Review :Test drive ทดสอบ ทดลองขับ : NEW NISSAN TEANA : นิสสัน เทียน่า ใหม่


เมื่อช่วงที่ผ่านมานั้นได้ร่วมเดินทางไปทดลองขับรถนิสสัน เทียน่า ใหม่ โดยครั้งนี้ลงใต้ไปขับกันที่จังหวัดตรัง ซึ่งหากจะจะพูดถึง เทียน่า นั้น รุ่นนี้นับเป็นเจนเนอร์เรชั่นที่ 3 แล้วสำหรับตลาดในบ้านเรา
จากสนามบินจังหวัดตรังมุ่งหน้าสู่โชว์รูม นิสสัน เอกภัทร เมืองตรัง เพื่อฟังบรรยายและสรุปเส้นทางกันในครั้งนี้โดยใช้ระยะทางกว่า 150 กิโลเมตรบนเส้นทาง ตรัง-สิเกา


แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่ารูปลักษณ์ นิสสัน เทียน่า ใหม่ นั้นไปละม้ายคล้ายกับรุ่นนี้อย่าง ซิลฟี่ แต่เมื่อได้สัมผัสกันแบบเต็มๆนั้นต้องบอกว่ามีความแตกต่างอยู่มาก เทียน่าใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Suggestive Aura ด้วยดีไซน์ปราดเปรียวล้ำสมัย เส้นสายที่พลิ้วไหวจากภายนอกสู่ห้องโดยสารที่กว้างขวางสไตล์สปอร์ตมีความหรูหราภายใน มีการตกแต่งโครเมียมจากกระจังหน้าจรดฝากระโปรงท้าย ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์เลนส์ซีนอน พร้อมไฟเลี้ยวและไฟท้ายแบบ LED หลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้าและกระจกมองข้างดีไซน์ใหม่


เมื่อได้เวลาพร้อมก็กระโดดขึ้นรถกันเลยซึ่งรถคันที่ได้ขับเป็นรุ่น 2.5 XV ไม่มี NAVI ใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด QR25DE ขนาดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร DOHC เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Twin CVTC เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 234 นิวตัน-เมตร (23.8 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 173 แรงม้า (พีเอส) ที่ 6,000 รอบต่อนาที ซึ่งมาพร้อมกับ ระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT รุ่นใหม่ล่าสุด ลดแรงเสียดทานของระบบเกียร์ลงราวร้อยละ 40 ให้สมรรถนะการทำงานที่ดีขึ้น พร้อมขยายความกว้างของอัตราทดเกียร์เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยราวร้อยละ 17 สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco Mode ขับขี่แบบประหยัด D-Mode ขับขี่แบบอัตโนมัติ และ Ds-Mode ให้อารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ต


การขับขี่ในครั้งนี้มีทั้งการขับผ่านในตัวเมืองการจราจรนั้นค่อนข้างจอแจแถมถนนในเมืองบางช่วงยังแคบอีกแต่ นิสสันเทียน่า ก็ยังให้ความคล่องตัวในการขับขี่ได้ น้ำหนักพวงมาลัยดีมากและมีความเฉียบคมอยู่ให้การบังคับความคุมได้ดั่งใจช่วงล่างที่เซ็ตมาได้แบบตามสไตล์ของนิสสัน ที่ชอบมาในแนวนุ่มนวลมาครั้งนี้ก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์อยู่แต่แฝงด้วยความเป็นสปอตร์ตมากขึ้น สังเกตการช่วงที่วิ่งอยู่นอกตัวเมืองและใช้ความเร็ววิ่งผ่านทางรถไฟนั้นการกระเทือนนั้นไม่มากจัดอยู่ในขั้นดีเลยรถไม่มีออกอาการเสียการทรงตัว ระบบช่วงล่างหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลังอิสระมัลติลิงค์แบบใหม่พร้อมเหล็กกันโคลงแถมการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารนั้นเงียบมากแม้ใช้ความเร็วอยู่ในช่วง 140-160 ก.ม./ช.ม.


ภายในห้องโดยสารนั้นมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเริ่มจากWelcome Seat เบาะนั่งคนขับปรับถอย-เดินหน้าอัตโนมัติ 40 มิลลิเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกขณะขึ้น-ลงจากรถ และระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ Memory Seat 2 หน่วยความจำ ซึ่งเชื่อมต่อกับกุญแจอัจฉริยะ Intelligent Key แต่ละดอก ซึ่งปรับตำแหน่งเบาะนั่งและกระจกมองข้างตามความต้องการที่แตกต่างของผู้ขับขี่แต่ละคนโดยอัตโนมัติ
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control พวงมาลัยหนังปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง และเบาะด้านหลังพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถกว้างขวางเปิดทะลุถึงห้องโดยสารได้


แต่ที่อยากให้ทุกคนนั้นได้สัมผัสนั้นคือเครื่องเสียง BOSE แบรนด์ระดับโลก ที่ได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษให้เหมาะสมกับห้องโดยสารของนิสสัน เทียน่า ใหม่ ประกอบด้วยแอมป์ระบบดิจิตอล พร้อมระบบ Digital Signal Processing (DSP) และลำโพง 9 ตัว หากได้แผ่นเสียงดีๆหรือเพลงที่คุณฟังประจำอยู่ลองมาฟังผ่านเครื่องเสียงชุดนี้ดูแล้วคุณจะไม่อยากลงจากรถเลย


ส่วนเรื่องของความปลอดภัย นิสสัน เทียน่าใหม่นั้นก็จัดมาให้แบบเต็มๆเริ่มจาก ระบบช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Transport System: ITS) เป็นระบบแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่รับทราบข้อมูล 360 องศารอบคันรถ โดยแสดงข้อมูลผ่านระบบแสดงข้อมูลอัจฉริยะ (Advanced Drive-Assist Display: ADAD) ซึ่งเป็นหน้าจอ 3 มิติ เชื่อมต่อกับระบบควบคุมบนพวงมาลัย จัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้เด่นชัดจึงไม่ต้องละสายตาจากถนน ระบบ ITS ทำงานร่วมกับการทำงานของระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Departure Warning: LDW) ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนไหวในทิศทางที่ออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจขณะที่มีความเร็วสูงกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งระหว่างการทดสอบถ้าหากขับรถออกนอกเลนโดยมีข้อแม้ว่าต้องมีเส้นถนนที่แบ่งเลนไว้ไม่ว่าเส้นทึบหรือเส้นปะหากขับไปทับเส้นก็จะมีเสียงร้องดังขึ้น หรือหากเปลี่ยนเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวก็จะมีเสียงสัณญาณดังขึ้น


และระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) ซึ่งจะแจ้งเตือนให้ทราบว่ามีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตาทั้งด้านซ้ายและขวาของผู้ขับขี่เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทาง ขณะที่มีความเร็วสูงกว่า 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง และระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบรถ (Moving Object Detection: MOD) ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบว่ามีวัตถุเคลื่อนที่รอบคันรถ
ระบบช่วยควบคุมทิศทางขณะเลี้ยว (Active Trace Control: ATC) ซึ่งช่วยป้องกันอาการหน้าดื้อโค้ง โดยระบบ ATC จะส่งแรงเบรกไปชะลอ 2 ล้อด้านในที่หักเลี้ยว เพื่อช่วยรักษาทิศทางของตัวรถให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamics Control: VDC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System: TCS) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) และระบบถุงลม 6 จุด ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (SRS Airbags) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Curtain Airbags) ระบบกุญแจอัจฉริยะพร้อมระบบ Immobilizer ระบบกันขโมย และกล้องมองหลัง


เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมายในช่วงบ่ายยังมีการให้ลองระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Around View Monitor: AVM) ระบบนี้สามารถให้ผู้ขับขี่มองเห็นวัตถุรอบตัวรถได้สะดวกและชัดเจนยิ่งขึ้นขณะเข้าจอด ซึ่งจะแสดงให้เห็นภาพทั้งด้านหลังด้านข้างทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวารวมไปถึงด้านหน้าด้วย ซึ่งหลังจากที่ได้ลองระบบนี้แล้วขอบอกว่าช่วยได้เยอะสำหรับมือใหม่หรือถอยจอดในที่แคบๆว่าซ้ายขวายังห่างอยู่อีกเยอะรึเปล่าลองใช้ดูแล้วจะติดใจ


สรุปส่งท้าย เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรแบบที่เปลี่ยนจากเครื่อง V6 สูบ มาเป็นแบบแถวเรียง 4 สูบนั้นส่วนหนึ่งมาจากการเน้นในเรื่องของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ในเรื่องของพละกำลังและอัตราเร่งไม่ได้ด้อยไปกว่าเดิมเผลอๆจะดีกว่าด้วยซ้ำไป น้ำหนักพวงมาลัยให้น้ำหนักกำลังดีและยังแปรผันไปตามความเร็วของรถอีกด้วย ช่วงล่างหนึบแถมยังนิ่มนวล การยึดเกาะเฟิร์มมาก อย่างสุดท้ายที่ปรับปรุงและทำได้ดีมากคือระบบเกียร์ CVT ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนกับการขับขี่รถที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติที่เป็นแบบปกติทอร์กคอนเวอร์เตอร์
นิสสัน เทียน่า ใหม่ มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ได้แก่ รุ่น 2.0XE 2.0XL 2.0 XL Navi และเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ได้แก่ 2.5XV และ 2.5XV Navi ในราคาตั้งแ1,270,000 -1,620,000 บาท

#################################################

premsak@caronline.net

Facebook Comments