Review :Test drive ทดสอบ ทดลองขับ และ ทำความรู้จักกับThe Next Generation Technology Forum 2013 MAZDA SKYACTIV
อย่างที่ผมเคยพูดอยู่บ่อยๆว่าค่ายรถยนต์นั้นไม่เคยที่จะหยุดนิ่งมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อยู่เสมอแม้อาจจะไม่ใช่การพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมดแต่มีการนำของที่มีอยู่แล้วนั้นมาต่อยอดเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาให้ดีกว่าเดิม
มาวันนี้แนวคิดดั้งเดิมของมาสด้าก็ได้นำมาต่อยอดออกมาเป็นเทคโนโลยี “สกายแอคทีฟ”(sky activ) เราจะมา ซูมซูม zoomzoom ไปพร้อมกัน
เพื่อที่จะให้เกิดความเข้าใจของเทคโนโลยีใหม่ในครั้งนี้นั้นทาง บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมือกับ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จัดงานเปิดตัวแนะนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่กำลังจะถูกนำมาผลิตเป็นรถยนต์คันจริงเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ภายใต้ชื่อว่า “เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ” SKYACTIV TECHNOLOGY ซึ่งงานนี้ใช้เวลาเกือบทั้งวันในการเข้าฟังบรรยยายจากทางทีมวิศวกรของมาสด้าญี่ปุ่นซึ่งบินตรงมาบรรยยายให้สื่อมวลชนชาวไทยฟังกัน
อย่างที่บอก แนวคิดง่ายๆของมาสด้าที่ต้องการทำรถให้ขับสนุกและประหยัดหรือว่าทั้งแรง วิ่งดี ประหยัดพลังงาน แนวคิดง่ายๆของมาสด้านั้นก็คือการลดน้ำหนักของตัวรถให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งตัวถัง เครื่องยนต์และส่วนประกอบต่างๆ เพราะถ้าน้ำหนักรถเบาขึ้นนั้นก็จะทำให้วิ่งได้ดีขึ้นและการสิ้นเปลืองพลังงานก็จะลดไปด้วย ซึ่ง เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ แยกย่อยออกมา 5 อย่างซึ่งขอเล่าแบบรวมๆไว้เริ่มจาก
เครื่องยนต์เบนซิน สกายแอคทีฟ-จี SKYACTIV-G:
เทคโนโลยีแบบใหม่ทั้งหมดได้ถูกนำไปใช้กับเครื่องยนต์เบนซินสกายแอคทีฟ-จีรุ่นใหม่ที่มีการฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงเข้าห้องเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ได้ถูกปรับไปเป็นรูปแบบใหม่ที่สามารถแก้ประเด็นปัญหาที่มิอาจแก้ได้ให้เป็นไปได้ วิธีการที่ไม่ธรรมดาดังกล่าวเป็นเรื่องปกติของวิธีทางวิศวกรรมที่ไม่เหมือนใครของมาสด้า
จุดเด่น:
• อัตราส่วนการอัดสูงเป็นพิเศษ 14:1
• อัตราส่วนการอัดที่สูงสามารถเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการทำท่อระบายไอเสียแบบ 4-2-1 ลูกสูบ แบบมีโพรง หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงหลายรูแบบใหม่ และนวัตกรรมอื่นที่ป้องกันการเผาไหม้ผิดปกติ (การน็อค)
• ความเสียดทานในเครื่องยนต์ลดลง 30%
• จังหวะการเปิด-ปิดวาล์วตามลำดับแปรผันอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านไอดีและไอเสีย (dual S-VT) สามารถลดการสูญเสียเนื่องจากการปั๊ม
• การออกแบบโดยใช้วัสดุเบา: น้ำหนักลดลงโดยรวม 10%
• ลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลงได้ 15% โดยประมาณ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซิน MZR ขนาด 2 ลิตร ของมาสด้าในปัจจุบัน
• แรงบิดเพิ่มขึ้น 15% โดยประมาณที่รอบต่ำถึงรอบปานกลาง
เครื่องยนต์ดีเซลสกายแอคทีฟ-ดี SKYACTIV-D:แรงบิดสูงและการเผาไหม้สะอาด
สะอาด รอบจัด ตอบสนองดี และสนุกในการขับขี่มากกว่าเดิม: มาสด้าได้ยกระดับกำลังของเครื่องยนต์ดีเซลด้วยสกายแอคทีฟ-ดี อัตราส่วนการอัดมีบทบาทสำคัญในฐานะที่เป็นกระบวนการภายในที่ได้ถูกปรับปรุงอย่างสมบูรณ์ ผลลัพธ์ที่ได้คือพลังงานที่มีประสิทธิภาพจากการออกแบบทางวิศวกรรมมาเพื่อบรรลุมาตรฐานสูงสุดด้านสิ่งแวดล้อมโดยไม่ต้องใช้ระบบบำบัดไอเสียพิเศษ
จุดเด่น:
• การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงประมาณ 20% (เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล MZR-CD ขนาด 2.2 ลิตร ของมาสด้าในปัจจุบัน) เนื่องจากอัตราส่วนการอัดที่ต่ำถึง 14:1 และช่วงการขยายตัวมากขึ้นแบบต่อเนื่องหลังการเผาไหม้
• ระยะยกวาล์วแปรผันด้านไอเสียทำให้การนำไอเสียกลับมาใช้ใหม่เกิดขึ้นภายในได้ สิ่งนี้ทำให้การเผาไหม้มีเสถียรภาพอย่างทันทีหลังสตาร์ทในขณะเครื่องยนต์เย็น
• เทอร์โบชาร์จเจอร์สองขั้น Two-stage Turbocharge ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องตลอดช่วงความเร็วรอบ (สูงสุด 5,200 รอบต่อนาที)
• มีน้ำหนักลดลง 10% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล MZR-CD ขนาด 2.2 ลิตร ของมาสด้าในปัจจุบัน
• ความเสียดทานภายในเครื่องยนต์ลดลง 20%
• เครื่องกรองฝุ่นละอองดีเซลแบบเซรามิกที่มีประสิทธิภาพสูง
• เป็นไปตามข้อบังคับการปลดปล่อยมลพิษ Euro 6 ของยุโรป Tier II BIN 5 ของสหรัฐอเมริกา และ Japan’s Post New Long-Term ของญี่ปุ่น โดยไม่ต้องใช้เครื่องบำบัดก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ที่มีราคาแพง
เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ-ไดรฟ์ SKYACTIV-AT:
เกียร์อัตโนมัติที่ราบเรียบ ตอบสนองดี และสนุกในการขับขี่ พร้อมทั้งยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง:สกายแอคทีฟ-ไดรฟ์ของมาสด้าได้ถูกออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดในโลกด้วยการทำงานโดยอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพ แม้ว่าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลแรงบิดสูง เข้าเกียร์เดินหน้าได้เลย!
จุดเด่น:
• เทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใครนี้ได้รวมข้อดีของเกียร์ซีวีที (CVT) คลัตช์แผ่นคู่ (Dual Clutch) และเกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน
• การควบคุมการขับเคลื่อนโดยตรงตลอดช่วงการทำงาน (ทอร์กคอนเวอร์เตอร์ที่มีระบบคลัตช์แบบล็อคอัพตลอดช่วงการทำงาน) ทำให้รู้สึกเหมือนขับขี่ด้วยเกียร์ธรรมดาอย่างแม่นยำ และปรับปรุงการประหยัดเชื้อเพลิงได้สูงสุด 7% เมื่อเปรียบเทียบกับเกียร์อัตโนมัติในปัจจุบัน
• มีการตอบสนองในการเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วและราบเรียบ เนื่องจากโมดูลเมคคาโทรนิกส์แบบใหม่
• ทรงกำลัง เร่งดีอย่างต่อเนื่องจากจุดหยุดนิ่ง
• สามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี และสกายแอคทีฟ-ดี
เกียร์ธรรมดาสกายแอคทีฟ-เอ็มที SKYACTIV-MT:
เบากว่า เล็กกว่า ประสิทธิภาพมากกว่า: มาสด้าสร้างนวัตกรรมใหม่สำหรับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะสกายแอคทีฟ-เอ็มที เพื่อปรับปรุงการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ยังสนุกในการขับขี่ เทียบกับความรู้สึกในการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและแม่นยำของ MX-5 ที่เป็นตำนานของมาสด้า
จุดเด่น:
• ถูกออกแบบให้เหมาะกับเครื่องยนต์วางด้านหน้าของรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ที่มีการเปลี่ยนเกียร์ง่ายและแน่นเหมือนรุ่น MX-5
• ถูกออกแบบทางวิศวกรรมใหม่ให้มีขนาดและน้ำหนักลดลงเป็นอย่างมาก
• ความกระทัดรัดทำให้การจัดวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• การประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้น เนื่องจากความเสียดทานภายในลดลง
สกายแอคทีฟ-บอดี้: SKYACTIV-BODY
แข็งแรงและปลอดภัยมากขึ้น แต่เบากว่าเดิม นักพัฒนาของมาสด้ากลับไปที่กระดานวาดภาพในการออกแบบสกายแอคทีฟ-บอดี้ ซึ่งเป็นการบูรณาการทางวิศวกรรมของวัสดุที่มีน้ำหนักเบาความแข็งแรงของวัสดุ และโครงสร้างใหม่ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
จุดเด่น:
• น้ำหนักลดลง 8% โดยใช้โครงสร้างตัวถังที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ กระบวนการผลิตใหม่ และใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูงในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
• พลศาสตร์ของการขับขี่ที่ดีขึ้น เนื่องจากความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 30% ที่เป็นผลมาจากแนวคิด “โครงสร้างตรง” และ “งานโครงกรอบแบบต่อเนื่อง” (โครงสร้างวงแหวน) สำหรับชิ้นส่วนโครงสร้าง
• สมรรถนะความปลอดภัยหลังการชนขั้นสูงสุด โดยการพิจารณาโซนการรับแรงปะทะด้วยแนวกการรับแรงที่หลากหลายทิศทาง
สกายแอคทีฟ-แชสซี SKYACTIV-CHASSIS:
มาสด้ามาพร้อมกับแชสซีที่รวมการควบคุมรถได้อย่างคล่องแคล่ว ความสบายในการขับขี่ และความมีสเถียรภาพจนสุดขีดจำกัดของรถ สกายแอคทีฟ-แชสซียังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าจากการออกแบบที่มีน้ำหนักเบา คนขับรถจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับรถ
จุดเด่น:
• “Jinba Ittai” ความรู้สึกที่เหมือนกับ “ความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างรถและผู้ขับขี่” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการควบคุมรถของ MX-5 และความสบายในการขับขี่อย่างมาก
• คุณภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้นตลอดช่วงความเร็วรอบใช้งาน (ความคล่องแคล่วในช่วงรอบต่ำถึงปานกลางและความมีสเถียรภาพที่รอบสูง) เนื่องด้วยการออกแบบทางวิศวกรรมใหม่ที่สมบูรณ์ของการวางระบบรองรับด้านหลัง ตำแหน่งของเทรลลิ่งอาร์ม ส่วนประกอบของระบบบังคับเลี้ยวและการตั้งค่าการขับขี่จากทุกองค์ประกอบ
• ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า จากน้ำหนักของแชสซีที่ลดลง 14% เนื่องมาจากระบบรองรับที่พัฒนาขึ้นใหม่ ได้แก่ สตรัทด้านหน้า และเพลาหลังแบบมัลติลิ๊งค์
หลังฟังบรรยายกันเสร็จเราก็มุ่งหน้าสู่ สนาม แก่งกระจาน เซอร์กิต จังหวัดเพรชบุรี เพื่อสัมผัสเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ แบบตัวเป็นๆซึ่งรถที่นำมาให้สื่อมวลชนสัมผัสนั้นแม้จะมีการพลางตัวกันไว้ก็ตามแต่เดากันได้ไม่ยากเพราะในตลาดโลกตอนนี้รถมาสด้าที่มีเทคโนโลยี สกายเทคทีฟ มีอยู่สองรุ่นนั้นคือ มาสด้า 6 ซึ่งเป็นรถซีดาน กับ มาสด้าซีเอ็กซ์ 5 (cx5) ซึ่งเป็นครอสโอเวอร์ รถที่พวกผมเห็นเป็นรถเก๋งจะเป็นอื่นไม่ได้นอกจาก มาสด้า 6 นั้นเอง
ในครั้งนี้ทีมงานได้เตรียมรถไว้ทั้งหมด 4 คันทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ สกายแอ็กทีฟจี เครื่องเบนซิน และสกายแอ็กทีฟดี เครื่องดีเซล อย่างละ 2 คัน
พร้อมแล้วก็ก้าวเท้าขึ้นรถเริ่มด้วยตัวเบนซินก่อนปรับตำแหน่งเบาะที่นั่งให้เข้าที่เข้าทาง สตาร์ทรถซึ่งแรกที่สัมผัสรับรู้ได้ทันทีว่าการเก็บเสียงภายในห้องสารนั้นเงียบมากเมื่อได้สัญญาณจากเจ้าหน้าที่ก็ออกตัวจากพิทไปหยุดรอสัญญาณอีกครั้งที่ปลายพิทเมื่อรถหยุดนิ่งพร้อมกับเท้าที่เหยียบเบรกไว้เครื่องก็ดับลงเพราะมีระบบไอเดิลสต็อป พอได้ธงเขียวจากเจ้าหน้าที่เพียงแค่ยกเท้าออกจากเบรกเครื่องยนต์ก็ติดมาทันที
สถานีทดสอบใน สนามแก่งกระจาน นั้นทางทีมงานจัดให้มีการขับหลากหลายรูปแบบทั้ง การขับแบบสลาลม การเข้าโค้ง การเปลี่ยนเลนแบบแคบๆ การทดสอบอัตราเร่ง การเบรก ซึ่งเป็นการขับแบบเต็มสนามโดยขับคนละสองรอบก่อนที่จะมาเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนรถกันแล้วขับต่ออีกคนสองเป็นอันเสร็จสิ้นในการขับ
หลังจากการลองขับการตอบสนองของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรที่ได้แรงบิดเพิ่มมาอีก 15% ในช่วงรอบต่ำจนถึงช่วงกลางพลังกำลังมีการไหลลื่นและมาอย่างต่อเนื่องบวกกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะเปลี่ยนแบบนุ่มนวลแต่ยังคงให้ความตอบสนองแบบคุ้นเคยว่ามีการเปลี่ยนเกียร์แล้วนะ การบังคับควบคุมจัดอยู่ในเกณฑ์ดีมากคมและแม่นยำ แม้รถจะมากขนาดค่อนข้างจะใหญ่ก็ตาม ช่วงล่างนั้นแม้จะเน้นไปทางสปอร์ตแต่ก็ยังสัมผัสถึงความนุ่มสบายได้อยู่เหมือนกัน ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อออกแรงพอดีๆไม่ต้องใช้แรงเยอะในการเหยียบก็หยุดรถได้ อาการหน้าทิ่มหลังยกนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากเนื่องจากการออกแบบช่วงล่างด้านหลังให้ทำมุมใหม่เมื่อเบรกแล้วตัวรถจะอยู่ในระนาบเดียวกัน
ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั้นคือเครื่องยนต์ ดีเซล 2.2 ลิตรอุปกรณ์ต่างๆนั้นเหมือนกับเครื่องเบนซินซึ่งที่จะแตกต่างกันนั้นคือเครื่องยนต์กับเกียร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอีกนิดนึงเพื่อที่สามารถรองรับแรงบิดของเครื่องดีเซลที่มีมากกว่าเครื่องเบนซินแต่การตอบสนองนั้นต้องบอกว่าอย่าพลาดเป็นอันขาดหากมีโอกาสได้เพราะอัตราเร่งมาแบบหนังคนละม้วนกับเครื่องยนต์เบนซินไม่ว่าเรื่องของแรงบิดที่มีอย่างมหาศาลมีแรงม้าอยู่ที่ 175 แรงม้ากดคันเร่งหนักๆมีหลังติดเบาะ
ส่วนจุดเด่นที่มาสด้าไม่สามารถนำเสนอในครั้งนี้ได้นั้นคืออัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่หลายคนสงสัยจะดีแค่ไหนคงมีโอกาสได้ลองในโอกาสต่อไป เพราะครั้งนี้ทางมาสด้าได้แนะนำและให้สัมผัสกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟใหม่ที่เขาเคลมไว้ว่าประหยัดเทียบเท่ากับ ไฮบริด แต่จ่ายน้อยกว่าต้องคอยดูว่ารถ มาสด้า ซีเอ็กซ์ -5 ที่จะเปิดตัวในบ้านเราราคาจะเป็นยังไงอีกไม่นานเกินรอ
#####################################################
premsak@caronline.net