3 ค่ายมอเตอร์ไซค์ จับมือร่วมกันพัฒนา
รายงานข่าวจากฝรั่งเศสว่า ค่ายมอเตอร์เตอร์ไซค์ ระดับโลก 3 ค่าย บีเอ็มดับบลิว มอเตอร์ราด, ฮอนด้า มอเตอร์ และ ยามาฮ่า มอเตอร์ ได้ลงนามในความร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการขนส่งสมัยใหม่ อันจะมีผลสำหรับรถมอเตอร์ไซเคิล 2 ล้อ ที่จะได้ประโยชน์จากงานนี้ และพร้อมลงมือทำงานร่วมกันในกิจการร่วมค้า โดยใช้ชื่อว่า คอนเน็ค มอเตอร์ไซเคิล คอนซอร์เตียม Connected Motorcycle Consortium
การลงนามในความร่วมมือนี้ กลุ่มผู้ผลิตรถจักรยานยนต์หลายบริษัทในยุโรป ที่รวมกลุ่มกันใช้ชื่อว่า เอซีอีเอ็ม กลุ่มผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ยุโรป ได้ร่วมลงนามแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2557 โดยระบบการขนส่งสมัยใหม่ที่กำลังพัฒนาอยู่นี้ จะนำเสนอสู่สาธารณะนับแต่ปี 2563 เป็นต้นไป แต่เพื่อให้การพัฒนาระบบรวดเร็วขึ้น ผู้ผลิตรายสำคัญ 3 แห่งนี้ ได้ร่วมลงนามที่จะร่วมกันพัฒนาระบบ C-ITS ล่วงหน้าไปก่อน
จากภาพ ซ้าย คาร์ล วิคเตอร์ ชอลเลอร์, อีวีพี ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ บีเอ้ฒดับบลิว มอเตอร์ราด, เต็ทสูโอะ ซูซูกิ, ฝ่ายปฏิบัติการ ฮอนด้า มอเตอร์ มอเตอร์ และ ทากาอากิ คิมูระ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์เทคโนโลยี และกรรมการ ยามาฮ่า มอเตอร์ ร่วมจับมือหลังลงนามในบันทึกความร่วมมือ
การลงนามความร่วมมือนี้ กระทำในการประชุม เวิลด์ คอนเกรส ที่ฝรั่งเศส ที่ประชุมร่วมกันเกี่ยวกับระบบการขนส่งสมัยใหม่ ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีล่าสุด เข้าร่วมในการปฏิบัติการ และทั้งสามค่าย ยังได้ชักชวนผู้ผลิตอื่นๆ ให้เข้าร่วม เพื่อเป็นการเร่งรัดการพัฒนาด้านความปลอดภัยสำหรับการใช้รถมอเตอร์ไซค์ 2 ล้อ
ค่ายยามาฮ่า ได้ลงนามเป็นกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาระบบ คาร์2คาร์ Car2Car ซึ่งเป็นการสื่อสารระหว่างยานยนต์ที่วิ่งอยู่ในท้องถนน ในบริเวณใกล้เคียงกัน และตระหนักดีว่า จากการทำงานร่วมกับค่ายรถยนต์ รถเพื่อการพาณิชย์ และยานยนต์อื่นๆ ในการร่วมเจาะจงว่าวัตถุสิ่งไหน ควรใช้เป็นสิ่งสื่อสารสัญญาณ ทำให้ตระหนักดีว่า ความจำเป็นสำหรับการพัฒนาสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ก็มีความจำเป็นไม่แพ้กัน
แต่จากความแตกต่างของการพัฒนาระบบฐานข้อมูล ทำให้ค่ายมอเตอร์ไซค์ เข้าใจถึงการเริ่มต้นวางระบบอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะไม่เหมือนกับฐานข้อมูลของ รถยนต์ หรือรถเพื่อการพาณิชย์ อันอาจแตกต่างลงไปในรายละเอียดบางประเด็นได้ จำเป็นต้องใช้ฐานข้อมูลที่ค่ายมอเตอร์ไซค์มีความเข้าใจตรงกัน เพื่อให้งานพัฒนาระบบหรือการเขียนข้อมูล เพื่อใช้ในการคำนวณ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงร่วมลงนามดังกล่าว