ผู้หญิงขับรถ ลองขับ First DriveToyota Camry 2.5 G 2016

ก่อนไปลองขับรถ Camry 2.5 G ก็ทราบความเป็นมาของโตโยต้า คัมรีกันก่อนสักเล็กน้อยนะคะ

img_1796
โตโยต้าคัมรีเป็นรถยนต์ที่ประสพความสำเร็จที่สุดรุ่นหนึ่งของโตโยต้า ครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์ขนาดกลางในหลายประเทศ สำหรับประเทศไทยตั้งแต่แนะนำเจเนอเรชั่นที่ 5 ในเดือนมีนาคม 2558 โตโยต้าคัมรีก็ประสบความสำเร็จครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์ซีดานขนาดกลาง โดยมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 11,199 คัน (ข้อมูลถึง 31 กรกฎาคม 2559)
และเมื่อเดือนสิงหาคม 2559ที่ผ่านมา โตโยต้าก็ได้แนะนำโตโยต้า คัมรีรุ่นปรับปรุงใหม่ ซึ่งรุ่น 2.5 G ก็เป็นหนึ่งนั้น
โดยได้เพิ่มอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายเพิ่มขึ้น มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
ภายนอก ของที่เพิ่มจากเดิมของToyota Camry 2.5 G

img_1953
กระจังหน้าเป็นสีดำ
ยางขนาด 215/55 R 17 ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง และกระจกมองข้างแบบลดการเกาะตัวของหยดน้ำ และปรับไฟฟ้าพร้อมระบบมุมมองกว้าง
คิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมี่ยม

img_1631

 

ภายใน
เบาะที่นั่งเป็นสีเบจ

img_2089
พวงมาลัยแบบสี่ก้านหุ้มหนัง ส่วนหัวเกียร์หุ้มหนังพร้อมลายไม้ พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงผล

การขับขี่ สั่งการทุกระบบด้วยปลายนิ้วไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อแบบไร้สาย

img_2071
ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่และกระจกมองข้าง ซึ่งเราสามารถกดบันทึกได้เลย ไม่ต้องปรับทุกครั้งที่ขึ้นนั่ง
เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าทั้งคนนั่งและคนขับ ปรับได้เหมือนกันทั้งคู่
คนขับมีปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้าให้ด้วย
และมีปุ่มปรับไฟฟ้าที่พนักพิงเบาะผู้โดยสารด้านหน้า

img_2104
หน้าจอขนาด 4.2 นิ้ว เห็นการทำงานเด่นชัด

img_2021
เครื่องเล่น DVD พร้อมลำโพง JBL 12 ตัว
แอร์แบบแยกอิสระซ้าย-ขวา ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ใครต้องการอุณหภูมิเท่าไหร่ก็ปรับตามใจชอบ

img_2062
ผู้โดยสารด้านหลังก็มีแอร์ให้ด้วยค่ะ
ม่านปรับไฟฟ้ากระจกหลัง สามารถปิดใช้งานได้ แต่ถ้าเปิดใช้งานบังแดดอยู่เมื่อเวลาถอยหลังม่านบังแดดจะลดลงอัตโนมัติไม่ให้กีดขวางสายตาเวลาถอย
และกระจกมองข้างปรับอัตโนมัติเวลาถอย ให้เห็นมุมชัดเจนขึ้น
และมีกล้องมองหลังรถเวลาถอยด้วย

img_2096

img_1942

 

แล้วก็ได้เวลาที่จะไปขับจริงโดยในช่วงเช้าก็ไปพบกันที่ Toyota Driving Experience ที่บางนา
และมีการแนะนำให้รู้จักเทคโนโลยี่ต่างๆในรถที่เพิ่มขึ้นมา

img_1391
อย่างเช่นมีสัญญาณเตือนขณะถอยหลัง มีเซ็นเซอร์คอยตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนเข้ามาด้านหลังขณะถอยรถ โดยจะแสดงการเตือนผ่านไฟกระพริบที่กระจกข้างพร้อมเสียงสัญญาณเตือน
และมีสัญญาณเตือนกะระยะที่มุมกันชนทั้ง 4 มุมและด้านหลัง 2 จุด
และเราก็ได้ลงไปลองขับกันบนสนาม ซึ่งมีทั้งทางตรง ทางคดเคี้ยวและทางขรุขระ พร้อมทั้งการขับขี่แบบสลาลอม และบนถนนที่ลื่น
ก็ได้เห็นทั้งระบบความปลอดภัยทั้ง VSC ระบบควบคุมรถให้ทรงตัวอย่างมั่นคงบนทางโค้งหรือบนถนนเปียกลื่น และ TRC ควบคุมและป้องกันล้อหมุนฟรี ซึ่งก็ทำงานให้เห็นจะจะ ว่าทำงานจริง ซึ่งเราก็วิ่งในความเร็วที่ไม่สูงมากนัก ก็คิดว่าในสถานการณ์จริงเราเจอก็คงจะลดความเร็วเช่นกัน แต่อุปกรณืความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามาก็ช่วยให้อุ่นใจขึ้น
ลืมพูดเรื่องเครื่องยนต์ คันนี้เครื่องยนต์ 2,500 ซีซี Dual VVT-I 4 สูบ แรงม้า 181 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 231 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift คือ + -ที่คันเกียร์

img_1894

img_1551

หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทาง ไปหัวหิน ระยะทางไปกลับก็ประมาณ 200  กว่ากิโลเมตร
ขึ้นไปครั้งแรกก็เป็นผู้โดยสารไปก่อน ที่นั่งปรับฟ้าได้ตามความพอใจแปดทิศทาง สูงต่ำได้ มีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
มองจอที่อยู่ตรงกลาง มีเนวิเกเตอร์แบบหน้าจอสัมผัสรองรับ T-connect ระบบจะประมวลเส้นทางผ่านทาง GPS และแสดงแผนที่ผ่านทางจอ LCD เราก็ตั้ง GPS เพื่อเดินทาง

img_2059
มีช่องเสียบ USB/VTR/AUX ก็เลยเปิดเพลงผ่านทาง youtube สัญญาณชัดผ่านลำโพง JBL 12 ตัว ฟินไปเลย
คราวนี้ก็ได้ลองชาร์ตโทรศัพท์มือถือซึ่งสามารถชาร์ตแบบ ไร้สาย ที่ชาร์ตจะอยู่ตรงคอนโซลกลาง เพียงวางสมาร์ทโฟนบนถาดชาร์ต ซึ่งระบบชาร์ตต้องใช้กับอุปกรณ์เสริมของมือถือแต่ละรุ่น เท่าที่สังเกตุดูชาร์ตได้เร็วทีเดียว ไปกันหลายคนก็เลือกเอาว่าใครจะชาร์ตที่ไหน อย่างไร
ปรับแอร์ตามความเย็นที่เราต้องการ เพราะแยกส่วนกับผู้ขับขี่ แค่นี้ก็สบายแล้ว
ที่นั่งก็นั่งได้สบายเป็นหนังและวัสดุสังเคราะห์

ภายในรถมองดูกว้างขวาง สีเบจที่ใช้ดูสะอาดตาและทำให้รถดูกว้างมากขึ้น

img_2089
และระบบความปลอดภัยที่ดีอีกอย่างหนึ่งก็คือเซ็นเซอร์ตรวจจับวัสดุในมุมอับสายตา คือถ้าเราอยู่ในเลน และมีรถวิ่งมาในมุมใกล้เราเซ็นเซอร์ก็จะขึ้นไฟกระพริบที่ กระจกมองข้าง ถ้ารถที่อยู่ในมุมอับอยู่ด้านซ้าย ไฟที่กระจกซ้ายก็จะกระพริบ ถ้าด้านขวาไฟที่ด้านขวาจะกระพริบ ไฟนี้จะไม่รบกวนสายตา เพราะเราตองเห็นแวบๆทางหางตา แต่จะไม่ส่งเสียงนะคะ

img_2038
แล้วเราก็แวะพักเพื่อดื่มน้ำกันที่เพชรบุรี

img_1596
ซึ่งหลังจากนี้ดิฉันก็เป็นคนขับละคะ กดสตาร์ทรถ ปรับทุกอย่างให้เข้าที่ที่นั่งปรับได้ 8 ทิศทาง สูงต่ำสบายมาก
ปรับที่นั่งและกระจกมองข้างให้ได้มุมที่ต้องการ เสร็จแล้วก็กดบันทึกไว้ คราวต่อไปจะได้ไม่ต้องปรับอีก
เท้าซ้ายกดปลดเบรกมือที่อยู่ที่เท้า

img_1796
ทุกอย่างเข้าที่ก็ออกรถได้เลย ความเร็วมาอย่างต่อเนื่อง กดเมื่อไหร่ก็มา อัตราเร่งแซงดี
พวงมาลัยควบคุมง่าย อยากรู้อะไรที่หน้าจอก็ปรับที่พวงมาลัย ภายในรถเงียบ เก็บเสียงได้ดี
ช่วงล่างเซ็ทไว้ดี ไม่กระเทือน เมื่อเจอทางขรุขระช่วงล่างก็นิ่มนวลค่ะ การเกาะถนนก็มั่นใจได้
ส่วนเรื่องเบรกอาจะต้องเหยียบลงลึกนิดนึง สักพักก็จะชินค่ะ
การจะเปิดหยิบของที่ท้ายรถ ก็เปิดจากด้านนอกได้เลย ห้องสัมภาะรกว้างค่ะ

img_2007
ใช้น้ำมัน แก๊สโซฮอล์E10 และ E20 ถังน้ำมันจุ 70 ลิตร
อัตราการกินน้ำมัน อยุ่ที่ 13 กิโลเมตรต่อลิตร ที่ความเร็ว 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ราคา รถคันนี้ราคา 1,599,999 บาท

 

เป็นรถที่เหมะสำหรับขับเอง หรือมีคนขับให้นั่งก็ดีนะ เพราะด้านหลังกว้างขวางมีแอร์มีม่านบังแดดครบทุกด้าน
เตรียมพร้อมให้คนนั่งหลัง

img_2096 img_2099 img_2075
หากแคบไปก็สามารถเลื่อนที่นั่งด้านหลังผู้โดยสารได้ เพราะมีปุ่มปรับเลื่อนเก้าอี้อยู่ด้านข้างที่นั่งผู้โดยสาร
ก็เป็นรถที่ดูหรูหราอย่างมีสไตล์
สนใจก็ไปลองขับนะคะ โชว์รูมและศูนย์บริการก็มีเยอะค่ะ

img_1608

 

ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ
Facebook Comments