MG GS ท้าทาย……เหนือความคาดหมาย
หลังจากที่ เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย เปิดตัว MG GS เอสยูวีพันธุ์แรงที่สุดในเซกเมนท์นี้ ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้ที่เคยมีโอกาสได้สัมผัสทั้งบรรดาสื่อมวลชน และผู้ที่สนใจรถยนต์เอ็มจี ถึงสมรรถนะ ความเร็ว และความแรง ทางเอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย จึงสร้างความท้าทายด้วยการสนับสนุนกิจกรรม “ปั่นพิชิตดอยสุเทพ” หรือ การแข่งขันจักรยาน คุมประพฤติเชียงใหม่เมาเท่นไบค์ ครั้งที่ 3 พร้อมทั้งเชิญสื่อมวลชน ได้ร่วมสัมผัสความท้าทาย จากการปั่นจักรยานพิชิตดอยสุเทพ ที่มีความสูงประมาณ 1,685 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยมีรถยนต์ MG GS เอสยูวีพันธุ์แรง เป็นพาหนะนำสื่อมวลชนขาปั่น และรถจักรยานคู่กาย จากกรุงเทพ เดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของดอยสุเทพ
MG GS ได้รับการถ่ายทอดผ่าน DNA มาจากศูนย์ออกแบบรถยนต์ ยูเค เทคนิคคอล เซนเตอร์ (UK Technical Centre) ณ เมืองเบอร์มิงแฮม สหราชอาณาจักร
MG GS มาพร้อมกับกรอบไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เฮชไอดี ไฟส่องสว่างขณะขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไฟท้ายแอลอีดีให้ความสว่างชัดเจนในทุกระยะการขับขี่ พร้อมไฟเบรกดวงที่สามที่ 3 และซันรูฟแบบปรับไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ และการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อเราขับรถทางภาคเหนือผ่านทิวเขา และความร่มรื่นของป่าไม้ เขียวขจี ช่วยให้เราได้สัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ MG GS ยังมาพร้อมระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกหน้าและหลัง รวมถึงราวหลังคา ขณะที่ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตสีทูโทนมีขนาด 18 นิ้ว ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และเติมเต็มความเฉียบคมของรูปโฉมได้อย่างลงตัว
การออกแบบภายในห้องโดยสาร ถูกดีไซน์ให้มีสไตล์สปอร์ต ทันสมัย ด้วยวัสดุหนังระดับพรีเมียมสีดำ เน้นเหลี่ยมคมแบบโมเดิร์น สลับกับเส้นสายโค้งมน ให้ความนุ่มนวลกลมกลืนรอบคัน เบาะที่นั่งด้านหลังสามารถปรับพับได้แบบแยกส่วนแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านท้าย ซึ่งจุดนี้สำคัญมาก เนื่องจากเราเดินทางกันไป 3-4 คน พร้อมสัมภาระกองใหญ่ และรถจักรยาน การพับเบาะจึงช่วยเพื่อพื้นที่ และ ความหลากหลายของห้องโดยสาร พร้อมกันนี้เบาะที่นั่งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้ายังสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือครูส คอนโทรล (Cruise Control) ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายยามเดินทางไกล
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ NEW MG GS คือเทคโนโลยีการสื่อสารอัจฉริยะ inkaNet (อินคาเน็ต) อัดแน่นไปด้วย 12 ฟังก์ชั่น ประกอบด้วย การโทรออก-รับสาย การรับ-ส่งข้อความ หรือแม้กระทั่งการแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านหน้าจอวิทยุ ตลอดจนระบบการนำทางรถยนต์ ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ การตรวจสอบสถานะของรถยนต์ การแจ้งอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน พร้อมการวางแผนการเดินทาง การควบคุมการทำงานของรถยนต์ การตรวจวิเคราะห์รถยนต์ การเตือนความผิดปกติของรถยนต์ และระบบเลขาฯส่วนตัว ระบบนำทางเนวิเกชั่นแสดงผลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว และระบบเครื่องเสียงตอบสนองความบันเทิงผ่านลำโพง 8 ตัว รองรับมัลติมีเดียและการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ พร้อมยูเอสบี (USB) และเอยูเอ็กซ์ (AUX) นอกจากนี้ ยังมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง
ทางด้านขุมพลัง MG GS มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ไดเรคอินเจคชั่น พละกำลังสูงสุด 218 แรงม้าที่ 5,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 2,500 – 4,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ (AWD) ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ TST – Twin Clutch Sportronic Transmission แบบ 6 สปีด อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.2 วินาที สามารถรองรับเชื้อเพลิง E85 นี่คือเหตุผลที่ทำให้ MG GS เป็นรถยนต์เอสยูวีที่แรงที่สุดในคลาสนี้
ระบบกันสะเทือนของ MG GS ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง โครงสร้างตัวถังนิรภัย แข็งแกร่งด้วยเทคโนโลยี FSF – Full Space Frame ป้องกันผู้ขับขี่ และผู้โดยสารทุกที่นั่งด้วยถุงลมคู่หน้า และด้านข้างให้ความอุ่นใจในทุกเส้นทาง
นอกจากนี้ MG GS ยังมีระบบอิเล็คทรอนิกส์ และเทคโนโลยี สำหรับช่วยเหลือผู้ขับขี่ในยามเจอสถานะการณ์ต่างๆ ด้วยระบบ SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 13 ระบบความปลอดภัยที่ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวทั้งระบบ ตั้งแต่การป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน (ABS – Anti-lock Braking System) พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD – Electronic Brake Force Distribution) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS – Traction Control System) ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control) ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS – Stability Control System) ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (AVH – Auto Vehicle Hold) ระบบทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ (BDC – Intelligent Brake Disc Cleaning) ระบบเพิ่มแรงดันไฮดรอลิคเบรกให้เหมาะสม (OHBV – Optimized Hydraulic Brake Servo) ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR – Motor Control Slide Retainer) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBA – Electronic Brake Assist System) ตลอดจนระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS – Hill-Start Assist) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TPMS – Tire Pressure Monitor System) และระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB – Electronic Parking Brake)
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเป็นตัวช่วยให้เราขับขี่ MG GS ได้อย่างสนุกสนาน และปลอดภัย มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่า บางช่วงจะต้องเจอกับทางโค้งที่อันตราย ทางขึ้นเขา ลงเนินลาดชัน รวมฝนที่ตกกระหน่ำลงมาในช่วงของปลายฤดูฝน ก้าวข้ามสู่ต้นหนาว ส่งผลให้พื้นผิวถนนค่อนข้างจะลื่น แต่เราก็สามารถผ่านอุปสรรถต่างๆได้อย่างง่ายดายและแน่นอนที่สุด การปั่นจักรยานจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านสวนสัวต์เชียงใหม่ ขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ผ่านไปถึงเส้นชัย ที่บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ รวมระยะทางกว่า 17 กิโลเมตร และความสูงกว่า 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทำให้ได้สัมผัสถึงความแข็งแกร่ง ความมานะ และความทน ของพลังกาย และกำลังใจ ซึ่งคงไม่ต่างอะไรกับรถยนต์ MG GS เอสยูวีพันธุ์แรง ที่มีทั้งความแกร่ง และความแรง พร้อมที่จะพาเราไปถึงทุกจุดหมาย
##############################################
premsak@caronline.net