Brand: MITSUBISHI Model: Lancer
Year: 1997 Miles: 20001-40000
From: aunchalee junpraseart
คันนี้ขับมาได้ 5 ปีกว่าค่ะ เป็นเยร์ออโต้ ก็ไม่มีสะดุดหรือกระตุก แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนซ่อมระบบหม้อน้ำไปได้หมาดๆ ซัก 3 วัน ก็เริ่มมีปัญหากับระบบเกียร์ คือ วันแรก ขับๆอยู่เวลาเบารถจะเหยียบเบรกรถจะกระตุกถึงกระชาก จากชั่วโมงละครั้ง2ครั้ง กลายเป็น เวลาเบาหรือเบรกก็เริ่มเป็นทุกครั้ง พอผ่านมาอีกวันหนักกว่าเดิมเลยค่ะ ขับปกติก็วืดๆๆๆ เหมือนจะดับแถมกระตุกอีกตะหาก ตอนนี้ไฟกระพริบยังไม่เริ่มมีนะคะ แต่พอตกเย็นเลิกงานขับกลับบ้าน ก็อาการเดิมตลอดจนรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ (สงสัยงานจะเข้า) ไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ที่หน้าปัดก็เริ่มกระพริบที่ตัว N ค่ะ ทั้งลองเปลี่ยนไปที่เกียร์ 3 ก็ยังกระพริบอยู่ เลยนึกว่าน้ำมันเกียร์หมด ก็จัดการซื้อเติม แล้วปรึกษาพี่ที่บ้าน พี่ชายก็ลองขับดู เข้าเลยซื้อกรองน้ำมันเกียร์มาเปลี่ยน แล้วบอกว่าลองไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ดู เผื่อจะหาย แต่ถ้าไม่หาย ก็เป็นที่เกียร์แล้วหละ ก็จัดการตามนั้น แต่ก็เป็นเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้อาการหนักแล้วค่ะ ขับขึ้นRAMP ยังแทบไม่ไหวเลย ตอนนี้ไม่สบายใจเอาซะเลยค่ะ กลัวจะเป็นปัญหาไปส่วนอื่นหรือเปล่า อีกอย่างรถติดแก๊สด้วย ไม่ทราบว่ามานจะเกี่ยวเนื่องอะไรกันไหมคะ หรือถ้ายังขับต่อไปมานจะเป็นอะไรไหมคะ แล้วจะจะเกี่ยวกับส่วนไหนคะที่มานจะเสีย ค่าซ่อมประมาณเท่าไหร่ค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ
อาจจะเป็นได้ทั้งจากระบบเชื้อเพลิง และเกียร์แหละครับ
ที่ผมว่า เป็นที่เกียร์ก็เพราะเป็นเกียร์อัตโนมัติ ที่จะต้องใช้หม้อน้ำระบายความร้อนมาแลกเปลี่ยนความร้อนของน้ำมันเกียร์ แล้วคุณบอกว่า ไปซ่อมระบบหม้อน้ำ ไม่ทราบว่า ซ่อมอะไรครับ
เปลี่ยนรังผึ้งหรือเปล่า และเปลี่ยนนะ เปลี่ยนรังผึ้งของระบบเกียร์อัตโนมัติหรือเปลี่ยนเป็นรังผึ้งธรรมดา
คือมีท่อระบายความร้อนน้ำมันเกียร์หรือไม่ ในรังผึ้งใหม่ หรือหากไม่ได้เปลี่ยนรังผึ้ง ช่างไปทำอะไรกับท่อระบายความร้อนน้ำมันเกียร์หรือไม่ เพราะอาการนี้ หากเครื่องยนต์ทำงานปกติ รอบเครื่องไม่ได้แกว่ง ยังเร่งขึ้นดีอยู่ ก็อาจจะมาจากเกียร์ได้แน่นอน
ทีนี้ คุณไม่ได้บอกชัดเจนครับ ว่าเครื่องยนต์ทำงานอย่างไร คือคุณมุ่งปัญหาไปที่เกียร์อย่างเดียว ที่ไม่ได้นะครับ ต้องบอกเรื่องเครื่องยนต์ด้วย ผมจึงจะวิเคราะห์อาการใกล้เคียงได้
อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่า ให้เช็กน้ำมันเกียร์ แต่น้ำมันเกียร์ก็เปลี่ยนใหม่เสียแล้ว หวังว่า คงจะเปลี่ยนแค่ในห้องเกียร์ ไม่ได้เปลี่ยนทั้งหมด ดังนั้น น้ำมันเก่าจึงผสมอยู่กับน้ำมันใหม่แค่สองลิตรกว่ากว่า น้ำมันเก่าอยู่อีกสี่ห้าลิตร ยังน่าจะพอเช็กได้ครับ
เช็กโดยดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ขึ้นมา แล้วเอาปลายก้านวัดที่มีน้ำมันติดอยู่นั้น แตะลงบนกระดาษซับสีขาวที่ใช้ในครัว วางบนฝ่ามือ น้ำมันจะกระจายตัวออกไป หากเห็นว่า มีเศษวัสดุสีดำอยู่ในน้ำมันที่กระจายตัวออก นั่นเป็นผงเศษคลัทช์ อันสึกออกมาทำให้เกียร์ไม่มีกำลังขับเคลื่อนตัวรถ
และสีของน้ำมันเกียร์ของรถคุณ อันน่าจะเป็นไดอะควีน จะเป็นสีแดงทับทิบ ใส และสะอาด ต้องไม่เป็นสีเข้ม และไม่เป็นสีคล้ายนมข้นผสมน้ำแดง อันหมายถึงน้ำเข้าไปผสมในน้ำมัน เกิดจากการซ่อมระบบระบายความร้อนที่ผิดพลาด เป็นเหตุให้คลัทช์ร่อนหลุดออกจากแผ่นเหล็ก และเกียร์เสียหาย
หากไม่มีอาการใดจากน้ำมันเกียร์ ก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาของเกียร์ ควรไปดูปัญหาจากระบบแก๊ส ที่อาจจะเป็นปัญหาเพราะกรองตัน หรือแผ่นไดอะแฟรมในหม้อต้มแตกแล้ว ก็เป็นได้ครับ-ธเนศร์