ซิดนีย์ ออสเตรเลีย, 15 ตุลาคม 2553 – ฟอร์ดเตรียมชิงส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มลูกค้ารถกระบะใหม่ทั่วโลกด้วยการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะคันแรกที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้กลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกตามแนวทางการทำงานแบบ One Ford

เรนเจอร์ใหม่ นับเป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า นอกจากการผลักดันให้เกิดการพัฒนาและผลิตรถที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทั่วโลกซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอแล้ว ฟอร์ดยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการผลิตรถทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้น ควบคู่กันไป

ด้วยแผนการผลิตสินค้าในปริมาณมากเพื่อจำหน่ายทั่วโลก เรนเจอร์ ใหม่ จะได้รับการพัฒนาขึ้นบนโครงสร้างตัวถังเดียวที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก แทนการใช้โครงสร้างตัวถัง 2 แบบที่ใช้อยู่ในแต่ละภูมิภาคในปัจจุบัน


ฟอร์ดได้ใช้ประโยชน์จากบุคคลากรในประเทศออสเตรเลียที่มีความสามารถในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างรอบด้าน รับหน้าที่เป็นผู้นำในการสร้างสรรค์รถฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สำหรับตลาดโลก ทีมงานพัฒนารถฟอร์ด เรนเจอร์ ที่มีทักษะอย่างมากนี้ ประจำอยู่ที่หน่วยงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และสนามทดสอบรถยนต์ที่มีความทันสมัยอย่างมากของฟอร์ดในเมืองเมลเบิร์นและจีลอง ทั้งนี้ โครงการพัฒนาเรนเจอร์นับเป็นโครงการออกแบบและวิศวกรรมยานยนต์เพื่อการส่งออกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีในประเทศออสเตรเลีย โครงการนี้จึงได้รับการสนับสนุนจากทั้งในระดับประเทศซึ่งได้แก่รัฐบาลกลางของประเทศออสเตรเลีย และรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐวิคทอเรีย

ฟอร์ด ออสเตรเลีย ซึ่งรับบทนำในการทำงานครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่างานด้านวิศวกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์กำลังค่อยๆ พัฒนาในฐานะส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การทำงานแบบ One Ford และศูนย์กลางทางด้านวิศวกรรมของฟอร์ดที่ตั้งอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ต่างกำลังช่วยกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ระดับโลกให้กับบริษัท

“ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการทำงานภายใต้ระบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกตามแนวคิดแบบ One Ford นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงการเปิดตัว” เดอร์ริค คูแซค รองประธานกลุ่มผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว “ทีมวิศวกรของเราในออสเตรเลียสามารถเข้าถึงทรัพยากรระดับโลกที่มีอยู่ ตลอดจนสนามทดสอบรถต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือ องค์ความรู้ในการพัฒนารถกระบะที่มีอยู่ทั้งหมดของบริษัทฯ”

รถกระบะคันใหม่นี้จะเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่ได้รับการวางจำหน่ายในตลาดต่างๆ มากที่สุด เมื่อเทียบกับรถฟอร์ดที่มีอยู่ทั้งหมด เรนเจอร์ใหม่ที่มีตัวถังแบบดับเบิล แค็บ 4 ประตู จะวางจำหน่ายในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังจะมีการผลิตรุ่นธรรมดาและแบบโอเพ่นแค็บอีกด้วย รถกระบะระดับโลกใหม่ของฟอร์ดเตรียมเปิดตัวพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ควบคู่กับความสามารถในการใช้งานที่เหนือระดับยิ่งขึ้น


โรงงานผลิต 3 แห่ง เพื่อป้อนตลาดทั่วโลก
เรนเจอร์ ใหม่ ที่จะวางจำหน่ายทั่วโลกจะได้รับการผลิตขึ้นในโรงงานประกอบรถยนต์ที่มีความทันสมัยซึ่งฟอร์ดคัดสรรแล้วว่าเป็นโรงงานที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์อย่างมากในการตอบสนองต่อตลาดรถกระบะทั้งในประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ที่ซึ่งรถกระบะขนาดคอมแพ็คได้รับความนิยมอย่างมาก

โรงงาน 3 แห่งที่จะผลิตเรนเจอร์ ใหม่ ในอนาคตตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในประเทศไทย ทวีปแอฟริกา ในประเทศแอฟริกาใต้ และแห่งสุดท้ายคือ ทวีปอเมริกาใต้ ในประเทศอาร์เจนติน่า
“กลยุทธ์ในการผลิตเรนเจอร์ได้รับการพัฒนาขึ้นจากมุมมองของการทำงานในระดับโลกอย่างแท้จริง” จอห์น เฟลมมิ่ง รองประธานอาวุโส ฝ่ายการผลิตและแรงงานสัมพันธ์ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว “เราต้องตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการเลือกที่ตั้งของโรงงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สุงสุด รวมทั้งพิจารณาถึงผู้ผลิตชิ้นส่วน และการกระจายสินค้าอย่างทั่วถึง การตัดสินใจเรื่องดังกล่าวที่ยึดแนวทางการทำงานแบบ One Ford ตั้งแต่ต้น ทำให้เรามีโอกาสที่จะสร้างความสำเร็จในระดับโลกให้กับฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และได้รับประโยชน์สูงสุดจากโอกาสทางธุรกิจในประเทศเหล่านั้นอีกด้วย”

กลยุทธ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงโอกาสในการเติบโตที่เกิดจากความต้องการของลูกค้าในทวีปเอเชีย แอฟริกา อเมริกาใต้ และตลาดส่งออกอื่นๆ ซึ่งรวมถึงประเทศที่เป็นฐานการผลิตของรถกระบะในแต่ละภูมิภาค

หนึ่งในแผนการทำงานตามแนวคิดแบบ One Ford ซึ่งเริ่มนำมาใช้ปฏิบัติตั้งแต่พ.ศ. 2549 นั้นคือการลงทุนเกือบ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9.2 หมื่นล้านบาท) เพื่อพัฒนาโรงงานทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา ให้พลิกโฉมหน้าจากโรงงานที่มีปริมาณการผลิตน้อยเพื่อจำหน่ายในประเทศ ให้เป็นโรงงานที่สามารถผลิตรถได้ในปริมาณมากเพื่อการจำหน่ายทั่วทั้งภูมิภาค ฟอร์ดยังได้เดินหน้าตามแผนกลยุทธ์เชิงรุกในการสร้างความเติบโตทางธุรกิจอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในประเทศอินเดียและจีน รวมทั้งเพิ่มการจ้างงานมากกว่า 25,000 ตำแหน่ง ทั่วภูมิภาค

“เรากำลังเดินหน้าขยายการผลิตในแบบที่ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ในอดีต” โจ ฮินริคส์ ประธาน ฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา กล่าว “เรามีแผนทางธุรกิจที่จะเติบโตอย่างมีผลกำไรด้วยการจำหน่ายรถยนต์ระดับโลกรุ่นใหม่ๆ ซึ่งเป็นผลจากการทำงานภายใต้แนวคิดแบบ One Ford”


ปริมาณการผลิตเรนเจอร์ ใหม่ จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงของการเปิดตัวรถคันนี้สู่ตลาดโลก การเริ่มต้นผลิตเรนเจอร์ ใหม่ จะเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2554 ที่โรงงานของบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) ในจังหวัดระยอง ซึ่งฟอร์ดและมาสด้าเพิ่งประกาศเพิ่มการลงทุนมูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท) เพื่อยกระดับโรงงานให้มีศักยภาพในการผลิตเรนเจอร์ใหม่เพื่อการจำหน่ายในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา

ฟอร์ดได้ลงทุนมูลค่า 412 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.26 หมื่นล้านบาท) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเรนเจอร์และเครื่องยนต์ดีเซลพูม่าในประเทศแอฟริกาใต้ พร้อมการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและความเชี่ยวชาญให้แก่ผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ การลงทุนอื่นๆ ของฟอร์ดเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตรถทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา ยังรวมถึงการลงเสาเข็มเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในประเทศจีนและไทย และการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกเท่าตัวที่โรงงานในเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย

โรงงานของฟอร์ดในแอฟริกาใต้จะผลิตเรนเจอร์ ใหม่ เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังทวีปยุโรป รวมทั้งประเทศรัสเซีย ตุรกี และประเทศอื่นๆ ที่กำลังพัฒนาทั้งในทวีปแอฟริกาและอื่นๆ อีกมากมาย

หลังจากช่วงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แล้วนั้น ประเทศอาร์เจนติน่าจะเริ่มดำเนินการผลิตฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เพื่อจำหน่ายในทวีปอเมริกาใต้และภูมิภาคอื่นๆ ที่เป็นตลาดสำคัญของรถกระบะขนาดคอมแพ็คต่อไป

โรงงานต่างๆ ของฟอร์ดจะผลิตรถกระบะรุ่นใหม่นี้โดยใช้กระบวนการ เครื่องมือ และเทคโนโลยีร่วมกัน โดยโครงสร้างตัวถังใหม่นี้เป็นผลงานการพัฒนาร่วมกันระหว่างฟอร์ดและมาสด้า โดยมาสด้าเป็นผู้ดูแลด้านสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถัง ส่วนฟอร์ดเป็นผู้นำด้านการออกแบบและงานวิศวกรรมยานยนต์ให้กับรถทั้งสองแบรนด์

การพัฒนาและนำเอาแผนกลยุทธ์แบบ One Ford มาใช้ ยังช่วยยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างมาก และทำให้ฟอร์ดได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการผลิตสินค้าในปริมาณมาก

“การนำเอาความต้องการรถกระบะขนาดคอมแพ็คจากภูมิภาคหลักๆ ของโลกมารวมกัน ทำให้เรามีกรณีศึกษาทางธุรกิจที่สำคัญที่จะทำให้เรนเจอร์ ใหม่ เป็นรถกระบะระดับโลกอย่างแท้จริง” ฮินริคส์ กล่าว “ปริมาณความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคเดียวนับว่าไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดการลงทุนเพื่อการสร้างสรรค์รถกระบะใหม่ทั้งคัน แต่เมื่อมองไปถึงความต้องการจากทั่วโลกและการที่ฟอร์ดมีทรัพยากรระดับโลกอยู่ในมือ รถกระบะระดับโลกที่มีความครบพร้อมคันใหม่จึงได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อทุกภูมิภาค และนี่คือพลังของ One Ford”

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสุงสุดในการผลิต โรงงานแต่ละแห่งของฟอร์ดได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ การผลิตเรนเจอร์ใหม่เพียงรุ่นเดียวเพื่อวางจำหน่ายทั่วโลกนับว่าเป็นการผลิตที่ต้องใช้วัสดุแบบเดียวกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทระดับโลกอย่างฟอร์ดสามารถที่จะสั่งซื้อชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดจากผู้ผลิตชิ้นส่วนทั่วโลก

ตัวถังภายนอกของเรนเจอร์ ใหม่ จะได้รับการผลิตขึ้นด้วยแผ่นเหล็กที่ได้รับการออกแบบเหมือนกัน ไม่ว่าจะผลิตขึ้นจากภูมิภาคใดก็ตาม

และเพื่อการทำให้โรงงานต่างๆ เหล่านี้พัฒนาขึ้นเป็นโรงงานประกอบรถยนต์ระดับโลกที่สามารถผลิตได้ในปริมาณมาก ฟอร์ดได้สร้างความสัมพันธ์กับผู้ผลิตชิ้นส่วนระดับท้องถิ่นอย่างมีเอกลักษณ์ เช่นในแอฟริกาใต้ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรายหนึ่งจะเป็นผู้ผลิตแผ่นเหล็กขึ้นรูปสำหรับตัวถังรถทั้งคัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการผลิตรถของฟอร์ด

ผลลัพธ์ที่ได้คือการที่ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ ฮินริคส์ กล่าว


ความเหมือนในความต่างของ 180 ประเทศทั่วโลก
เรนเจอร์ ใหม่ พิสูจน์ให้เห็นถึงพัฒนการก้าวสำคัญของฟอร์ดในการวางแผนผลิตรถที่ดึงดูดใจสำหรับผู้บริโภคในระดับนานาชาติ ซึ่งแม้ประชากรในแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกัน แต่พวกเขาต่างมีความต้องการที่เหมือนๆ กัน การผลิตสินค้าที่ลูกค้าทั่วโลกชื่นชอบจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

เรนเจอร์ ใหม่ จะวางจำหน่ายใน 180 ประเทศทั่วโลก โดยจะไม่จำหน่ายในประเทศสหรัฐและแคนาดา ที่ซึ่งรถกระบะขนาดใหญ่กำหนดทิศทางตลาด และฟอร์ด เอฟ-150 สามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดนี้มาได้อย่างยาวนาน

“ฟอร์ด เรนเจอร์ จะเป็นรถที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้างมากที่สุดเมื่อเทียบกับรถฟอร์ดทั้งหมด” คูแซค ผู้ดูแลโครงการพัฒนาเรนเจอร์มาแล้วถึง 2 รุ่น กล่าว “ลูกค้ารถกระบะมีความคล้ายคลึงกันมาก สังเกตได้จากจำนวนประเทศที่เราวางจำหน่ายเรนเจอร์ในปัจจุบัน”

และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้ขับขี่รถกระบะทั่วโลกมีความคล้ายคลึงกันมากที่สุด น่าจะเป็นการที่ทุกคนล้วนให้ความสำคัญสูงสุดกับความน่าเชื่อถือของรถ

“เราตระหนักดีว่าลูกค้าผู้ใช้รถกระบะคือบุคคลที่มีความสำคัญทางสังคมโดยพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ทำงานด้านก่อสร้าง การเกษตร บริการ หรือซ่อมบำรุง พวกเขาคือบุคคลที่ทำให้เศรษฐกิจโลกขับเคลื่อนไปข้างหน้า และสำหรับพวกเขาแล้ว รถกระบะคือเครื่องมือสำคัญในการดำรงชีพ” คูแซค กล่าว “รถกระบะจะต้องทำหน้าที่ได้หลากหลายและมีความน่าเชื่อถือมากกว่ารถรุ่นใดๆ ก็ตามที่เรามีอยู่ เพราะเมื่อใดก็ตามที่รถใช้การไม่ได้ นั่นหมายถึงการที่ลูกค้าของเราไม่สามารถทำงานได้เช่นกัน”

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ซื้อรถกระบะทั่วโลกต่างมองหาพาหนะที่สามารถใช้งานได้ถึง 2 ประเภทพร้อมกัน กล่าวคือ ในช่วงกลางวัน พวกเขามักจะใช้เรนเจอร์ในการทำงานให้สำเร็จลุล่วง ส่วนเวลากลางคืนและในวันหยุด รถกระบะจะต้องทำหน้าที่เป็นรถของครอบครัวด้วย ดังนั้น ทีมงานระดับโลกของฟอร์ดจึงออกแบบและผลิตเรนเจอร์ ใหม่ ให้ตอบสนองต่อลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มองหารถเพื่อการใช้งานทั่วไป ไปจนถึงลูกค้าวัยหนุ่มสาวที่เพิ่งมีครอบครัว และต้องการรถที่ให้ความรู้สึกสปอร์ต

ด้วยเหตุนี้ ฟอร์ดจึงมุ่งพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่ที่มีความเหมือนกันให้มากที่สุดทั่วภูมิภาค โดยใช้ชิ้นส่วนที่เหมือนกันอย่างมากไม่ว่าจะผลิตในภูมิภาคใด ทั้งนี้ เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกตามแนวทางของ One Ford ซึ่งเป็นแผนกลยุทธ์จากแนวคิดของอลัน มูลลัลลี ประธาน ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ที่เน้นย้ำให้มีการลงทุนในโครงสร้างตัวถังเพียงชุดเดียวที่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งด้านความน่าเชื่อถือ ความแข็งแกร่งทนทาน ความสวยงามดึงดูดใจ และการเป็นรถที่ขับสนุก

กลยุทธ์ในการใช้ชิ้นส่วนที่เหมือนกันทั่วโลกยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และทำให้ฟอร์ดสามารถนำเสนออุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายให้เรนเจอร์ ใหม่ อีกด้วย


มาตรฐานงานวิศวกรรมระดับโลก
แนวทางการทำงานแบบใหม่ของฟอร์ดที่ได้รับแรงผลักดันจากกลยุทธ์การทำงานแบบ One Ford ช่วยลดกำแพงที่ปิดกั้นการทำงานของแต่ละภูมิภาคลง เนื่องจากการทำงานในอดีตส่งผลให้รถที่ผลิตในแต่ละภูมิภาคมีมาตรฐานทางวิศวกรรมแตกต่างกัน และเมื่อต้องการจำหน่ายรถในตลาดใหม่ๆ ก็มักจะต้องเสียเวลาในการปรับแก้ผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนใหม่โดยไม่จำเป็น

“การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และเทคโนโลยีหลายรายการทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากฟอร์ดสามารถซื้อชิ้นส่วนได้จากทั่วโลก นับเป็นประโยชน์ประการหนึ่งจากการทำงานแบบ One Ford” แกรี่ โบส์ ผู้อำนวยการด้านสายการผลิต ฝ่ายโครงสร้างตัวถังรถกระบะคอมแพ็คใหม่ของฟอร์ด กล่าว “แนวทางในการสร้างและนำเสนอรถกระบะรุ่นใหม่ รวมทั้งจำแนกรุ่นต่างๆ ของรถจะใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก”

thunyaluk@caronline.net

Facebook Comments
CarOnline Team

Recent Posts