โลตัส ผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นสุดท้าย
สำนักข่าว บีบีซี รายงานข่าวจากกรุงลอนดอน ระบุว่า กรรมการผู้จัดการ แมตต์ วินเดิ้ล Matt Windle ให้สัมภาษณ์ว่า ค่ายโลตัส จะขึ้นสายการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ชื่อ อีมิร่า Emira ซึ่งจะเป็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นสุดท้ายของค่าย โดยรุ่นต่อๆ ไป คาดหวังว่าจะเริ่มทำการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในอนาคต
โรงงานของ โลตัส ใน นอร์โฟล์ค Norfolk ซึ่งทำการปรับโครงสร้างภายใน หลังค่ายจีลี่ เข้าถือหุ้นเต็มตัว เริ่มทำการออกแบบรถรุ่นใหม่ ที่กรรมการผู้จัดการบอกว่า จะเป็นรุ่นสุดท้าย ก่อนเปลี่ยนแปลงจากรถในยุคอะนาล็อค analogue ไปเป็นรถในยุคดิจิตัล digital ในอนาคต
จีลี่ เข้าทำการปรับปรุงโรงงาน เป้าหมายเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิม 3 เท่า รวมทั้งเพื่อเตรียมส่งออก ด้วยงบประมาณมากกว่า 2 พันล้านปอนด์ ราว 80 พันล้านบาท
โลตัส ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2493 โดยวิศวกร โคลิน แชปแมน Colin Chapman ซึ่งถือเป็นโรงงานในสังกัดของทีมแข่ง ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากช่วงระหว่างปี 2503 จนถึงปี 2513 แต่หลังจาก แชปแมน เสียชีวิต โลตัส ก็ประสบปัญหาทางการเงิน ต้องเข้าไปอยู่ใต้ร่มธงของ เจเนอรัล มอเตอร์, บูกัตติ และกลุ่มทุนจากมาเลเชีย โปรตอน แต่ก็ยังสามารถพัฒนารถสปอร์ตอย่าง เอสปริต Esprit ที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ในปี 2560 ค่าย ซีเจียง จีลี่ Zhejiang Geely Holding ก็เข้ามาซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการ และประกาศการปรับปรุงในปีถัดมา แนวโครงการ วิชั่น 80 Vision 80
อีมิร่า ก็คือผลผลิตจากการเข้ามาปรับปรุงของ จีลี่ คาดหวังนำกลับเข้าสู่ตลาดโลกอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งเตรียมที่จะพัฒนารถรุ่นใหม่ ที่อาจเป็นระบบไฮบริด หรือรถยนต์ไฟฟ้า โดย อีมิร่า จะขึ้นสายการผลิตได้ ภายในสิ้นปีนี้