ข่าวจากโตโยต้ามี 2 ข่าว ข่าวแรก โตโยต้า เดินหน้า โครงการ “ECO Dealership Outlet”ต่อเนื่อง เปิดแห่งแรกในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล


นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประธานในพิธีพร้อมด้วย นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ นายอนันต์ เภตรา ประธาน บริษัท โตโยต้า เภตรา จำกัด สาขาลาดหลุมแก้ว ทำพิธีเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการ Eco Dealership Outlet แห่งแรกในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่สร้างขึ้นภายในข้อกำหนดการตรวจประเมินมาตรฐานสิ่งแวดล้อมจากสถาบันอาคารเขียวไทย เพื่อเป็นการยกระดับการดำเนินงานและการบริการให้มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนมากยิ่งขึ้น ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2555 ณ บริษัท โตโยต้า เภตรา จำกัด สาขาลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี

โครงการ Eco Dealership Outlet เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ในการยกระดับมาตรฐานโชว์รูมและศูนย์บริการให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด การประหยัดพลังงาน (Economy) และ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม (Ecology) ดำเนินงานภายใต้มาตรฐานการตรวจประเมิน Thai Green Building Certification ที่กำหนดขึ้นโดยสถาบันอาคารเขียวไทย* เพื่อเป็นการต่อยอดการดำเนินงานภายใต้แนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรที่ว่าด้วยการบูรณาการความร่วมมือในการรับผิดชอบต่อสังคมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ (Fully Integrated CSR Across Value Chain) ผ่านการดำเนินงานของผู้แทนจำหน่ายฯ โดยได้เปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการภายใต้มาตรฐาน Eco Dealership Outlet เป็นแห่งแรกในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ณ บริษัท โตโยต้า เภตรา จำกัด สาขาลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ซึ่งนับเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการของโตโยต้าแห่งที่ 2 จากทั่วประเทศที่ได้ดำเนินโครงการ Eco Dealership Outlet อีกด้วย


มาตรฐาน Eco Dealership Outlet ของโตโยต้า ประกอบด้วยแนวคิด การประหยัดพลังงาน (Economy) และ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม (Ecology) โดยจะให้ความสำคัญในการก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการ ดังนี้

 การจัดวางผังอาคารและภูมิทัศน์ ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อลดความร้อนภายในบริเวณอาคาร
 การอนุรักษ์น้ำ โดยการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำ และ การเลือกใช้น้ำจากแหล่งน้ำทดแทนน้ำประปา
 การอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าและแสงสว่าง ทั้งจากระบบปรับอากาศ ระบบแสงสว่าง การออกแบบผังอาคารให้มีความสว่างของแต่ละพื้นที่เหมาะสมกับการใช้งาน หรือการใช้อุปกรณ์อัตโนมัติควบคุมแผงไฟ
 การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดและสะท้อนความร้อนสู่อาคาร ทั้งทางผนัง กระจก และหลังคา
 การควบคุมคุณภาพสภาวะแวดล้อมภายในอาคาร ทั้งการป้องกันมลภาวะจากภายนอก และการป้องกันไม่ให้มลภาวะที่เกิดภายในอาคารไหลเข้าสู่ระบบปรับอากาศ รวมถึงการหลีกเลี่ยงวัสดุที่มีสารพิษภายในอาคาร


นอกจากการดำเนินงานภายใต้มาตรฐาน Eco Dealership Outlet แล้ว บริษัท โตโยต้า เภตรา จำกัด สาขาลาดหลุมแก้ว ยังได้มีการเลือกใช้พลังงานทดแทนผ่านการติดตั้งระบบเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ และ กังหันลม เพื่อเป็นการนำพลังงานธรรมชาติมาแปรเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบริเวณโครงการ โดยจัดสรรพื้นที่ของโชว์รูมและศูนย์บริการสำหรับการทำสวนหย่อมถึงร้อยละ 25 อีกด้วย

การดำเนินงานภายใต้มาตรฐาน Eco Dealership Outlet นี้ ถือเป็นการยกระดับการดำเนินงานของโชว์รูมและศูนย์บริการ ที่โตโยต้าผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อเป็นการส่งต่อความสุขให้แก่ชุมชนเนื่องในโอกาสที่โตโยต้าได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบรอบ 50 ปี จากเดิมที่มีการกำหนดให้ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทุกรายดำเนินงานภายใต้มาตรฐานสิ่งแวดล้อม ISO 14001 อันเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรที่ว่าด้วยการ บูรณาการความร่วมมือในการรับผิดชอบต่อสังคมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ซึ่งมาตรฐานใหม่นี้ นอกจากจะช่วยลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุน และลดการปล่อยมลพิษแล้ว ยังรวมถึงการปรับภูมิทัศน์และบรรยากาศในการทำงานที่ดี ซึ่งจะเป็นการสร้างความพึงพอใจของพนักงาน ทำให้พนักงานมีสุขภาพกายและใจที่ดี นำมาซึ่งแรงจูงใจในการทำงานอย่างเต็มศักยภาพ ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและการบริการที่ดีไปสู่ลูกค้าอีกทางหนึ่ง ซึ่งในปี พ.ศ. 2555 นี้ โตโยต้ามีแผนจะเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการภายใต้มาตรฐาน Eco Dealership Outlet แห่งทั้งสิ้นจำนวน 9 แห่ง อีกทั้งยังมีแผนการผลักดันโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีอยู่จำนวน 345 แห่งในปัจจุบัน ให้เลือกพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานภายใต้มาตรฐาน Eco Dealership Outlet เท่าที่สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารเดิม ภายใต้หัวข้อ การอนุรักษ์น้ำ การอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าและแสงสว่าง และ การควบคุมคุณภาพสภาวะแวดล้อมภายในอาคาร ต่อไป

thunyaluk@caronline.net


ข่าวที่สอง มูลนิธิโตโยต้า สนับสนุน 14 องค์กรสาธารณกุศล

พลตำรวจเอกเภา สารสิน ประธานมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย และนายประมนต์ สุธีวงศ์ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบทุนสนับสนุนประจำปี พ.ศ. 2555 แก่องค์กรสาธารณกุศลและสถาบันการศึกษา 14 แห่ง รวมมูลค่า 20.59 ล้านบาท เพื่อร่วมส่งเสริมและพัฒนาสังคมไทยให้เข้มแข็ง เป็นสังคมที่เติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมผู้บริหารระดับสูงร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันพุธที่ 11 กรกฎาคม ศกนี้ ณ ห้องลอนดอน 3 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ถ.วิทยุ


มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ได้สนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรสาธารณกุศล ทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการมอบเงินทุนสนับสนุนเป็นประจำทุกปี โดยมุ่งเน้นในการส่งเสริมสังคมอย่างยั่งยืนผ่าน 3 แนวทาง ได้แก่
 ส่งเสริมการศึกษาแก่เด็กที่อยู่ห่างไกล รวมถึงสนับสนุนการศึกษาประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน
 พัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน และคนพิการ รวมถึงส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
 ส่งเสริมการดำเนินการขององค์กรต่างๆ เพื่อสาธารณประโยชน์

การพัฒนาชุมชนและสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจ จากทุกภาคส่วนในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและดำเนินกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ และการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในด้านความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อม สุขอนามัย และการศึกษา ซึ่งนับเป็นรากฐานที่สำคัญ ในการพัฒนาชุมชนให้สามารถดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข


ในปี พ.ศ. 2555 มูลนิธิโตโยต้าฯ ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนให้แก่ 14 องค์กรสาธารณกุศล รวมมูลค่า 20.59 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

<<ด้านการศึกษา>>
หน่วยงาน กิจกรรม
1. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 1.1 โครงการ “เยาวชนไทยวันพรุ่งนี้”
1.2 ทุนการศึกษานักเรียนนักศึกษาในภาคเหนือ
2. มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทุนการศึกษานักเรียนนักศึกษาในภาคตะวันออกเฉียง- เหนือ
3. มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ทุนการศึกษานักเรียนนักศึกษาในภาคใต้
4. มหาวิทยาลัยบูรพา ทุนการศึกษานักเรียนนักศึกษาในภาคตะวันออก
5. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โครงการรางวัลผลงานวิชาการ TTF Award
6. มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ ทุนสนับสนุนด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม
7. คณะพยาบาลศาสตร์ ม. ขอนแก่น 7.1 โครงการ “สานสายใยเด็กไทยรักสุขภาพ 2555”
7.2 ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์

<<ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต>>
หน่วยงาน กิจกรรม
8. มูลนิธิป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 8.1 โครงการ “บ้านตะวันใหม่”
8.2 ทุนสนับสนุนแก่บุตรธิดาเจ้าหน้าที่ ปปส.
9. มูลนิธิหมอเสม พริ้มพวงแก้ว โครงการ “พ่อแม่อุปถัมภ์”
10. คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น โครงการหนูรักผักสีเขียว
11.สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย โครงการศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขปากแหว่งเพดานโหว่และความพิการอื่นในเด็ก

<<ด้านสิ่งแวดล้อมและการดำเนินการขององค์กรฯ>>
หน่วยงาน กิจกรรม
12. สมาคมปกาเกอะญอเพื่อการพัฒนาสังคม
และสิ่งแวดล้อม โครงการ “ต้นน้ำ ต้นชีวิต”
13. มูลนิธิพระดาบส โครงการพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้
14. โครงการไม้ดอกเมืองหนาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการการพัฒนาการปลูกไม้ดอกไม้ประดับในโครงการไม้ดอกเมืองหนาว


มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2535 ในโอกาสที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ดำเนินกิจการในประเทศไทยครบ 30 ปี ด้วยเงินทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 30 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2546 โดยนำดอกผลที่ได้รับจากทุนจดทะเบียนมาใช้ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 20 ปี
จวบจนปัจจุบัน มูลนิธิฯ ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมสังคมไทยจำนวนทั้งสิ้นกว่า 340 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น
 ส่งเสริมสังคมทางด้านการศึกษา 198 ล้านบาท
 ส่งเสริมคุณภาพชีวิต 83 ล้านบาท
 ส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อมและการดำเนินการขององค์กรสาธารณกุศล 59 ล้านบาท

พลตำรวจเอกเภา สารสิน ประธานมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย กล่าวว่า “การมอบทุนประจำปี ของมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทยนั้น แม้จะมีความหลากหลายในรูปแบบการดำเนินงานของโครงการที่ได้รับทุน แต่ทุกโครงการล้วนมีจุดประสงค์เดียวกัน คือ มุ่งมั่นที่จะยกระดับชีวิตให้กับชุมชนที่ยังขาดแคลนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นประชากรที่มีศักยภาพ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป และนับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือเพื่อส่งเสริมสังคมไทยระหว่าง มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างสังคมไทยให้มีความเข้มแข็ง อันจะก่อให้เกิดการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนสืบไป ซึ่งเป็นการมุ่งมั่นตอบแทนสังคมไทยตามปณิธานที่โตโยต้า ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี”

thunyaluk@caronline.net

Facebook Comments