มาสด้า3 รถยนต์ยอดนิยมของคนทั่วโลก ฉลองการผลิตครบ 5 ล้านคัน
ที่ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ออกประกาศว่า รถยนต์นั่งมาสด้า3 (หรือในญี่ปุ่น เรียกว่า เอ็กซ์เซล่า) ประสบความสำเร็จอย่างสูงมียอดการผลิตครบ 5 ล้านคันไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ที่สำคัญ คือ เป็นรถยนต์มาสด้ารุ่นที่ 2 ที่มียอดผลิตเกินกว่า 5 ล้านคัน โดยรุ่นก่อนหน้านี้ คือ มาสด้า แฟมิเลีย และรถยนต์นั่งมาสด้า3 รุ่นนี้ยังได้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ให้กับชาวมาสด้า ด้วยการมียอดผลิตทะลุ 5 ล้านคันภายในเวลาเพียง 12 ปี 10 เดือน นับตั้งแต่มาสด้าได้เริ่มต้นสายพานการผลิตเมื่อเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2546
รถยนต์นั่งมาสด้า3 ถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญอย่างยิ่งของมาสด้า และมียอดการจำหน่ายถึงคิดเป็น 1 ใน 3 ของรถยนต์มาสด้าที่จำหน่ายทั่วโลก ซึ่งมีสายการผลิตอยู่ที่ โรงงานโฮฟุ ประเทศญี่ปุ่น โรงงานฉางอันมาสด้าออโต้โมบิล ประเทศจีน โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย และโรงงานมาสด้า เด เม็กซิโก วีฮิเคิล โอเปอเรชั่น ประเทศเม็กซิโก นอกจากนี้ยังมีโรงงานประกอบรถยนต์ที่ประเทศมาเลเซียและเวียดนามอีกด้วย
มาสด้า3 (รถมาสด้า3ในประเทศญี่ปุ่น)
นับตั้งแต่รถมาสด้า3 เจนเนอเรชั่นแรก มาสด้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนารถยนต์ที่เหนือความคาดหวังของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกแบบด้วยรูปลักษณ์อันสง่างามทรงพลัง ให้การตอบสนองการขับขี่เป็นเลิศ และให้สมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจ รถยนต์มาสด้า3 ที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน คือ รถยนต์มาสด้า3 เจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเป็นการออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดในปี พ.ศ. 2556 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และแนวทางการออกแบบภายใต้แนวคิด โคโดะ ดีไซน์ – Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว เป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งในรถยนต์เจนเนอเรชั่นล่าสุดของมาสด้า มาสด้า3 นับเป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและได้รับการชื่นชมยกย่องไปทั่วโลก สามารถพิชิตรางวัลอันทรงเกียรติต่างๆมากมาย อาทิ รถยนต์นั่งขนาดเล็กยอดเยี่ยมจากประเทศแคนนาดา ประจำปี พ.ศ. 2556 (Canadian Car of the Year’s Best New Small Car) และรางวัล International Red Dot Design Award ในปี 2557 นอกจากนี้ยังติดอันดับ Top 3 หรือหนึ่งในสามอันดับสูงสุดของรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกและรางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมของโลกในปี 2557 อีกด้วย
มาสด้าจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนารถยนต์เพื่อส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ให้กับลูกค้าทุกคน ให้สมรรถนะการขับขี่เป็นเลิศและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ความปลอดภัยสูงสุด เพื่อเติมเต็มชีวิตของลูกค้าและกลายเป็นแบรนด์ที่ผูกพันกับลูกค้าด้วยสายสัมพันธ์อันแสนพิเศษตลอดไป
ทางด้าน นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า รถยนต์นั่งมาสด้า3 เจนเนอเรชั่นล่าสุด เปิดตัวในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2557 เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ ระบบเชื่อมต่อโลกออนไลน์ผ่านเทคโนโลยี MZD Connect และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันระดับโลก i-ACTIVSENSE ที่สำคัญได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยอย่างล้นหลามมียอดการจำหน่ายไปแล้วกว่า 17,000 คัน ด้วยระเวลาเพียง 2 ปีเศษ
…………………..
HIROSHIMA, Japan—Mazda Motor Corporation has announced that the total production volume of the Mazda3 (known as Mazda Axela in Japan) reached five million units at the end of April 2016. It is the second Mazda to reach five million units of production, following the Mazda Familia.* The Mazda3 sets a new record for Mazda by achieving the milestone figure in only twelve years and ten months since production of the model commenced in June 2003.
The Mazda3 is a core model for Mazda, accounting for approximately one third of the company’s annual sales volume. It is manufactured at the Hofu Plant in Japan, Changan Mazda Automobile Co., Ltd., in China, AutoAlliance (Thailand) and Mazda de Mexico Vehicle Operation in Mexico. It is also assembled in Malaysia and Vietnam.
Mazda Axela (with Japanese specifications)
Since the first generation, Mazda has consistently worked to exceed expectations with the Mazda3, refining its dynamic design and responsive and enjoyable driving performance. Currently in its third generation, the Mazda3 was fully redesigned in 2013, adopting SKYACTIV TECHNOLOGY and KODO—Soul of Motion design to join Mazda’s new-generation lineup. Critically acclaimed around the globe, the model won Canadian Car of the Year’s Best New Small Car in 2013 and the international Red Dot Design Award in 2014. It was named a Top 3 Finalist for World Car of the Year and World Design Car of the Year in 2014.
Moving forward, Mazda will continue to develop products which offer all customers driving pleasure and outstanding environmental and safety performance. The company aims to enrich people’s lives and become a brand connected to its customers by a special bond.