มหาอุทกภัยครั้งใหญ่นี้แม้จะทุกข์เพียงใดแต่ลึกๆก็พบน้ำใจน้อยๆในยามยาก โดย: ชาญวิทย์ ทรัพย์สุทธิ


เวลานี้เชื่อเหลือเกินครับว่า ทุกคนทุกหย่อมหญ้าโดยเฉพาะนอกจาก จังหวัดรอบนอกกรุงเทพมหานคร จังหวัดในปริมณฑล หรือแม้แต่กรุงเทพมหานครเองก็ได้รับผลกระทบทั่วกัน ตัวผมเองนั้นก็เช่นเดียวกัน ยิ่งมีลูกอ่อนแรกเกิดด้วยจึงลำบากเป็นทวีคูณ เชื่อว่าหลายคนเครียด วิตกกังวล ไม่มีใครเลยที่มีความสุข เพราะคิดกันว่าเมื่อไหร่เหตุการณ์จะจบลง พวกเขาเหล่านั้นและตัวผมเองจะกลับเข้าบ้านตัวเองได้ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าอีกไม่นานน้ำก็คงลดลง แต่ความจริงแล้วเหมือนหลอกตัวเองไปวันวัน ระดับน้ำไม่มีท่าทีที่ดีขึ้นเลย โดยเฉพาะบริเวณแถบ บางใหญ่ บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

นอกจากผลกระทบด้านจิตใจ เป็นภาพรวมของสภาพที่ผมบอกกับตัวเองเสมอเมื่อผมต้องเดินทางไปดูบ้าน หรือต้องผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วม ทุกอย่างดูหงอยๆ ดูเหงาๆชอบกล บางเส้นทางของถนนระหว่างฝั่งที่แห้งกับฝั่งที่ถูกน้ำท่วมขัง ระยะทางเพียงแค่ข้ามสะพานกลับเป็นคนละเรื่องต่างกันโดยสิ้นเชิง ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า นี่มันอะไรหรือ เหมือนภาวะสงครามเลย เหมือนอะไรที่บอกตัวเองไม่ถูก นอกนั้นก็รวมไปถึงภาวะข้าวยากหมากแพง ของทุกอย่างขาดแคลน ไม่ว่าจะไปหาที่ไหนทั้ง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และขนาดย่อย ไม่มีเลยมีแต่แผงเปล่าๆ และยิ่งไปกว่านั้น น้ำดื่มยิ่งหายาก จนหากที่ไหนมีขายก็จะจำกัดการจำหน่ายต่อคนต่อครอบครัว


เชื่อครับว่าช่วงแรกทุกคนต้องปรับตัวเข้าสู่ภาวะนี้กัน หลายคนไม่เคยลำบาก หลายคนไม่เคยพายเรือ และหลายคนไม่เคยเดินย่ำน้ำ และไม่รู้ว่าการเผชิญกับสิ่งต่างๆที่มากับน้ำขังทั้งน้ำเน่าเสีย และปัญหาไฟฟ้าตามบ้านเรือนต่างๆ และการสัญจรจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งยิ่งลำบากแสนสาหัส การใช้เวลานั้นต้องบวกไปอีก 2 – 3 เท่าตัวกันเลย ยังไม่รวมราคาสิ่งของและที่สำคัญข้าวแกง อาหารกล่องขายกันแพงมาก อาชีพใหม่ที่ผุดขึ้นมาในทันทีเพื่อให้ตอบรับต่อชีวิตประจำวันของผู้คนที่ต้องเดินทางจึงปรากฏ นั่นคือ เรือรับจ้างต่างๆ และราคานั้นแพงมาก บางทีคิดต่อเที่ยว 500 – 1000 บาทก็ยังมี

แต่แม้เราจะพบเห็นการเอาเปรียบ การหาเงินหาทองบนความยากลำบากนั้นก็ยังมี น้ำใจพบเห็นกันอยู่และนั่นทำให้ผมมีรอยยิ้ม และผุ้คนพบรอยยิ้มจากน้ำใจน้อยๆนี้ คือผู้ที่ประสบภัยด้วยกัน จากที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยพูดกัน ไม่เคยเห็นหน้ากัน กลับช่วยกัน ทักทายกัน ผมสัมผัสสิ่งนี้และได้สัมผัสมือพวกเขา สัมผัสถึงน้ำใจช่วยเหลือ ที่เราได้รับสายสัมพันธ์สายใย ในทันทีตรงนั้น แต่นั่นร่างกายเราต้องดี ด้วยนะครับ เพราะคงไม่มีใครช่วยได้ทันหากเราต้องล้มในน้ำที่เราเดินฝ่าไป ครึ่งตัว เพราะล้มก็เหมือนจมน้ำในทันที และอย่าบอกว่าหากสำลักน้ำเข้าไปจะผลเป็นอย่างไรบ้าง มองไม่ออกจริงๆ และชาวบ้านในท้องที่ ในหมู่บ้านที่จัดคนหนุ่ม คนที่มีร่างกายแข็งแรงประจำในหมู่บ้าน เพื่อคอบเฝ้าระวัง โจรขโมย ที่ฉวยโอกาสนี้เข้าไปขโมยทรัพย์สินตามบ้านต่างๆ ในหมู่บ้านผมเองก็มีข่าวรุนแรงในเรื่องนี้เช่นกัน


แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมคิดว่าการที่เราพาตัวเองและครอบครัวรอดพ้นมาได้ก็ดีที่สุดแล้ว เพราะเรายังมีชีวิตอยู่ ทรัพย์สิน เงินทองจำเป็นก็จริงแต่ก็เป็นสิ่งนอกกาย เพราะหากเรายังมีชีวิตเราก็ยังมีโอกาสหามาได้ ผมหวังและอยากให้บทความนี้สะท้อนในกำลังใจ ที่ผมเชื่อว่าใช่ว่าจะปลุกมันมาได้ง่ายๆ ผมเองก็อ่อนแอ และเครียดมากในทุกวัน แต่มันต้องมีครับ ผมหวังว่าการสูญเสีย ของทุกคนที่ประสบภัยทั้งมากทั้งน้อย แม้หลายคนจะต้องเผชิญกับการตกงาน บ้านเสียหายทั้งหลัง แต่เชื่อว่าอยากให้คิดครับว่าหลายคนก็ลำบากไม่แตกต่างกันเช่นกัน

หากทุกฝ่ายเข้ามาร่วมมือ สามัคคีกันในการพร้อมและช่วยกันทุกวีถีทางที่จะแก้ไขปัญหา และเยียวยาช่วยเหลือกันด้วยพลังของน้ำใจแล้ว เชื่อครับว่า ระยะเวลาแม้จะต้องทนกับการผจญปัญหาอุทกภัยนานเพียงใด แต่สุดท้ายเราทุกคนจะชนะได้ด้วยน้ำใจและความร่วมมือของทุกฝ่าย รวมทั้งสำคัญที่สุดองค์กรหน่วยงานต่างๆต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่และให้สิทธิในการลาไม่เสียวันลาใดใด เพื่อเป็นการช่วยเหลือและไม่ซ้ำเติมความทุกข์ยากของทุกๆหัวละแหงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะอย่างน้อยก็เป็นการช่วยเหลือคลายความกังวลใจของผุ้ประสบภัยได้ในบางส่วนก็ยังดีกว่าที่จะไม่มีทางออกที่ดี อย่างน้อยเขายังมีงานเมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ การกอบกู้ก็ยังคงทำได้ตราบที่เขายังมีรายได้ยังมีงานต่อไป และนั่นคือผมเชื่อมั่นว่าทุกคนจะต้องกลับมายืนได้ภายหลังน้ำลดกันถ้วนหน้าครับ

Facebook Comments