เว็บไซต์ ไชน่า นิวส์เล็ทเตอร์ รายงานข่าวว่า โรงงานฉีดพลาสติคในประเทศจีน ที่ถูกแอสตัน มาร์ติน กล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุในการส่งชิ้นส่วนที่ใช้พลาสติคในการผลิตผิดประเภท ทำให้ต้องมีการเรียกรถเข้ารับการตรวจสอบ เรียกร้องความยุติธรรมจากสื่อ พลาสติค นิวส์ ไชน่า Plastics News China ว่านำชื่อของบริษัทไปกล่าวหาในทางที่ผิด เป็นต้นเหตุให้บริษัทประสบปัญหาทางด้านการเงิน เพราะสูญเสียลูกค้าจำนวนมาก
บริษัท เช็นเซ็น คีเสียง โมลด์ ทูล Shenzhen Kexiang Mould Tool Co. โรงงานฉีดพลาสติคขนาดเล็ก ที่ถูกกล่าวหาจาก แอสตัน มาร์ติน ว่าเป็นผู้ผลิตก้านคันเร่งโดยใช้เรซินผิดชนิด ส่งเป็นชิ้นส่วนในสายการผลิต ได้รับผลกระทบถึงกับต้องปิดโรงงาน โดยที่ แอสตัน มาร์ติน ทำหนังสือแจ้งคณะกรรมการเพื่อความปลอดภัยจากการจราจร ของสหรัฐ เมื่อเดือนมกราคม ระบุว่า โรงงานคีเสียง ผู้ผลิตชิ้นส่วนระดับ ไทร์ 3 Tier 3 ให้เป็นผู้ผลิตพลาสติคที่ใช้ในก้านคันเร่ง ได้รับการว่าจ้างจากผู้ผลิตชิ้นส่วนระดับ ไทร์ 2 Tier 2 ฟาสท์ ฟอร์วอร์ด ทูลลิ่ง Fast Forward Tooling ในฮ่องกง ให้เป็นผู้ผลิต
แต่ในการให้สัมภาษณ์ที่โรงงานคีเสียง เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายชาง ซี่ อัง Zhang Zhi Ang กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัทฯ ไม่มีบันทึกการทำงานร่วมกับ ฟาสท์ ฟอร์วอร์ด ทูลลิ่ง ในเรื่องนี้ แต่เคยผลิตชิ้นส่วนให้ครั้งหนึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว โดยพนักงานจาก ฟาสท์ ฟอร์วอร์ด สองคน นำโมลด์ฉีดพลาสติค และวัตถุดิบมาให้ ว่าจ้างให้ผลิตเป็นชิ้นส่วนตัวอย่าง พร้อมทั้งตั้งคำถามกลับไปยัง แอสตัน มาร์ติน ว่าได้มีการตรวจสอบข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ หรือไม่ ก่อนนำชื่อของบริษัทไปกล่าวหา
โรงงานแอสตัน มาร์ติน ในเมืองวาร์วิค อังกฤษ ผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับหรู ต้องเรียกรถกลับเข้าตรวจสอบมากกว่า 17,000 คัน ทั่วโลก หลังตรวจพบชิ้นส่วนก้านคันเร่งซึ่งทำจากพลาสติค ผลิตจากบริษัทในเมืองดองควาน, ประเทศจีน Dongguan, China ใช้เรซิ่นผิดประเภทในการผลิต ไม่ใช่ไนลอน 6 ชนิด จาก ดูปองต์ ตามคำสั่งที่ระบุโดย แอสตัน มาร์ติน และแจ้งว่า จดหมายที่รายงานต่อทางการสหรัฐ ก็ไม่ได้ระบุว่า โรงงานคีเสียง ตั้งใจใช้เรซินผิดประเภท
พลาสติค นิวส์ ระบุว่า ได้ส่งอีเมล์สอบถามไปยังตัวแทนฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ แอสตัน มาร์ติน แต่ไม่ได้รับคำตอบ ขณะเดียวกัน แอสตัน มาร์ติน ก็ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไชน่า พีเพิล เดลี่ ว่าไม่ได้ระบุว่า โรงงานคีเสียง เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนดังกล่าว
นายชาง ให้สัมภาษณ์ พลาสติค นิวส์ และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอีก 2 ฉบับ ว่า โรงงานคีเสียง ซึ่งมีโมลด์เครื่องฉีดพลาสติค มือสอง เพียง 5 เครื่อง พนักงาน 45 คน ต้องสูญเสียลูกค้าเกือบทั้งหมด ทันทีที่ถูก แอสตัน มาร์ติน กล่าวหา และพนักงานในสายการผลิตลาออก จนเหลือผู้บริหารเพียง 5 คน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นปัญหา แต่ทั้ง แอสตัน มาร์ติน และ ฟาสท์ ฟอร์วอร์ด ก็ไม่ได้พิสูจน์ความจริงให้ปรากฏ เพราะ คีเสียง ผลิตชิ้นส่วนหลากหลายชนิด และส่งมอบกับผู้ผลิตชิ้นส่วนหลายบริษัท แต่ก็ไม่มีแห่งใดแจ้งว่า ใช้วัสดุผิดประเภทมาก่อน
ขณะเดียวกัน พลาสติค นิวส์ ก็ได้ติดต่อไปยัง ฟาสท์ ฟอร์วอร์ด ทูลลิ่ง ทั้งทางโทรศัพท์และ อีเมล์ จากเว็บไซต์ กลับไม่ได้รับการตอบรับ แต่เมื่อเดินทางไปตามที่ตั้งที่ระบุในเว็บไซต์ ในเมืองเช็นเซ็น เมื่อวันที่ 17 ก.พ. กลายเป็นห้องว่าง และที่อยู่ในฮ่องกง ก็เป็นเพียงสำนักงานบัญชี ที่รับจ้างทำงานด้านเอกสารให้เท่านั้น
“ในเมื่อ ฟาสท์ ฟอร์วอร์ด ก็สาบสูญไปแล้ว แอสตัน มาร์ติน จะระบุได้อย่างไร ว่าโรงงานคีเสียง เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เป็นปัญหานั้น” นายชาง กล่าว