ไส้กรองอากาศ

Brand: HONDA Model: City
Year: 2003 Miles: 20001-40000
From: นายประวิทย์ ตันฑเมืองยศ

ผมติดตามการตอบปัญหาของคุณอามาตลอดครับ ได้ความรู้มากครับ
ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณอา นะคับ พอดีผมมีปัญหาไส้กรองอากาศรถของ
ผมสกปรกมากคับ จะเปลี่ยนใหม่ แต่มีปัญหาสงสัย มีใส้รองอากาศแบบ
พิเศษ ทำด้วยเส้นลวดอะลูมิเนียมเคลือบสารพิเศษ เส้นใยเครือบด้วยน้ำ
มัน ไว้ดักฝุ่น เขาโฆษณาว่าสามารถให้อากาศผ่านเข้ามา ได้ 70 % มาก
กว่าใส้กรองอากาศ แต่ราคาแพงมาก เช่น ยี่ห้อ K&N
ก็เลยอยากถามว่า ประสิทธิภาพจะดีกว่าไ้ส้กรองอากาศของรุ่น
สแตนดาร์ทหรือไม่ครับ ขอขอบคุณครับผม

ผมจะตอบอย่างไรดีล่ะนี่ เพราะปกติ ผมนิยมใช้ของแท้ แบบมาตรฐาน ในการทำงานของผม
แต่หากผมจะปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีกำลังสูงขึ้น ผมก็จะเลือกใช้ของที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ามาตรฐานมาใช้งาน แต่ว่า การนำอะไรอย่างเดียวมาใช้นั้น ผมก็รู้ดีว่า ไม่ได้ช่วยให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทันตาเห็น จะต้องใช้วิธีทำอย่างอื่น ประกอบกับสิ่งอื่น หลายสิ่ง หลายอย่าง มาเพื่อให้ได้กำลังของเครื่องยนต์สูงขึ้น
ใช้อย่างเดียว ไม่ได้ ย้ำว่า ไม่ได้นะครับ

ทีนี้ หากคุณไปเอากรองอากาศแบบประสิทธิภาพสูงมาใช้ คุณก็ต้องทำความเข้าใจเสียก่อน ว่าคำว่าประสิทธิภาพสูงของเขานั้น หมายความถึงเพียงแค่ว่า ปล่อยให้อากาศผ่านเข้าเครื่องยนต์ได้มากกว่าแบบมาตรฐาน เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า จะเพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์ได้ทันทีทันควัน

เพราะอากาศที่ไหลเข้าเครื่องยนต์ ผ่านกรองอากาศมาตรฐาน ก็เพียงพออยู่แล้วสำหรับเครื่องยนต์ใดเครื่องยนต์หนึ่ง การที่ใช้ของที่ปล่อยให้อากาศไหลผ่านเข้าได้มากกว่า ย่อมไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาเป็นชิ้นเป็นอัน

ถ้าจะบอกว่า กรองอากาศแบบแพงนั้น ล้างได้ ใช้ทนทานกว่าแบบมาตรฐาน สกปรกน้อยกว่า ก็ต้องมาคำนึงดูว่า คุณจะใช้นานสักแค่ไหน ล้างได้ ก็ต้องใช้น้ำยาหรือน้ำมันของเขาล้าง เสียทั้งเวลา และเสียทั้งเงินค่าน้ำยาหรือน้ำมันล้างกรองอีก คุ้มไหม ต้องดูราคาของให้ดี

สกปรกน้อยกว่า ยิ่งแล้วใหญ่ กรองอากาศออกแบบมาให้กักฝุ่นละออง อันหมายถึงสิ่งสกปรกในอากาศ หากกรองชนิดใด ปล่อยให้ฝุ่นละอองเข้าไปได้มากกว่า ไม่ได้กักเอาไว้ แล้วจะเป็นของดีกว่าได้อย่างไร ต่อให้สกปรกน้อยกว่ามากแค่ไหน หรือไม่สกปรกเลยก็ยิ่งไปกันใหญ่ จริงไหมครับ

เรื่องอย่างนี้ อยู่ที่ใจของผู้ใช้รถ อยู่ที่ความต้องการที่จะได้อะไรจากความแพง ความมีประสิทธิภาพในการปล่อยให้อากาศไหลผ่านเข้าเครื่องยนต์ ซึ่งก็อย่างที่ผมบอก เข้ามากไปทำไม ในเมื่อของเดิมที่เป็นมาตรฐานก็ใช้ได้ดีอยู่แล้ว พอเพียงแล้ว เอาความเพิ่มเติมไปใช้อะไรตรงไหนกันอีกเล่า ในเมื่อคุณไม่ได้โมดิฟายวาล์ว ให้ใหญ่ขึ้น หรือท่อไอดี ให้อากาศไหลลื่นกว่า ไม่ได้โมดิฟายลูกสูบ กระบอกสูบเพิ่มเลย

ลองดูความจำเป็นในการใช้อากาศของเครื่องยนต์ของคุณก่อนดีกว่ากระมังครับ แล้วค่อยมองกรองอากาศแบบนี้-ธเนศร์