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
-ระบบที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนโดยตรวจจับระยะห่างระหว่างรถด้านหน้าและด้านหลัง
-ระบบที่ช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดความเสียหายที่เกิดจาการชนในความเร็วกลางไปจนความเร็วสูง
ในส่วนของราคา มาสด้า CX-3 ใหม่ 2018 คอลเลคชั่น
รุ่น 2.0 E เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2.0 ลิตร ราคา 879,000 บาท
รุ่น 2.0 C เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2.0 ลิตร ราคา 955,000 บาท
รุ่น 2.0 S เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2.0 ลิตร ราคา 1,029,000 บาท
รุ่น 2.0 SP เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2.0 ลิตร ราคา 1,083,000 บาท (คันที่ขับ)
รุ่น 1.5 XLD เครื่องยนต์คลีนดีเซลสกายแอคทีฟ-ดี ชนาด 1.5 ลิตร ราคา 1,189,000 บาท(คันที่ขับ)
ถังน้ำมันจุ 48 ลิตร เติมได้ทั้งเบนซินไร้สารตะกั่ว 95 แก๊สโซฮอล์ 95 E10 E20 E85 สำหรับตัวเบนซิน
ดีเซลก็เติมน้ำมันดีเซล
ท่านที่ชอบรถแบบCrossover SUV 5 ประตู ขับขี่สนุก รูปทรงโฉบเฉี่ยว ขนาดกะทัดรัด อุปกรณ์ความปลอดภัยมากมาย
CX-3 ก็เป็นรถอีกหนึ่งคันที่น่าสนใจ