ขับฮอนด้า ซิตี้ ขึ้นปากช่อง


โดย ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา

ไม่ใช่รายงานทดสอบ และไม่ใช่บทความทดลองรถครับ โปรดผ่านไปหากท่านต้องการอ่านบทความทดสอบรถยนต์

บอกเสียก่อน ว่าใครอยากอ่านบทความรายงานการทดลองรถยนต์ ของผม ก็เชิญที่มติชน สุดสัปดาห์ คอลัมน์รถยนต์

โดยเฉพาะเรื่องนี้ก็เป็นวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคมนี้นะครับ

สำหรับในนี้ ผมไม่ได้เขียนบทความทดสอบรถยนต์ หรือแม้กระทั่งทดลองขับให้ใครอ่าน

ผมเพียงแต่เขียนบันทึกการขับรถของผม ประกอบรูป เอาไว้ในเว็บไซด์เท่านั้น

และที่บันทึกเอาไว้ ก็เพื่อกันลืม สำหรับข้อมูลที่ผมจะเอาไปใช้ในการเขียนรายงานการทดลองรถยนต์ ให้กับมติชน สุดสัปดาห์นะครับ
ใครที่อยากอ่านบททดสอบ ผ่านไปเลยครับ อย่าเข้ามาอ่านอย่าคลิกผ่านลงไป

เอาไว้รออ่านเรื่องราวที่ JIMMY หรือคุณโอ หรือคุณโจ้ ทำเข้ามาให้อ่านดีกว่า สามท่านนั่น มีหน้าที่อยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของผม

ผมเพียงแต่ใช้พื้นที่ให้สมกับเจตนารมณ์ของเว็บไซด์เท่านั้นเอง


ผมเอาซิตี้ใหม่ไปปากช่อง บ้านซับเศรษฐีมาครับ และคราวนี้เอากล้องใหญ่ไป ก็เลยถ่ายรูปมาแยะหน่อย ไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ก็เอามาไว้เสียที่เว็บไซด์นี่แหละ ตามเจตนารมณ์ ที่ลูกชายผมทำขึ้นมาเพื่อเก็บเรื่องราวที่ผมเขียน และรูปที่ผมอยากเก็บไว้


ออกเดินทางตอนบ่ายวันศุกร์ พอไปได้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ฝนก็เทลงมา และตกตกหยุดหยุดสลับกันไป จนถึงโลตัส ปากช่องก็หยุด ผมก็แวะเข้าไปที่โลตัส เพื่อซื้อของเล็กเล็กน้อยน้อยไปเป็นเสบียง เพราะไม่ได้ไปบ้านซับเศรษฐีมาสามเดือนเต็ม ไม่รู้ว่า อะไรหมดอายุ อะไรขาดบ้าง

แล้วก็ออกมาเดินทางต่อ ตอนนั้น ฝนหยุดแล้วละครับ


ชิตี้ใหม่ ใช้เบาะแบบบุด้วยผ้า ไม่ลื่น และกว้างขวางดีทีเดียว ตำแหน่งนั่งต่ำกว่า Jazz เล็กน้อย พอสบาย แต่พวงมาลัยใช้วัสดุที่ออกจะลื่นมือไปหน่อย จับแล้วไม่รู้สึกกระชับ พวงมาลัยน้ำหนักไม่ดีเหมือน Jazz ตัวญี่ปุ่นเลย

แผงหน้าใต้กระจกบังลมเรียบและกว้างพอสำหรับคนนั่งข้างคนขับเล่น Solitaire ได้เลย หากจะตั้งโต๊ะหมู่บูชาก็สามารถวางพระบูชาหน้าตักกว่าสักฟุตหนึ่งก็น่าจะยังได้


เสียงรบกวนจากภายนอก เวลาวิ่งบนทางหลวงจังหวัด ก็มีเสียงเครื่องยนต์กับเสียงลมปะทะรอบตัวรถ ที่กระหึ่มอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่ความเร็วต่ำ และเสียงลมที่ดังเข้า จะได้ยินเริ่มชัดขึ้นเมื่อความเร็วขึ้นถึง 110 และเลยขึ้นไป

แต่การวิ่งบนถนนกรวด หรือทางสายรอง เช่นสาย 2235 นั้น เสียงรบกวนจากการหมุนของล้อ และช่วงล่าง ดังกระหึ่มขึ้นมาจากพื้นรถชัดเจนตั้งแต่ใช้ความเร็วแค่ 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนบนทางหลวงจังหวัดสายใหญ่ ไม่ปรากฏเสียงจากพื้น หรือจากใต้ท้องรถเลย


ตอนแรก ที่เห็นคันเกียร์ ก็มองอย่างแปลกใจ ที่ฮอนด้า ซิตี้ให้มาเพียงสองจังหวะ คือ D แล้วก็ S เลย แต่ก็ไม่นึกอะไร

จนขับขับไป เห็นมีแพทเดิลชีพอยู่ที่พวงมาลัย เอ๊ะ อะไรหว่า ลองกดปุ่มบวกดูซิ ก็เห็นว่า ขึ้นเลข 5 อยู่ในหน้าปัด เอ้า งั้นกดปุ่มลบดูบ้าง ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 4 และเสียงรอบเครื่องดังสวนขึ้นมาทันที อ๋อ อย่างนี้นี่เอง

ก็เล่นอยู่สักพักครับ ใช้ตอนเข้าโค้งก่อนเข้าถึงบ้านพัก ก็ใช้ได้ดี เร็ว และแม่นยำ แต่ก็ไม่ได้ใช้บ่อยหรอก แค่อัตโนมัติก็พอถมไปแล้ว สำหรับผม

เพราะรถก็เกาะถนนมาก เข้าโค้งได้ด้วยความเร็วไม่แพ้รถคันอื่นที่เอาไปทดลองขับผ่านเส้นทางเดียวกันนี้เลย คือเข้า 80 ออก 90 ได้สบายแทบทุกโค้ง ถือว่า มั่นคงมาก


ผมอยากวิจารณ์ไว้นิดหนึ่ง ก่อนจะนำเรื่องไปลงในมติชน สุดสัปดาห์ คือกลัวลืมนะครับ ว่า เวลาเข้าโค้งนั้น ปกติผมจะเร่งความเร็วเพิ่มเติมหลังจากรถรู้สึกตัวว่าเข้าโค้งแล้ว ในกรณีของ ฮอนด้า ซิตี้ รถแสดงออกถึงอาการเพิ่มแรงกดสู่พื้นเบื้องล่างได้มากขึ้น ทำให้เข้าโค้งได้เร็วกว่า แรงกว่ารุ่นก่อน ทำให้ผมสามารถจะนำรถพุ่งเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แล้วแตะเบรกนิดหน่อย โดยที่เบรกมีความแม่นยำและมั่นคงสูงอยู่แล้ว จากนั้น ก็เร่งต่อออกไปได้เลย หมายถึงการเข้าโค้งเร็ว ออกจากโค้งแรง ในแบบปลอดภัยอีกด้วย


แต่อัตราเร่ง 0-100 ที่คุณธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ทำได้ในเวลาแค่ 11 วินาที ก็ถือว่าดีทีเดียวสำหรับรถยนต์ระดับนี้

อัตราเร่งแซง 80-100 ได้ในเวลาประมาณนะครับ ประมาณ 6 วินาที และจาก 100 ไป 120 ประมาณอีกเช่นกัน 5 วินาที

หากเร่งทีเดียว จาก 80 ไป 120 เลย ใช้เวลาประมาณ 8 วินาทีเท่านั้น ถือเป็นอัตราเร่งแซงที่ใช้ได้ เพราะผมเคยทำกับรถยนต์ส่วนมาก ก็อยู่ในระดับ 7-9 วินาที ของฮอนด้า ซิตี้ จึงถือว่าเร็วพอกับการใช้งานในประเทศไทยอยู่แล้ว


อัตราสิ้นเปลืองของรถก็อยู่ประมาณ 11.5 กิโลเมตรต่อลิตร ขับแบบผมขับนะครับ อาจจะไม่เหมือนคนอื่น เพราะใช้ความเร็วค่อนไปทางข้างสูง ที่ผมดูแล้ว อย่างไรก็ประหยัดเอาเรื่องที่เดียว เมื่อเทียบกับความเร็ว

เพราะอย่างขากลับมานี่ จากปากทางเข้าบ้านซับเศรษฐีบนทางหลวงหมายเลข 2 ถึงบ้านสวนสยาม ใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง โดยคุณธัญญลักษณ์ขับมาเอง ผมนั่งหลับหลับตื่นตื่นมาตลอดทางอย่างแสนสบาย


กลางคืน ไฟหน้าอย่างเดียวก็สว่างดี รูปนี้ ยังไม่ต้องใช้ไฟ Driving Lamp ด้วยนะครับ ก็ยังมองเห็นพื้นถนนข้างหน้า


ขอเก็บรูปนี้ไว้อีกรูป เผื่อเลือกไว้ลงในนิตยสาร


แต่หากฟังเพลง ที่คราวนี้ ผมชอบเพราะใช้เทคโนโลยี USB ที่เอา USB Drive เข้าไปเสียบก็ฟังได้นับร้อยร้อยเพลง ทันสมัยและเหมาะกับคนใช้คอมพิวเตอร์หน่อย ก็เลยเสียบ USB เข้าไป ฟังตลอดการเดินทางทั้งไปและกลับ รวมถึงเวลาที่อยู่ในรถทั้งหมด ยังไม่หมดเพลงที่บันทึกไว้

คือผมไม่ค่อยชอบ CD ที่เลือกเพลงเองไม่ได้ ต้องฟังเพลงที่ชอบและไม่ชอบไปด้วยกัน แต่กับ USB Drive นี้ เราเลือกเพลงบันทึกเองได้เฉพาะเพลงก่อนบันทึกเข้าไปอยู่แล้ว ดังนั้นกว่าสองร้อยเพลงที่ใส่ไว้ จึงเป็นเพลงที่ชอบ และคุ้นเคยทั้งหมด ก็ฟังได้นะซีเล่า

เสียงจากลำโพงรอบคัน 6 ตัว แบ่งแยกและลำดับเสียงโดย Advanced Audio ไม่มี CD แต่เห็นปุ่มบอกว่า USB ก็ควานหาจุดเสียบ USB อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมองเหนือยูนิตเครื่องเสียง ไปเห็นแผงเรียบอยู่ข้างบน ก็ลองงัดแงะดูสักนิด อ้าวเปิดได้นี่หว่า มองเข้าไปข้างในก็เห็นสายเสียบ USB ที่พอเสียบเข้าไป ก็จะเลือกเล่นตั้งแต่เพลงแรกเรื่อยไป


การกันสะเทือนนั้น ต้องยอมรับว่า โดยรวมดี แต่มีเสียงดังโครมครามในช่วงล้อตกลงจากการกระดอน หรือลงหลุม บ้างบ่อยครั้ง แต่การวิ่งบนถนนทั่วไปถือว่าใช้ได้ครับ ไม่มีเสียงเอะอะเอ็ดตะโรอะไรออกมาให้ได้ยิน นอกจากเสียงที่บอกไว้ข้างต้นเมื่อเข้าถนนที่มีกรวดเล็กเล็กอยู่บนผิวจราจร


เผอิญเหลือเกิน ที่ได้เจอฝนทั้งหนักและเบา ทำให้สามารถใช้ที่ปัดน้ำฝนได้ทุกระดับ ลองดูเอาเองก็แล้วกันครับ ว่าการปัดน้ำฝนนั้น ปัดได้ดีหรือไม่เพียงใด ผมคงไม่ต้องบอก เพียงท่านสังเกตดูการปัดกวาดของใบปัดตามนี้ก็แล้วกัน


ที่เก็บสัมภาระนั้น ผมยอมรับว่า ของฮอนด้า ซิตี้ รุ่นใหม่นี้ กว้างขวางเอาการทีเดียว ของที่ผมขนขึ้นไปนั้น มีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คสองตัว กระเป๋าเสื้อผ้าหนึ่งใบ กระติกอาหารแช่เย็นหนึ่งกระติก ถุงเสื้อผ้าและของกระจุกกระจิก กับเสื้อกันหนาวร่วมสิบตัว ที่เอากลับจากบ้านซับเศรษฐี มาซักเตรียมไว้ใช้ ในฤดูหนาวอันใกล้นี้

ของเหล่านี้ หากใส่ในช่องเก็บสัมภาระของ Ford Escape ปกติแล้ว ก็เกือบเต็ม แต่นี่ ยังเหลือที่ให้สำหรับกระเป๋ากล้องแบบ Back Pack ของผมอีกทั้งใบ

และยังมีที่เก็บของกระจุกกระจิกมากมายในห้องโดยสาร รวมถึงถาดเก็บรองเท้าใต้ที่นั่งคนนั่งข้างคนขับ


ผมคงบันทึกไว้เพียงเท่านี้ หากเพื่อนพ้องน้องพี่สมาชิกท่านใด ต้องการอ่านบทความการทดลองขับรถของผม ก็เชิญหาหนังสือมติชน สุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคมนี้ อ่านได้เลยนะครับ หน้า 23 ครับ

Facebook Comments